วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2562

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 535

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 535 การผสานที่ทรงพลังสูงสุด

“เพื่อเอาชนะเทพลึกลับดำ ข้าจำเป็นต้องให้ท่านช่วย หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยลง เสี่ยวโม่จะสามารถกลับมาหาพวกท่านได้ทุกเวลา....” เย่หวูเฉินดึงเล่งหยาและกล่าว “จักรพรรดิปีศาจ ท่านไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขา หลีกเลี่ยงเขา และหวาดกลัว.... เขาเรียกว่าเล่งหยา เป็นสหายของข้า พลังทมิฬของเขามาจากลูกชายท่าน.... ชาหลัว!”

ชาโหวสั่นสะท้านทั้งร่าง สายตาตกลงบนร่างของเล่งหยาทันที แววตาสั่นไหวจับจ้องบนใบหน้า อารมณ์สั่นกระเพื่อมอยู่เนิ่นนาน มันกล่าวคำช้าๆ “ลูกชายข้า....”

“เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ท่านใช้โลหิตสังสาระส่งชาหลัวไปเกิดใหม่ในทวีปเทียนเฉิน ที่น่าแปลกก็คือ วิญญาณปีศาจที่ถือกำเนิดใหม่กลับฝืนกฎของสวรรค์ มันมิได้ลบล้างจิตวิญญาณดั้งเดิมของร่าง สองดวงวิญญาณจึงอาศัยอยู่ในร่างเดียวกัน ซึ่งวิญญาณในร่างเดิมก็คือเขา ดังนั้น ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ชาหลัวและเขาจึงแบ่งปันใช้ร่างเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่สติของเขาสับสนอยู่หลายครั้ง จนกระทั่ง.... ไม่กี่วันที่ผ่านมา ชาหลัวเพื่อป้องกันการตื่นขึ้นของเทพลึกลับดำขาว เขาจึงรีดเร้นพลังสูงสุดของตนเอง กำจัดสติของตน ส่งมอบพลังและความทรงจำทั้งหมดให้กับเล่งหยา”

ชาโหว “!!”

ชาโหวแข็งทื่อไปทั่วร่าง มันเงยหน้าขึ้นช้าๆ หลับตาลง ผ่านไปเนิ่นนานจึงทอดถอนใจยาว “เขา.... สุดท้ายก็หนีไม่พ้นความตาย”

เย่หวูเฉินสั่นศีรษะ “หากท่านคิดว่าเขาตายแล้ว เช่นนั้นเขาก็ตายไปแล้วจริงๆ.... แต่หากท่านคิดว่าเขายังไม่ตาย” เย่หวูเฉินมองไปทางเล่งหยา “คนตรงหน้านี้ก็คือบุตรชายท่าน! เพราะนี่คือร่างกายใหม่ของชาหลัว มีความทรงจำและพลังของเขาครบถ้วน!”

ชาโหวแววตาไหววูบ มันยื่นมือออกไปทางเล่งหยา ทว่าหยุดไว้ครึ่งทางและเก็บมือกลับ เคลื่อนสายตาออก กล่าวด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดและโศกเศร้าล้ำลึก “จงบอกข้า เจ้าต้องการให้ข้าทำสิ่งใด.... ตราบใดที่สามารถทำลายเทพลึกลับดำได้ วันนี้ ข้าจะลืมว่าพวกมันเป็นเผ่าเทพที่ข้าชิงชังมากที่สุด.... และเป็นฆาตกรที่ฆ่าลูกชายข้า”

ฆาตกรที่เขากล่าวถึงกำลังมีแววตาทอประกายโลหิต นางมิได้กล่าวคำใดๆ มุมปากเหยียดขึ้นเล็กน้อยแฝงแววแห่งความสุข ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าในเวลานี้ หัวใจเบื้องลึกของเสวี่ยเย่กำลังปกปิดความคิดใดไว้

“เรียบง่ายอย่างยิ่ง!” เย่หวูเฉินหันร่างมองไปยังเทพลึกลับดำที่กำลังเหยียบย่างเข้าใกล้พร้อมแรงกดดัน “ใช้พลังสูงสุด ทำให้มันหยุดเคลื่อนไหวในชั่วขณะสั้นๆ.... ขอเพียงไม่กี่วินาที.... ไม่กี่วินาทีเท่านั้น!”

จักรพรรดิปีศาจหันร่าง มองไปยังร่างทะมึนที่อยู่ห่างไกลและพยักหน้า บางทีอาจด้วยความรู้สึกขอบคุณ บางทีอาจเพราะยอมรับโดยสัญชาตญาณ มันเชื่อถือเย่หวูเฉินโดยไร้ความลังเลใดๆแม้แต่น้อย

เทพจักรพรรดิหันร่างและเปิดปากกล่าว “ชาโหว ตอนนี้ข้าเองก็เสียใจไม่น้อยที่ใช้หุ่นเทพลึกลับ บางทีการต่อสู้ระหว่างพวกเราอาจไม่สมควรข้องเกี่ยวกับพลังที่ไม่สมควรมีอยู่ วันนี้ ตอนนี้ จะเป็นครั้งแรกที่เจ้าและข้าปล่อยวางบาดหมางลงชั่วคราว ด้วยพลังของเจ้าและข้า สมควรเพียงพอหยุดเทพลึกลับดำลงได้ในชั่วขณะ”

ชาโหวมองเทพจักรพรรดิปราดหนึ่ง ยังคงไร้ท่าทีอันดีต่อนาง ทว่ามิได้มีอาการต่อต้าน มันหันหน้าเผชิญเทพลึกลับดำอย่างเย็นชา เมื่อเทพจักรพรรดิมาที่นี่ มันย่อมไม่มีทางปลุกราชันจอมปีศาจได้อีก เช่นนั้น ก็มาร่วมกันทำลายเทพลึกลับดำ เหมือนที่มันเคยปรารถนาในอดีต หากสามารถหยุดหายนะร้ายแรงนี้ลงได้ มันพร้อมจ่ายราคาด้วยทุกอย่างที่มี เหมือนเช่นที่เคยได้ลั่นวาจาไว้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือหยุดยั้งหายนะครั้งนี้ เรื่องอื่นๆ อย่างความเกลียดชังเอาไว้ค่อยสะสางกันในภายหลัง

ไม่ทราบเพราะเหตุใด มันพบว่าเพียงเจอเย่หวูเฉินครั้งแรกกลับเกิดความเชื่อมั่นอย่างประหลาด บางทีอาจเป็นเพราะลูกชายมัน บางทีอาจเพราะทุกสิ่งที่เย่หวูเฉินแสดงออก.... กระทั่งเย่หวูเฉินหาญออกปากว่าคิดทำลายเทพลึกลับดำ มันยังไร้ความเคลือบแคลงใจแม้แต่น้อย

ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!

เทพลึกลับดำย่างเท้าเข้ามาใกล้ แต่ละก้าวของมันทำลายทวีปปีศาจจนป่นปี้ ท้องฟ้าที่เดิมทีปกคลุมด้วยปราณปีศาจ บัดนี้ถูกห่อหุ้มด้วยเงาทะมึนแห่งหายนะ เทพจักรพรรดิหันร่างเผชิญหน้าเทพลึกลับดำ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย “ข้าหวังเพียงแค่ว่า เจ้าจะสามารถทำลายมันและช่วยเฮยเย่และไป่เย่ได้ เมื่อถึงตอนนั้น ผู้ใดก็ไม่อาจหยุดยั้งเจ้าได้อีก”

เย่หวูเฉินไม่ตอบคำ ทั้งมิได้เย้ยหยันใดๆ กลับกันเขานิ่งเงียบ เมื่อเทพจักรพรรดิกล่าวคำสุดท้ายจบลง นัยน์ตาของนางพลันเผยแววซับซ้อนที่ไม่อาจมีผู้ใดเข้าใจได้

“เลิกพูดมากความ , ไป ความน่ากลัวของมัน เจ้าย่อมรู้ชัดยิ่งกว่าข้า พวกเรามีแค่....” ชาโหวยกมือสองข้างขึ้น กดน้ำเสียงทะมึนลง “โอกาสเดียวเท่านั้น!”

เป็นความจริงที่ว่าพวกเขามีเพียงแค่โอกาสเดียว! เผชิญหน้ากับเทพลึกลับดำ การหยั่งเชิงทดสอบล้วนเป็นความพยายามที่สูญเปล่า กระทั่งอาจนำหายนะมาสู่ตนเอง โอกาสหนึ่งเดียวที่ว่านี้ คือทั้งสองใช้พลังสูงสุดประสานการโจมตี! เย่หวูเฉินต้องการเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น

“อย่าลืมนับพวกเราด้วย” เทพจักรพรรดิพลันได้ยินเสียงของเสวี่ยเย่ นางยกเลื่อยโลหิตที่มีขนาดเท่าตัวเองขึ้น มุมปากเหยียดยกเป็นรอยยิ้มอันเยียบเย็น “ข้าอยากตัดร่างของมัน เปิดดูให้เห็นข้างใน อยากสูดกลิ่นโลหิตอันหอมหวน และอยากชมเครื่องในของมัน”

“เสวี่ยเย่ ระวังตัวด้วย” เชียนจ้งก้าวออกมายืนอยู่ข้างเสวี่ยเย่ จับจ้องเทพลึกลับดำขณะกล่าว

สำหรับคนเหล่านี้ พลังเทพไม่ใช่สิ่งที่น่าหวั่นกลัว แต่เทพลึกลับดำตรงหน้าแข็งแกร่งกว่าเทพไม่รู้กี่เท่า เพราะมันสั่งสมพลังเทพที่ตกตายมามากไม่รู้กี่ชั่วรุ่น บางทีพลังของมันอาจเทียบเท่าเทพนับพัน นับหมื่น หรือกระทั่งนับแสนตน สิ่งมีชีวิตปานนี้จะมีสิ่งใดต้านทานได้?

ในโลกนี้ ยังมีพลังที่สามารถทำลายมันได้จริงๆหรือ?

เทพจักรพรรดิและจักรพรรดิปีศาจ ตัวตนสูงสุดของสองเผ่าพันธุ์ที่รบรากันมานับปีไม่ถ้วน ท้ายที่สุดต้องร่วมมือกันเป็นคราแรก เผชิญหน้ากับศัตรูตนเดียวกัน เป็นศัตรูตนแรกที่ต่อให้ผนึกกำลังก็ไม่อาจเอาชนะมันได้

กระแสลมพวยพุ่งโกลาหล พลังทมิฬไร้ที่เทียบแผ่จากร่างของจักรพรรดิปีศาจ พลังทองคำได้ที่เปรียบเรืองรองจากเทพจักรพรรดิ ทั้งสองครองพลังยิ่งใหญ่ที่เกินจินตนาการของผู้คน ต่างโคจรพลังขึ้นสู่ระดับแตะขีดจำกัดด้วยความเร็วสูงสุด พลังล้นหลามส่งผลต่ออากาศอย่างเหนือธรรมดา

เย่หวูเฉินถูกคลื่นอากาศผลักร่างให้ถอยออกห่างนับสิบๆเมตร เขาหยัดยืนร่างอย่างมั่นคง คว้าเล่งหยาไว้และเร่งกล่าว “เซียงเซียง ส่งเล่งหยากลับไปยังที่ก่อนหน้า เร็วเข้า”

เล่งหยาไม่ปฏิเสธ เขารู้สึกได้ชัดว่าพลังของตนห่างชั้นจากคนอื่นๆมากเพียงใด หากเขายังรั้งอยู่ที่นี่ ไม่เพียงไม่อาจช่วยเหลือใดๆ ตรงกันข้ามยังจะเป็นได้เพียงภาระเท่านั้น

เล่งหยาถูกส่งออกไปโดยเซียงเซียงทันที เย่หวูเฉินลอยร่างสู่กลางอากาศ หรี่ตาทั้งสองข้างลง จับจ้องไปยังเบื้องหน้า รอคอยโอกาสลงมือ.... สำหรับเขาแล้ว การตัดสินใจนี้ ทำลายเทพลึกลับดำไม่ใช่เรื่องยากเกินไป แต่ก่อนอื่นเขาต้องช่วยทงซินออกมา ถ้าไม่อย่างนั้น นางกับเทพลึกลับดำจะถูกทำลายพร้อมกัน

เทพจักรพรรดิแผ่รัศมีเรืองรองดุจตะวันแจ่มจ้า เส้นผมสีทองสยายพริ้วไหวใต้พลังทองคำ เรือนร่างใต้เกราะทองแนบเนื้อไร้การบดบังจากเส้นผมอีก เรือนร่างสมบูรณ์แทบทำให้คนหยุดหายใจ อย่างไรก็ตาม ภาพอันงดงามนี้ไร้เวลาให้ชื่นชม นอกจากเย่หวูเฉินแล้ว จักรพรรดิปีศาจ , เทพจักรพรรดิ , เชียนจ้ง และเสวี่ยเย่ต่างโคจรพลังอย่างบ้าคลั่งถึงขีดสุด เผชิญหน้ากับศัตรูผู้มีพลังเหลือล้น ทุกคนรู้ว่ามีโอกาสเพียงการโจมตีเดียวเท่านั้น.... หากว่าพวกเขาล้มเหลว หากการประสานพลังสูงสุดยังคงไม่เพียงพอ พวกเขาก็ไร้หนทางอื่นใดแล้ว

หอกทองคำจำนวนมากปรากฎขึ้นในมือของเทพจักรพรรดิ ขณะที่จักรพรรดิปีศาจ ไม่ทราบว่าเมื่อใดที่ระหว่างมือสองข้างปรากฎตรีศูลทมิฬขึ้นจำนวนมาก ภายใต้พลังรุนแรงของคนทั้งสอง ผืนแผ่นดินสั่นสะเทือนไม่หยุดหย่อน เมฆทะมึนบนฟ้ากระจัดกระจายไม่ทราบแห่งหน กระแสอากาศหยุดหมุนวนราวกับถูกกดทับ การหายใจกลายเป็นเรื่องลำบากยิ่ง

อากาศถูกท่วมทับด้วยแรงกดดันมหาศาลที่ก่อร่าง เทพลึกลับดำราวกับตระหนักรู้ถึงภัย มันชะงักเท้าเล็กน้อยอย่างไม่อาจสังเกต ทว่าฉับพลันนั้น มันคำรามลั่นพร้อมสืบเท้าตรงมา เทพลึกลับดำที่ไร้สติแท้จริงสามารถรับมือได้ง่ายกว่ามาก เพราะนอกจากมันจะสูญเสียการควบคุมแล้ว มันยังสูญเสียสติปัญญาด้วย

“ลงมือ!”

ทันทีที่เทพลึกลับดำก้าวเท้าเข้าสู่ระยะโจมตี จักรพรรดิปีศาจพลันคำรามลั่น ฉับพลันคนทั้งสี่หายร่างไปพร้อมกัน จักรพรรดิปีศาจสร้างพลังมิติจากพลังทมิฬที่บิดผัน ขณะที่พวกเขาหายร่างไปนั้น มิติเบื้องหลังเทพลึกลับดำพลันฉีกออก ร่างทั้งสี่ปรากฎขึ้นพร้อมกัน รัศมีสองกลุ่มของทองคำและทมิฬสว่างเจิดจ้าถึงขีดสุดในยามนี้

“เคล็ดเทพจักรพรรดิ – รวมสวรรค์!”

“ลบล้างดับสูญ!”

นี่คือการโจมตีของเทพจักรพรรดิเจียเสี่ยวหลัวแห่งทวีปเทวะ และการโจมตีของจักรพรรดิปีศาจชาโหวแห่งทวีปปีศาจ ท่ามกลางเสียงกู่ร้องของสองคน รัศมีแสงทมิฬและทองคำทะยานเข้าปะทะศีรษะของเทพลึกลับดำ.... เป็นการผสานโจมตีครั้งแรกของจักรพรรดิปีศาจและเทพจักรพรรดิ ไร้ข้อสงสัยเลยว่า การประสานโจมตีนี้ทรงพลังสูงสุดในห้วงโกลาหล แกร่งกล้าสูงสุดในยุคปัจจุบัน

พลังทองคำและทมิฬระเบิดออก ก่อเกิดพลังยิ่งใหญ่ที่ไม่อาจประเมินค่า อย่างน้อยมันเลือนลั่นดุจสายอัสนีแทบฉีกแก้วหูของเย่หวูเฉิน ทั่วทั้งทวีปปีศาจผู้คนล้วนได้ยินชัดเจน ในขณะเดียวกัน ผู้คนต่างประจักษ์กับคลื่นปฐพีเดือดพล่านที่รุนแรงยิ่งกว่าแผ่นดินไหวนับร้อยเท่า

แสงทองคำและทมิฬผสานกันทั่วทุกทิศ ฝุ่นทรายพัดฟุ้งสู่อากาศสูงลิบตา การโจมตีนี้ใช้พลังสูงสุดของจักรพรรดิปีศาจและเทพจักรพรรดิ แผ่นดินหนึ่งในสิบของทวีปปีศาจถูกทำลายเพราะการโจมตีนี้ อีกทั้งไม่ใช่เพียงการทำลายธรรมดา แต่ยังย่อยยับจนแทบไม่เหลือร่องรอย

หากไม่ใช่เพราะการดำรงอยู่ของเทพลึกลับดำ กระทั่งเย่หวูเฉินคงเชื่อว่าในโลกนี้ไร้สิ่งชีวิตใดที่ต่อต้านการโจมตีนี้ได้ ทว่า.... ร่างของเขามิได้ปลิวไปเพราะคลื่นพลัง สายตาคมกล้าจดจ่อทะลุเข้าไปในกลุ่มแสง มองผ่านม่านกลุ่มฝุ่นทรายเข้าไปที่เงานั้น.... เขาพลันพบว่าเทพลึกลับดำที่ถูกโจมตี.... กลับยังคงไม่ล้มลงอย่างคาดไม่ถึง! ขณะที่เทพจักรพรรดิและจักรพรรดิปีศาจถูกพลังสะท้อนอัดร่างกระเด็นไปไกลลิ่ว กล่าวว่าเกินระยะหนึ่งในสิบส่วนของทวีปปีศาจยังไม่นับว่าเกินเลย

หัวใจของเย่หวูเฉินดิ่งวูบลงทันที เขาคำนวณผิดพลาด.... เทพลึกลับถูกอัดจนศีรษะบิดเบี้ยว มันไหวร่างโงนเงนแต่มิได้ล้มลง.... สภาพของเทพลึกลับดำในตอนนี้ ไม่เปิดโอกาสให้เขาช่วยทงซินออกมาได้

การโจมตีขั้นสูงสุดของจักรพรรดิปีศาจและเทพจักรพรรดิ กลับไม่อาจหยุดการเคลื่อนไหวของมันได้ ไม่ว่าผู้ใดก็ตาม กระทั่งเขาก็ดี , เทพจักรพรรดิก็ดี , จักรพรรดิปีศาจก็ดี ล้วนแต่ประเมินพลังของเทพลึกลับดำต่ำเกินไปทั้งหมด พลังเทพที่สั่งสมในร่างมันไม่ทราบว่าเข้มข้นถึงเพียงใด ถึงขนาดเกินความคาดหมายของเหล่ายอดฝีมือระดับสูงสุดแห่งห้วงโกลาหล

อย่างไรก็ตาม การโจมตีของเทพจักรพรรดิและจักรพรรดิปีศาจมิได้หมายถึงการโจมตีได้หยุดลง เทพลึกลับดำคำรามกราดเกรี้ยวจนแทบหูดับ มันหันร่างกลับมาในยามนี้ ยกแขนทรงกระบอกของมันขึ้น เหวี่ยงใส่ชีวิตที่อยู่ใกล้มันมากที่สุดซึ่งก็คือ – เสวี่ยเย่!



<<<PREV    .    NEXT>>>