วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2561

HS 001-244 สรุปเนื้อเรื่อง

Font size: S , M , L , L+ , L++
HS 001-244 สรุปเนื้อเรื่อง

***สำหรับใครที่ต้องการทบทวน หรืออยากรู้เรื่องราวคร่าวๆทั้งหมดโดยไม่ต้องอ่านเนื้อหาเต็มครับ***

เย่หวูเฉินตื่นขึ้นในดินแดนที่ถูกลืมหลังจากที่หลับไปสิบปี เขาถูกเทพกระบี่ ‘ฉู่ชางหมิง’ ช่วยไว้เมื่อสิบปีก่อน และได้รับการดูแลจากหลานชายของเทพกระบี่ ‘ฉู่จิงเทียน หรือ ต้าหนิว’ เย่หวูเฉินสูญเสียความทรงจำ ในวันนั้นเอง เขาได้พบกับสาวน้อยผมขาวและรับนางเป็นน้องสาวโดยตั้งชื่อให้กับนางว่า เย่หนิงเสวี่ย เขาสัญญาว่าจะไม่ยอมให้นางต้องหิวโหยหรือถูกใครรังแกอีก

ดินแดนที่ถูกลืมแห่งนี้มีม่านพลังลึกลับผนึกไว้ ผู้คนสามารถเข้ามาได้แต่ไม่อาจออกไป เย่หวูเฉินถูก ‘หนานเอ๋อร์’ ที่ติดอยู่ในกระบี่หนานฮวง(กระบี่จักรพรรดิใต้) เรียกให้เข้าไปหา เมื่อเขาขุดดินนำกระบี่หนานฮวงขึ้นมาม่านพลังลึกลับก็ได้แตกทำลายลง

เมื่อไร้ม่านพลัง เย่หวูเฉินจึงคิดตามหาอดีตของตนโดยมุ่งหน้าไปยังเมืองเทียนหลง เขาทิ้งหนิงเสวี่ยไว้เบื้องหลังด้วยเกรงนางจะเป็นอันตราย ทว่าเมื่อหนิงเสวี่ยรู้ นางวิ่งไล่ตามเขาตลอดวันตลอดคืนโดยไม่อาจมีใครหยุดนาง

วันนั้นเอง เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง เย่หวูเฉินเกิดลมปราณปั่นป่วนรุนแรงทั่วร่าง เขาล้มลงและแทบจะตกตาย เมื่อถึงตอนเช้าหนิงเสวี่ยที่วิ่งล้มลุกคลุกคลานมาตลอดทางก็ติดตามมาถึง นางใช้ร่างอันอ่อนแอลากเย่หวูเฉินจนกระทั่งไปถึงเมืองเทียนเล่ยและพบกับ ‘ท่านปู่หลง’ และ ‘หลงเจิ้งหยาง’

เมื่อหนิงเสวี่ยฟื้นขึ้นมาก็ทราบจากท่านปู่หลงว่ามีเพียงไข่อสูรสวรรค์เท่านั้นที่สามารถช่วยชีวิตของเย่หวูเฉินได้ ตกดึกวันนั้น นางลอบไปยังภูเขาอันเป็นที่อยู่ของนกเทียนเล่ยเพื่อขโมยไข่ของมัน บังเอิญนกเทียนเล่ยกลับมาที่รังพอดีทำให้หนิงเสวี่ยตกอยู่ในอันตราย ในวิกฤตเป็นตายมีพลังแผ่พุ่งออกมาจากร่างของหนิงเสวี่ยและสังหารนกเทียนเล่ย นางได้หมดสติลงไปอีกครั้ง

ยามเช้าหนิงเสวี่ยฟื้นขึ้นมาและนำไข่อสูรสวรรค์กลับมาให้ปู่หลง ปู่หลงให้หลงเจิ้งหยางใช้ไข่อสูรสวรรค์รักษาเย่หวูเฉิน ในตอนนั้นเอง ‘พลังหวูเฉิน’ ได้บรรลุถึงขั้นที่สอง และเขาได้ฟื้นขึ้นมา

เมื่อเย่หวูเฉินตื่นขึ้น เขาได้พาหนิงเสวี่ยมุ่งหน้าไปที่เมืองเทียนหลง นับแต่ที่หนิงเสวี่ยได้ช่วยชีวิตเขาไว้ เขาได้สาบานว่าหนิงเสวี่ยจะเป็นอีกครึ่งชีวิตของเขา และใครที่ทำร้ายนาง เขาจะทำให้มันเสียใจไปจนชั่วชีวิต

เขาพบกับหลงเจิ้งหยางระหว่างทาง ดังนั้นจึงเดินทางไปยังเมืองเทียนหลงร่วมกัน ใช้เวลาราวสิบกว่าวันพวกเขาเดินทางมาถึงเมืองเทียนหลง หลงเจิ้งหยางแวะไปที่บ้านหมอกฝันเพื่อไปหา ‘ฉุ่ยเมิ่งฉาน’ ธิดาของประมุขสำนักจักรพรรดิใต้

หลงเจิ้งหยางกลับออกมาด้วยความระทมใจ เขาพาเย่หวูเฉินไปดื่มสุรา และให้หนิงเสวี่ยได้กินอาหารดีๆ เขาเล่าข้อมูลพื้นฐานให้เย่หวูเฉินฟัง

เมื่อพวกเขาออกมาจากร้าน ‘องค์หญิงเฟยฮวง’ หรือ ‘หลงฮวงเอ๋อร์’ บังเอิญนั่งเกี้ยวหงส์ออกมาเที่ยวเล่นนอกวังพอดี นางบังเอิญเจอหนิงเสวี่ยและตกใจกลัว นางจึงสั่งให้ ‘หัวหน้าหวู่ชาง’ สังหารหนิงเสวี่ย เย่หวูเฉินอุ้มหนิงเสวี่ยและใช้เคล็ดเลี่ยงสายลมพลิกร่างเข้าไปจับองค์หญิงเฟยฮวงเป็นตัวประกัน

ราชองครักษ์เข้าล้อมรอบเย่หวูเฉิน ตอนนี้เองเย่หวูเฉินข่มขู่พวกองครักษ์โดยเฉือนลำคอขององค์หญิงเฟยฮวง และบังคับหัวหน้าหวู่ชางให้คุกเข่า

คนใช้ตระกูลเย่เมื่อเห็นเหตุการณ์ก็รีบกลับไปรายงานให้ ‘เย่หนู่’ เนื่องจากเมื่อปีก่อนบุตรชายคนเดียวของตระกูลเย่ได้หายสาปสูญไป ดังนั้นเมื่อทราบข่าว คนตระกูลเย่จึงพากันไปที่ถนนหน้าบ้านหมอกฝัน ‘หวังเวิ่นชู’ ยืนยันว่าเย่หวูเฉินคือบุตรของตนเพราะนอกจากรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกัน เขายังมีรอยจางหลังฝ่ามือซ้ายสามรอยที่เหมือนกันอีกด้วย

เย่หวูเฉินตามพวกเขากลับไปที่ตระกูลเย่และใช้ลูกไม้ในการหยดโลหิตพิสูจน์ตัวตน ตอนนี้เขาจึงมีสถานะเป็นบุตรชายตระกูลเย่โดยสมบูรณ์

สมาชิกตระกูลเย่ได้แก่
เย่หนู่(ปู่) , เย่เว่ย(พ่อ) , หวังเวิ่นชู(แม่) , เย่ฉุ่ยเหยา(พี่สาว) , เย่หวูหยุน(บุตรบุญธรรม)

เย่หวูเฉินได้คนใช้ส่วนตัวสามคนคือ เย่ซี เย่บา และ เสี่ยวลู่ ซึ่งสามคนนี้น่าสงสารโดยเฉพาะเสี่ยวลู่ที่ดูเหมือนจะชอบพระเอกแต่หลังๆบทไม่ค่อยมี

เย่หวูเฉินพาหนิงเสวี่ยไปหา ‘พี่สาว’ และเล่าทฤษฎีบางอย่างให้นางฟัง พร้อมโชว์สกิลวาดภาพขั้นเทพ

ช่วงนี้ใกล้ถึงงานประลองที่จัดขึ้นที่ราชวิทยาลัยเทียนหลง เย่หวูหยุนนำเทียบเชิญมาให้เย่ฉุ่ยเหยาและถูกพระเอกถีบไปหนึ่งดอก

พระเอกแอบขโมยเทียบเชิญของเย่หวูหยุนและใช้พลังปลอมแปลงเอกสารอย่างแนบเนียน จากนั้นพาหนิงเสวี่ยไปร่วมชมงานประลอง

ในงานประลองมีจักรพรรดิ ‘หลงหยิน’ เป็นประธาน การต่อสู้ดำเนินมาจนถึงคู่ของ ‘หลินเสี่ยว’ กับ ‘เล่งหยา’

เล่งหยานำกระบี่คร่าสายลมซึ่งเป็นอาวุธของเทพสงครามฟงเฉาหยางออกมาใช้ แต่ทว่าก็ยังไม่ใช่คู่มือของหลินเสี่ยวและพ่ายแพ้ลง เนื่องจากเล่งหยาเป็นชาวต้าฟงซึ่งเป็นศัตรูกับชาวเทียนหลง ทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากกำลังจะถูกจับตัวและอาจถูกสังหาร

ในเวลานี้เองเย่หวูเฉินก้าวออกมาและกล่าวแก้ต่างให้เล่งหยา เขาปะทะคารมกับ ‘หลินเหยียน’ ปู่สองของหลินเสี่ยวจนอับจนคำพูด

หลินเสี่ยวเสนอทางออกโดยการประลอง จักรพรรดิหลงหยินเห็นชอบและให้หลินเสี่ยวกับเย่หวูเฉินประลองยุทธกัน

เย่หวูเฉินต่อสู้เอาชนะหลินเสี่ยวและเฉือนใบหน้าไปนิดหนึ่งทำให้ฮั่วเจิ้นเทียนผู้เป็นว่าที่พ่อตาของหลินเสี่ยวโกรธมาก เขากระโจนลงมาบนเวทีและท้าเดิมพันกับเย่หวูเฉิน

เย่หวูเฉินใช้เล่ห์เหลี่ยมเอาชนะเดิมพันได้ ทำให้ฮั่วเจิ้นเทียนยอมรับ

หลินเหยียนปู่ของหลินเสี่ยวโดดออกมาอีกคน และท้าเดิมพันโดยการโจมตีด้วยเวทย์ไฟสามครั้ง และแน่นอนว่าเย่หวูเฉินชนะเดิมพันได้อีกรอบเพราะเขาสามารถต้านทานธาตุต่างๆได้อย่างสมบูรณ์

หลินเสี่ยวคิดกู้หน้าโดยการท้าประชันอักษร พวกเขาแข่งวาดรูปและเป่าขลุ่ย แน่นอนว่าเย่หวูเฉินชนะทั้งสองรอบติดพร้อมปักธงฮั่วฉุ่ยโหรวธิดาของฮั่วเจิ้นเทียน

ผลจากงานประลองทำให้เย่หวูเฉินโด่งดัง จากคนขี้โรคกลายเป็นสุดยอดพรสรรค์อันดับหนึ่งและนักศึกษาอันดับหนึ่ง , หลงหยินยกองค์หญิงเฟยฮวงให้พร้อมประทานยศ , เล่งหยายอมรับติดตามเป็นเวลาสิบปี

หลงหยินสั่ง ‘หลินขวง’ ให้จ้าง ‘เถาไปไป’ มือสังหารอันดับหนึ่งให้ทำการสังหารเย่หวูเฉิน

เย่หวูเฉินรู้ว่าเขาจะต้องมีอันตรายจากหลงหยิน ดังนั้นจึงพาเล่งหยาไปเตรียมการรับมือที่ป่าดำ ในระหว่างนี้ก็สอนพี่สาววาดรูป , ไปลวนลามฮั่วฉุ่ยโหรวและกล่อมฮั่วเจิ้นเทียนจนยอมถอนหมั้นกับตระกูลหลิน

หลังจากที่ตระกูลฮั่วถอนหมั้นกับตระกูลหลิน เย่หวูเฉินก็ไปที่บ้านหมอกฝันเพื่อทำข้อตกลงกับฉุ่ยเมิ่งฉาน ให้สำนักจักรพรรดิใต้คุ้มครองตระกูลเย่เป็นเวลาสามปีโดยแลกกับการบอกที่อยู่ของกระบี่หนานฮวง

หลังออกจากบ้านหมอกฝัน เย่หวูเฉินพาหนิงเสวี่ยไปส่งที่บ้านก่อนจะล่อเถาไปไป-ไปที่ป่าดำ เย่หวูเฉินใช้กับดักและระเบิดแต่เถาไปไปมีเกราะที่เรียกว่ากระจกจักรพรรดิฟ้าจึงรอดตาย เย่หวูเฉินหมดทางเลือกนอกจากต้องเข้าไปในหอคอยปีศาจซึ่งกักขังสตรีเทพพิโรธอยู่ในนั้น เย่หวูเฉินมีพลังจิตใจที่แกร่งกล้าจนเกิดผลสะท้อนทำให้สตรีเทพพิโรธสยบลงอย่างศิโรราบ

เมื่อออกมาจากหอคอยปีศาจ สตรีเทพพิโรธหรือ ‘ทงซิน’ ได้สังหารเถาไปไปและ ฟง , ฮั่ว , เสวี่ย , เยว่ จากนั้นเย่หวูเฉินพาทงซินกลับไปที่ตระกูล เขาพบกับหลงหยินและหลงฮวงเอ๋อร์ที่มาดูหน้าว่าที่สามี

พอหลงฮวงเอ๋อร์เจอเย่หวูเฉินก็จำได้และคิดแกล้งทันที โดยเรียกร้องให้เย่หวูเฉินเป็นคนพาไปโรงเรียนทุกวัน

เย่หวูเฉินไปที่บ้านหมอกฝันและกุเรื่องหลอกฉุ่ยเมิ่งฉานเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องราว

วันต่อมาเย่หวูเฉินไปรับองค์หญิงเฟยฮวงเพื่อพาไปส่งที่โรงเรียน ด้วยฝีมือที่แสดงไว้ในงานประลอง เขาจึงได้กลายเป็นอาจารย์จำเป็น ถัดมาอีกวันเขาพบกับ ‘ชูเกอเสี่ยวหยู’ ที่ตั้งปณิธานว่าชาตินี้จะไม่แต่งกับใครนอกจากเย่หวูเฉินเท่านั้น ระหว่างนี้ ‘หลินอวี้’ น้องชายของหลินเสี่ยวทำกร่างในห้องเรียนจึงถูกเย่หวูเฉินจับโยนออกไป มันเลยไปฟ้องหลินเหยียน ทว่าเมื่อหลินเหยียนมาถึงกลับถูกชูเกอเสี่ยวหยูปั่นหัวจนต้องล่าถอย

เมื่อหลินเหยียนจากไป เย่หวูเฉินก็พาองค์หญิงเฟยฮวงไปเที่ยวเล่นนอกเมือง พร้อมกับหนีชูเกอเสี่ยวหยูที่ตามตื้อ

หลายวันผ่านไปจักรพรรดินี ‘หลินซิว’ ที่ถูกเย่หวูเฉินลอบแพร่พิษมรณะเข้าใส่ในวันถอนหมั้นก็ได้ล้มป่วยลง พวกหมอหลวงรวมถึงเทพโอสถ ‘ฉุ่ยหนานเหอ’ แห่งสำนักจักรพรรดิใต้ก็ไม่อาจรักษา ตอนนี้เองหมอหลวงที่หวังเวิ่นชูเคยพามารักษาเย่หวูเฉินได้บอกความลับว่าเย่หวูเฉินมีทักษะการแพทย์ที่เหนือล้ำ

หลงเจิ้งหยางรีบควบม้าไปรับตัวเย่หวูเฉิน ระหว่างทางกลับถูกหลินอวี้ขวางทางเลยถูกพระเอกเอาแส้หวดขาจนพิการ

เมื่อเย่หวูเฉินไปถึงราชวังก็ถูกตระกูลหลินสบประมาท ตระกูลหลินเลยถูกเย่หวูเฉินขู่เข็ญให้คุกเข่าตามระเบียบ หลังจากนั้นพระเอกจึงรักษาจักรพรรดินีหลินซิวและอ้างว่าหากจะรักษาให้หายขาดจะต้องใช้ผลมังกรเพลิงฟ้า หลงหยินจึงสั่งเย่หวูเฉินให้ออกเดินทางไปยังภูเขาไฟเทียนเม่ยเพื่อนำผลมังกรเพลิงฟ้ากลับมา

ก่อนเดินทางฮั่วเจิ้นเทียนบีบให้เย่หวูเฉินหมั้นหมายกับฮั่วฉุ่ยโหรวอย่างเรียบง่ายโดยมอบเพียงของแทนใจต่อกัน ในวันเดินทางเย่หวูเฉินให้ทงซินสังหาร องค์ชายสามหรือ ‘หลงเจิ้งฉี’ เพื่อเป็นการเตือนหลงหยิน

ช่วงนี้เล่งหยาได้เดินทางมาถึงดินแดนที่ถูกลืม ที่อยู่ของเทพกระบี่ฉู่ชางหมิง และฝึกฝนฝีมือด้วยกันกับฉู่จิงเทียน

ระหว่างที่เดินทางไปยังภูเขาไฟเทียนเม่ย เหยียนจื่อเมิ่ง’ ได้เข้าหาพระเอกโดยบอกว่าตนชื่อ เมิ่งจื่อ  เมื่อเดินทางไปถึงเมืองเซียงหยุนก็พอดีกับมีงานประชันการรักษา เย่หวูเฉินโดนฉุ่ยหนานเหอตะโกนเรียกแกมบังคับให้ขึ้นเวที ตอนนี้เองมีสตรีที่มีเสน่ห์ดุจมารก้าวออกมาและท้าประลองกับเย่หวูเฉิน

เจ้าเมืองเซียงหยุนกับภรรยาถูกคนวางยาและถูกหามมาที่เวที คนทั้งสองถูกใช้เป็นอุปกรณ์ประกอบการแข่ง แน่นอนว่าเย่หวูเฉินเป็นฝ่ายเอาชนะมารเสน่ห์

ในระหว่างนี้เอง อาณาจักรต้าฟงมีการผลัดเปลี่ยนจักรพรรดิองค์ใหม่ เป็นฟงเลี่ยที่ขึ้นครองราชบัลลังก์ รัชทายาทฟงหลิงถูกส่งให้มาประกาศสงครามกับอาณาจักรเทียนหลง โดยมีเทพสงครามฟงเฉาหยางคอยติดตามคุ้มกันไม่ห่างกาย ทว่าฟงหลิงบังเอิญพบเจอเย่ฉุ่ยเหยาและลุ่มหลงงมงาย ดังนั้นเขาจึงเสนอสัญญาสันติภาพห้าปีโดยแลกกับการแต่งงานกับเย่ฉุ่ยเหยา ตระกูลเย่ไร้ทางเลือกนอกจากต้องกลั้นใจยอมรับ

ตัดกลับมาที่คณะของเย่หวูเฉิน หลังจากเดินทางมาด้วยกันหลายวัน ในที่สุดคืนหนึ่งมารเสน่ห์ เสวี่ยเฟยเยี่ยน ก็ใช้หยกจิตกำหนัดกับเหยียนจื่อเมิ่ง ทำให้เย่หวูเฉินต้องมีสัมพันธ์ลึกซึ้งเพื่อช่วยชีวิตนาง ในคืนนั้นเองเหยียนจื่อเมิ่งซึ่งเป็นสตรีเผ่าปีศาจได้ผูกพันธะวิญญาณมีชีวิตขึ้นอยู่กับเย่หวูเฉิน นางได้จากไปโดยไม่อาจทำใจสังหารเขาได้ลง ส่วนเสวี่ยเฟยเยี่ยนก็หายไปเช่นกัน นางติดตามอยู่ห่างๆโดยไม่แสดงตัว

เมื่อมาถึงแม่น้ำสวรรค์ใต้ซึ่งเป็นแม่น้ำที่กว้างที่สุดในทวีปเทียนเฉิน เสวี่ยเฟยเยี่ยนได้ใช้พลังแช่แข็งแม่น้ำสร้างเส้นทางให้คณะของเย่หวูเฉินข้ามไป เย่หวูเฉินให้ทงซินตัดก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่เก็บไว้ในแหวนเทพกระบี่

เย่หวูเฉินมาถึงเมืองเหยียนหลงซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟเทียนเม่ย จากนั้นพาหนิงเสวี่ยและทงซินไปที่ภูเขาไฟโดยผ่าน้ำแข็งให้หนิงเสวี่ยอยู่ตรงกลาง ระหว่างที่สำรวจเบื้องต้นเสร็จและกำลังจะพาหนิงเสวี่ยกลับไปส่งให้รออยู่ที่เมือง มังกรเพลิงฟ้าก็ปรากฎตัวออกมาจู่โจม ทงซินอุ้มหนิงเสวี่ยและบินพุ่งเข้าไปป้องกัน มังกรเพลิงฟ้าจำตัวตนของทงซินและหนิงเสวี่ยได้ พร้อมกล่าวถึงคำทำนายและส่งเย่หวูเฉิน , ทงซิน , หนิงเสวี่ย ไปที่ดินแดนสาบสูญในอาณาจักรคุยชุย

ที่นั่นเย่หวูเฉินได้พบกับจิ้งจอกมังกรหรือ เซียงเซียง ที่ยอมกลายเป็นทาสของเย่หวูเฉินเพราะถูกหนิงเสวี่ยขอร้อง

หลังจากนั้นทั้งสามคนถูกส่งกลับมาที่ภูเขาไฟเทียนเม่ยอีกครั้ง มังกรเพลิงฟ้ามอบพลังของตนให้เย่หวูเฉินจนพลังมันอ่อนโทรม

เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ พลังหวูเฉินก็บรรลุถึงขั้นที่สาม เย่หวูเฉินจึงเดินทางกลับเมืองเทียนหลง ระหว่างนั้นมังกรเพลิงฟ้าได้ถูกตัวตนลึกลับสังหารเพื่อชิงมุกมังกรเพลิงฟ้า

เย่หวูเฉินเดินทางกลับมาถึงตระกูลเย่และพบว่าเย่ฉุ่ยเหยาได้ไปที่อาณาจักรต้าฟงเพื่อแต่งงานสันติภาพกับรัชทายาทฟงหลิง หลังจากนี้ตำนานการเดินทางพันลี้เพื่อชิงตัวพี่สาวจึงได้เริ่มต้นขึ้น

เย่หวูเฉินเดินทางหนึ่งวันหนึ่งคืนโดยให้ทงซินบินเต็มสปีดเป็นระยะทางครึ่งค่อนทาง จากนั้นควบม้าต่อเพื่อให้ทงซินฟื้นฟูพลังให้มีสภาพสมบูรณ์ที่สุด

เมื่อไปถึงเมืองเทียนฟง เมืองหลวงของอาณาจักรต้าฟง เย่หวูเฉินบุกเข้าไปในพิธีงานแต่งพุ่งเข้าไปพาตัวเย่ฉุ่ยเหยาออกมาอยู่ที่มุมห้องของท้องพระโรง ขณะที่ทงซินคอยหยุดการเคลื่อนไหวของเทพสงครามฟงเฉาหยางอยู่บนหลังคา ฟงหลิงพยายามเข้ามากล่อมเพื่อจะเอาชนะใจเย่ฉุ่ยเหยา แต่ทว่ากลับถูกเย่หวูเฉินถีบยอดอกไปหนึ่งที จากนั้นเย่หวูเฉินพุ่งเข้าไปจับฟงเลี่ยเป็นตัวประกันและสั่งให้เอารถม้ามา ฟงรู่ธิดาของฟงเลี่ยจึงเอารถม้าส่วนตัวมาให้พร้อมลอบใส่ผงติดตามกลิ่นเอาไว้

เย่หวูเฉิน , หนิงเสวี่ย , ทงซิน , เย่ฉุ่ยเหยา และฟงเลี่ยที่เป็นตัวประกันขึ้นรถม้าและออกไปจากราชวัง มุ่งหน้าไปทางประตูเมืองทิศตะออกเพื่อกลับอาณาจักรเทียนหลง ระหว่างทางฟงเลี่ยถูกทำให้สลบ ทงซินพาเย่หวูเฉินและคนอื่นลอบบินออกจากรถม้า

เย่หวูเฉินพาพี่สาวไปคุยเปิดใจที่ริมธาร ให้หนิงเสวี่ยกับทงซินรออยู่ในทุ่งหญ้าใกล้กับประตูเมืองทิศตะวันออก บังเอิญมีตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าทงซินใกล้เข้ามา ทำให้ทงซินไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องล่อมันไปอีกทาง และบังเอิญฟงรู่ตามมาเจอหนิงเสวี่ยพอดี ฟงรู่จึงจับตัวหนิงเสวี่ยกลับไปที่ราชวัง

เมื่อเย่หวูเฉินกับเย่ฉุ่ยเหยากลับมาก็พบเพียงองครักษ์ พอรู้ว่าหนิงเสวี่ยถูกจับตัวไปเย่หวูเฉินจึงพาพี่สาวไปซ่อนในทุ่งหญ้าริมธาร และกลับไปที่ราชวังเทียนฟงเพื่อช่วยหนิงเสวี่ย ส่วนทงซินตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากับ ‘ลู่เทียน’ เทพแท้จริงที่มาตามทงซินกับหนิงเสวี่ยกลับอาณาจักรเทพ

ฟงรู่พาหนิงเสวี่ยไปที่ห้องหนังสือในราชวัง ในนั้นมีฟงเลี่ย ฟงหลิง รวมทั้งฟงเฉาหยางที่ซ่อนตัวอยู่ เมื่อเย่หวูเฉินตามมาจนใกล้จะถึง หนิงเสวี่ยได้ตะโกนห้ามเย่หวูเฉินไม่ให้เข้ามา ฟงรู่ไม่อาจทนรำคาญจึงตบหน้าหนิงเสวี่ยฉาดใหญ่ พอเย่หวูเฉินมาถึงและเห็นรอยฝ่ามือที่ใบหน้าของหนิงเสวี่ย รังสีอำมหิตจึงพลันพวยพุ่งออกมาจากร่างของเย่หวูเฉินและเป็นจุดเริ่มต้นของการทำลายล้าง

ด้วยสติปัญญาของเย่หวูเฉิน เขาจึงทราบได้ไม่ยากว่าฟงรู่เป็นคนทำ นางจึงถูกเย่หวูเฉินสังหารอย่างโหดเหี้ยมทั้งที่อยู่ภายใต้การคุ้มกันของเทพสงครามฟงเฉาหยาง เทพสงครามที่แต่เดิมไม่ต้องการทำลายผู้สืบทอดเทพกระบี่ผู้เป็นสหายเก่าแก่ ยามนี้ไร้ทางเลือกนอกจากต้องกำจัดเย่หวูเฉิน ฟงเฉาหยางต่อสู้ตัวต่อตัวกับเย่หวูเฉิน เย่หวูเฉินใช้กระบี่หนานฮวงห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิง มืออีกข้างอุ้มสาวน้อยผมขาว เขากลืนกินผลมังกรเพลิงฟ้าจนระดับพลังพุ่งทะยานขึ้นแตะระดับขอบเขตเทวะ เข้าปะทะกับเทพสงครามไปหลายกระบวนจนพื้นที่โดยรอบทลายราบ ในขณะที่เทพสงครามตัดสินใจสังหาร เย่หวูเฉินก็ใช้กระบวนท่าที่หนึ่งแห่งศาตราต้องห้าม “แยกฟ้าผ่าปฐพี” ผ่าร่างเทพสงครามออกเป็นสองเสี่ยง ตอนนี้เย่หวูเฉินได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ภายใน เขานั่งลงเพื่อเร่งฟื้นฟูสภาพเตรียมรับมือกับการโจมตีที่กำลังจะถาโถมเข้ามา

ท่ามกลางความตกตะลึง ฟงเลี่ยสั่งให้สามอาวุโสแห่งต้าฟงเข้าสังหาร ทว่าสามอาวุโสที่เข้าไปกลับถูกเย่หวูเฉินสังหารทีละคน เหล่าองครักษ์ที่รายล้อมถูกเย่หวูเฉินสังหารแหวกหนีไปยังประตูราชวังทางใต้

ฟงเลี่ยสั่งระดมกองทัพทั้งหมดในเมืองเทียนฟงเพื่อล่าสังหารเย่หวูเฉิน ทัพบูรพาที่นำโดย ‘เยว่หานตง’ เข้าล้อมรอบอยู่หลังประตูราชวังทางใต้ เมื่อเย่หวูเฉินแหวกทางองครักษ์ไปถึง ก็เผชิญหน้ากับกองทัพที่เรียงแถวตั้งขบวนปิดกั้นอัดแน่นรออยู่กว้างยาวนับร้อยจั้ง(333เมตร) เย่หวูเฉินไม่มีทางเลือกใด นอกจากใช้ความเร็วสูงสุดเจาะทะลวงทัพทหารออกไปในชั่วสิบอึดใจ จากนั้นเขามุ่งหน้าไปทางประตูเมืองทิศตะวันตก เนื่องจากทัพที่มาล้อมอยู่คือทัพบูรพา ดังนั้นตอนนี้ในทิศตะวันตกย่อมมีกำลังทหารป้องกันเบาบางที่สุด

เมื่อไปถึงประตูเมืองทิศตะวันตก เขาเผชิญหน้ากับกองทหารม้าห้าพัน พร้อมทัพทหารราวสองหมื่นที่ตามมาเบื้องหลัง (ตัวเลขไม่แน่ใจเอาคร่าวๆก่อนนะครับ)

เย่หวูเฉินใช้อัสนีลั่นสะเทือนฟ้า และกระบี่ตัดดารา(อีกชื่อของกระบี่หนานฮวง)ฟาดฟันผ่าทะลวงกองทหารม้าออกไปได้ เขาขึ้นม้าและควบมุ่งไปทางทิศตะวันตก ตอนนี้เขามีสภาพอิดโรยถึงขีดสุด

ทว่าด้านตะวันตกเป็นทางปิดที่ติดตาย ด้วยถูกขวางกั้นด้วยหุบเหวปลิดวิญญาณ เย่หวูเฉินถูกบีบจนติดประชิดขอบเหว ตอนนี้เองที่เย่หวูเฉินใช้พลังเฮือกสุดท้ายเรียกอุกกาบาตเพลิงลงมาจากฟ้าเข้าถล่มกองทัพนับหมื่น กองทหารม้าทั้งหมดห้าพันตายสิ้น ทัพทหารที่ตามมาเบื้องหลังกองทหารม้าตายไปเกือบครึ่งทัพ หลังจากเพลิงวอดลง ฟงหลิงได้เข้ามาเผชิญหน้ากับเย่หวูเฉินที่ไร้เรี่ยวแรงจนแทบไม่อาจหยัดยืน เย่หวูเฉินไม่ยอมตายด้วยน้ำมือของคนอื่น ดังนั้นจึงกอดหนิงเสวี่ย แล้วตะโกนก้องสั่งลาทงซินไปยังเส้นขอบฟ้าและปล่อยร่างตัวเองให้ตกลงสู่หุบเหว

เมื่อทงซินสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายของเย่หวูเฉินหายไป นางที่ยามนี้สภาพย่ำแย่ไม่ต่างไปจากเย่หวูเฉินก็พลันบังเกิดความโกรธแค้นและเศร้าโศก พลังที่เหือดหายพลันระเบิดออก ปลดปล่อยใช้ท่าในตำนาน ‘ผีเสื้อดำเด็ดสังหาร’ เข้าสังหารลู่เทียนในพริบตา 

ไร้เย่หวูเฉินก็เหมือนดั่งไร้ทิศทาง ทว่าเสียงสั่งลาสุดท้ายของเย่หวูเฉินกลับดังก้องในจิตใจของทงซิน นางจึงทำตามคำสั่งสุดท้ายของเขา คือพาพี่สาวกลับบ้าน และรอเขากลับมา...ตลอดไป

ไม่กี่วันให้หลังข่าวสะเทือนฟ้าของเย่หวูเฉินที่เดินทางพันลี้เพื่อชิงตัวพี่สาว สังหารเทพสงครามและกองทัพนับหมื่นได้แพร่ไปทั่วทั้งทวีปเทียนเฉิน สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่โดยเฉพาะในอาณาจักรเทียนหลง

ในระหว่างพิธีสมรสของเหยียนจื่อเมิ่งกับ ‘เหยียนซีหมิง’ ผู้เป็นนายน้อยแห่งสำนักจักรพรรดิเหนือ เหยียนจื่อเมิ่งเกิดแพ้ครรภ์ขึ้นมาโดยเด็กในท้องเป็นลูกของเย่หวูเฉิน งานสมรสจึงล้มเลิกลง ในวันนั้นมีหิมะโปรยปราย เหยียนจื่อเมิ่งหลบหนีโดยความช่วยเหลือของ ‘ปิงเอ๋อร์’ สาวใช้ส่วนตัว เหยียนซีหมิงโกรธมากตามนางมาจนทันและซัดฝ่ามือเข้าที่ท้องของนาง เทพหิมะเสวี่ยหนี่ หรือ เสวี่ยเฟยเยี่ยนได้เข้ามาช่วยนางและพาหลบหนีออกไป

สองปีผ่านไป ที่ใต้หุบเหวปลิดวิญญาณ หนิงเสวี่ยดูแลปกป้องเย่หวูเฉินที่หมดสติด้วยความงมงาย น้ำตาของนางมีพลังแห่งชีวิตที่คอยพยุงรักษาเขาไว้ไม่ให้ตกตาย ในที่สุดเย่หวูเฉินก็ตื่นขึ้นมา หากแต่ยามนี้เขาไร้สิ้นซึ่งพลัง

เย่หวูเฉินกับหนิงเสวี่ยสำรวจโลกเล็กๆใต้หุบเหวและพบกับม่านพลังลึกลับและ ‘กงลั่ว’ เมื่อเขาเข้าไปในม่านพลัง กงลั่วได้พาเขาไปยังหมู่บ้านสัตว์ประหลาดซึ่งแต่ละคนล้วนมีพลังแกร่งกล้าและมีผู้คนอยู่ราว 300 คน

เขาพบว่าที่แห่งนี้ถูกผนึกไว้ด้วยพลังของคันศรเป่ยตี้(ศรจักรพรรดิเหนือ) หรือคันศรบาปวิบัติ และผู้คนที่ถูกผนึกอยู่ในที่แห่งนี้คือผู้ที่สืบสายโลหิตแห่งจักรพรรดิเหนือที่แท้จริง เขาได้กลายเป็นจอมราชันแห่งจักรพรรดิเหนือและกำลังจะกลับขึ้นสู่ทวีปเทียนเฉินเบื้องบน

จบการสรุป