วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2562

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 556

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 556 วิถีชะตาที่บรรจบ (บทสรุป)

เฟิงเซียวพยักหน้า แววตาลึกล้ำประหนึ่งบรรจุโลกหล้าทั้งหมดไว้ “เมื่อพลังโกลาหลบรรลุถึงจุดสูงสุด พวกเราจะกลายเป็นหนึ่งเดียวกับสวรรค์และปฐพี มีเพียงโกลาหลถูกทำลายเท่านั้น พวกเราจึงสามารถแก่เฒ่าและตายได้ ทว่าครอบครัวและคนรอบข้างไม่อาจอยู่ได้ตลอดกาล วันหนึ่งย่อมจากไปและนำความโศกเศร้ามาให้ ดังนั้น สิ่งแรกที่เจ้าและข้าต้องทำคือเปลี่ยนคนสำคัญรอบข้างให้มีชีวิตนิรันดร์ดุจเดียวกัน”

“ข่ายปราณชีวิตนิรันดร์” เย่หวูเฉินเอ่ยนามนี้ด้วยความผ่อนคลาย  สำหรับคนทั่วไป ชีวิตนิรันดร์ปรากฎอยู่เพียงในตำนานเท่านั้น ทว่ามันกลับเป็นสิ่งที่บรรลุได้ง่ายดายสำหรับพวกเขา ในบรรดายุทธภัณฑ์เทวะทั้งสิบอย่าง หากใช้ห้าชิ้นหลังสุดเป็นภาชนะรองรับพลัง โดยมีตราประทับคงถงเป็นจุดศูนย์กลาง มันจะสร้างข่ายปราณชีวิตนิรันดร์ขึ้นได้ ทุกคนที่ยืนอยู่ในข่ายปราณนั้นจะได้รับชีวิตนิรันดร์ไม่มีวันแก่เฒ่า

“ไม่ใช่” เฟิงเซียวกลับส่ายศีรษะเบาๆ ท่ามกลางความแปลกใจของเย่หวูเฉิน เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “เป็นข่ายปราณจรัสสวรรค์! ตราประทับคงถงสามารถสร้างข่ายปราณชีวิตนิรันดร์ได้ แต่การใช้มันกลับต้องจ่ายราคาด้วยการสูญเสียความทรงจำที่สำคัญที่สุด ทว่าหากใช้ตราประทับคงถงเป็นจุดศูนย์กลาง สร้างข่ายปราณจรัสสวรรค์จากพลังโกลาหล ไม่เพียงจะได้รับชีวิตนิรันดร์เท่านั้น หากยังได้รับพรของสิบยอดยุทธภัณฑ์เทวะ ทำให้ไม่มีวันเจ็บไข้ ต่อให้ไม่ดื่มกินตลอดกาลก็ไม่มีวันตาย ข่ายปราณโกลาหลนี้มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่สร้างได้ ในอดีต พลังโกลาหลของเจ้ายังไม่เติบโตเต็มที่ เพราะฝืนใช้ข่ายปราณโกลาหลเจ้าจึงสูญเสียความทรงจำ แต่ยามนี้ไร้ผลสะท้อนกลับใดๆต่อเจ้าแล้ว ข้า เฝ้ารอเจ้ากลับบ้าน”

“อื้ม!” เย่หวูเฉินออกเรี่ยวแรงพยักหน้า

“อย่างไรก็ตาม เจ้ามีห่วงมากมายในโลกนี้ที่ไม่อาจละทิ้ง มีบุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิต มีครอบครัวและพ่อแม่ใหม่ มีมิตรสหายที่แท้จริง อีกทั้ง โชคชะตายังกำหนดให้เจ้าอาศัยอยู่ในโลกนี้.... แม้เจ้าจะกลับไปแต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาอีก เจ้าคือราชันแห่งห้วงโกลาหลนี้ หากหายไปนานย่อมเกิดความสับสนต่อชีวิตอื่นๆ เมื่อถึงตอนนั้น อย่าลืมพารั่วรั่วกลับมาด้วย ไม่ว่าเจ้าจะอยู่แห่งใด นางล้วนปรารถนาติดตามเจ้า นางคือคนที่เจ้าห้ามทำให้ผิดหวังเด็ดขาด”

เย่หวูเฉินพยักหน้าอีกครั้ง ในใจปรากฎคู่ดวงตาที่จมจ่อมอยู่ในความหลงใหล นึกถึงร่างเดียวดายในยามแรกที่พบเห็น ความทรงจำกำลังหวนย้อนสู่วัยเด็ก นึกถึงทุกขณะนาทีที่เขากับนางได้อยู่ด้วยกัน นึกถึงทุกถ้อยคำที่เอื้อนเอ่ย

ราชันโกลาหล.... ก่อนอายุเจ็ดขวบ เขาไม่เคยหวังว่าตนจะอยู่ได้ถึงจนอายุแปดขวบ เมื่อตื่นขึ้นจากการหลับไหลยาวนานกว่าสิบปี เขาไม่เคยคิดฝันว่าตนเองจะเดินมาถึงจุดนี้ ยามนี้เขายืนอยู่สูงสุดเหนือโลกหล้าอย่างแท้จริง ไม่มีสิ่งใดก้าวข้ามเขาได้อีก

ห้วงโกลาหลที่แตกต่างขนานกันอยู่ ราชันโกลาหลสองคนมีรากเหง้าเดียวกัน แม้มีจุดเริ่มต้นที่ต่างกัน วิถีชะตาชีวิตแตกต่างกัน แต่ปลายทางล้วนเป็นจุดเดียวกัน โชคชะตาอันยิ่งใหญ่มักสร้างสรรค์สิ่งที่เหนือหยั่งคาดอยู่บ่อยครั้ง เย่หวูเฉินบรรลุพลังหวูเฉินขั้นที่เจ็ด ทำให้ความทรงจำทั้งหมดหวนกลับคืน ยามนั้นกระทั่งเขายังถอนหายใจกับความอัศจรรย์ของโชคชะตานี้

“ท่านพ่อ ทำไมซือเฉินถึงเป็นแบบนี้? หรือเป็นเพราะพลังของท่านกับอาหลิวลี่?” เย่หวูเฉินเอ่ยถาม ซือเฉินคือลูกสาวของเขา ทว่าลูกสาวผู้นี้ห่างไกลจากคำว่าธรรมดามากนัก หากไม่ใช่เพราะเขาได้ให้กำเนิดซือเฉิน เขาเองกระทั่งไม่กล้าจินตนาการว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นแบบใด

“เปล่า ไม่ใช่ นั่นคือสติและพลังของกระจกคุนหลุน” เฟิงเซียวสั่นศีรษะ สีหน้าของเขาเต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์ “สิบยอดยุทธภัณฑ์เทวะไม่เคยยอมรับผู้ใดเป็นนายง่ายๆ แต่หากเมื่อใดมันยอมรับผู้หนึ่งเป็นนาย มีเพียงเจ้านายของมันตกตายเท่านั้น มิฉะนั้นชั่วชีวิตมันจะไม่ทรยศหรือละทิ้ง เมื่อ 17 ปีก่อนตอนที่เจ้าถูกส่งมายังมิติแห่งนี้ กระจกคุนหลุนได้ฝืนใช้พลังทั้งหมดไป.... มันจึงหลับไหลไม่ตื่นขึ้นตลอดสิบปี ภายหลังเมื่อเจ้าตื่นขึ้น มันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่วูบไหวของเจ้าจากชะตาที่เชื่อมโยงกัน มันจึงตื่นขึ้นและดิ้นรนอย่างคลุ้มคลั่ง ในที่สุด ด้วยการยึดติดอย่างน่าอัศจรรย์ มันได้ค้นพบหนทางหนึ่งที่ฝืนกฎเกณฑ์ของสวรรค์ ข้ามห้วงมิติผ่านสังสารวัฏ ถือกำเนิดใหม่เป็นลูกสาวเจ้า นางไม่เพียงเป็นลูกสาวของเจ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นกระจกคุนหลุนหนึ่งเดียวของเจ้าตลอดไป”

ทั้งภาพใบหน้าและน้ำเสียงของซือเฉินปรากฎขึ้นในใจ เขาเชื่อมาโดยตลอดว่านางคือของขวัญล้ำค่าสูงสุดที่สวรรค์ประทานให้ เมื่อได้ยินคำเรียกหาว่า ‘ซือเฉิน’ เขาพลันปรารถนาอยากกอดนางขึ้นมาทันที

“นางคือหลานสาวของข้า ทั้งยังเป็นคนที่ข้ารู้สึกขอบคุณที่สุดในชีวิต” เฟิงเซียวระบายลมหายใจ รอยยิ้มเต็มเปี่ยมด้วยความรู้สึก “ในอดีตหากไม่ใช่เพราะกระจกคุนหลุน ชีวิตของเจ้าย่อมแห้งเหือดตอนอายุสี่ขวบ อีกทั้งยังเพราะนาง โลกจึงหมุนย้อนกลับจากการล่มสลาย.... บางทีหากไม่ใช่เพราะซือเฉิน ข้าคงไม่อาจได้เห็นเจ้าในวันนี้”

แม้มิได้มีสายเลือดเดียวกัน แต่กลับผูกพันธ์กันแน่นหนา มันเคยเป็นสิ่งของและสหายสำหรับเขา ทว่าตอนนี้กลับกลายเป็นลูกสาว นี่คือความลึกลับอัศจรรย์ที่คนธรรมดาไม่อาจเข้าใจได้

“ท่านพ่อ” เย่หวูเฉินครุ่นคิดไปยังเรื่องอื่น “ในอดีตท่านเคยบอกกับข้าว่า ร่างโกลาหลของพวกเราแซ่หลง ชั่วชีวิตสามารถมีบุตรชายได้เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ซือเฉินกลับเป็นลูกสาว ในเมื่อข้ามีลูกสาวแล้ว นี่หมายความว่า....”

“โลกหล้าไร้สิ่งใดเป็นที่สุด” เฟิงเซียวกล่าว “แซ่หลงของข้าทุกชั่วรุ่น ที่ผ่านมาต่างมีบุตรชายเพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะร่างโกลาหลมีทายาทได้เพียงคนเดียว ทว่ากระจกคุนหลุนที่ยึดติดในตัวเจ้า กลับสามารถฉีกกฎจากช่องโหว่หนึ่งเดียวได้โดยบังเอิญ เพราะกฎเกณฑ์เหล่านั้นครอบคลุมเพียงการถือกำเนิดขึ้นธรรมดา แต่กระจกคุนหลุนใช้วิธีเกิดใหม่ผ่านสังสารวัฏ มันจึงหลีกเลี่ยงกฎเกณฑ์ได้ และอีกอย่าง กระจกคุนหลุนมีพลังหยินเป็นแกนหลัก เมื่อเกิดใหม่จึงเป็นได้เพียงสตรีเท่านั้น เจ้าผู้ไม่มีทางให้กำเนิดลูกสาว จึงให้กำเนิดลูกสาวได้ในที่สุด” คู่ดวงตาของเฟิงเซียวทอประกายแปลกประหลาด “นี่อาจเป็นกฎเกณฑ์ข้อหนึ่งที่ชาญฉลาด เจ้าและข้าได้กลายเป็นราชันโกลาหล มีชีวิตอันเป็นนิรันดร์ ทำให้สายเลือดไม่มีวันถูกตัดขาด ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นต้องสืบทอดทางสายเลือด ซือเฉินมีชีวิตผูกโยงกับเจ้า นางย่อมอาศัยอยู่กับเจ้าตลอดกาล แม้เติบโตขึ้นก็ไม่มีวันแต่งงาน นางจะไม่มีทางมีทายาท ดังนั้น ทุกอย่างจะจบลงที่ซือเฉิน”

“ที่แท้ นี่คือผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ” เย่หวูเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ถูกต้อง!” เฟิงเซียวพยักหน้าพร้อมระบายลมหายใจอย่างผ่อนคลาย ก่อนขยับตัวอย่างเฉื่อยชา “มาถึงตรงนี้ ในที่สุดข้าก็ปลดวางความกังวลได้ เหตุผลที่เจ้าถามถึง.... เพราะการมีบุตรให้ความรู้สึกที่ดี แต่บางครั้ง การไม่มีบุตร.... อาจรู้สึกดีกว่า....”

บนหน้าผากของเย่หวูเฉินปรากฎรอยยับย่นสามเส้น ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามหัวเราะร่า

.......................

.......................

ทวีปเทวะ

กล่าวคำอำลาต่อเทพจักรพรรดิ จูงมือของหนิงเสวี่ยและทงซิน สัมผัสถึงความอบอุ่นของร่างและสายตาที่จ้องมองอย่างงมงาย ฟังสุ้มสำเนียงอันเริงร่าประดุจสายลมอ่อน มองตรงไปถึงวันหน้าที่ไม่มีวันพร่ามัว เขาเข้าใจในที่สุดว่าสวรรค์คือสิ่งใด

เขามิได้ปรารถนาในพลังและอำนาจ พลังไม่ใช่สิ่งที่เขาแสวงหา ที่เขาต้องการคือบุคคลอันเป็นที่รักได้อยู่รวมกัน ชั่วชีวิตไม่มีผู้ใดก่อกวนอีก

“ท่านพี่ พวกเราจะไหนเหรอ?” หนิงเสวี่ยเงยหน้าเล็กๆขึ้นถาม เผยรอยยิ้มที่สามารถละลายหัวใจอันชั่วร้ายได้

“กลับบ้าน” เย่หวูเฉินมองไปเบื้องหน้า รอยยิ้มอ่อนโยนประดุจสายลมเย็น

“แล้วหลังจากที่กลับบ้านล่ะ?”

“แน่นอนว่าต้องเที่ยวเล่นทุกแห่งที่อยากไป กินทุกอย่างที่อยากกิน แกล้งทุกคนที่อยากแกล้ง”

“ฮี่ ตราบใดที่ได้อยู่ด้วยกันกับท่านพี่ ไม่ว่าต้องไปแห่งใด ไม่ว่ามีของอร่อยๆให้กินหรือไม่ ต่อให้ต้องถูกรังแกทุกวัน ข้าก็ล้วนปรารถนา!”

จากวันแรกที่เย่หวูเฉินตื่นขึ้นในทวีปเทียนเฉิน ชะตาของพวกเขาได้ผูกโยงกันตั้งแต่ตอนนั้น พวกเขาผ่านประสบการณ์แยกจาก หัวเราะและร้องไห้ร่วมกันมานับไม่ถ้วน ตอนนี้ชะตายิ่งผูกโยงแนบแน่นเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีวันแยกจากกันอีก สำหรับพวกเขาแล้ว เวลาร้อยปีช่างแสนสั้น พันปียังนับว่าสั้นเกินไป ไม่มีเวลาใดที่ยาวนานพอสำหรับพวกเขา.... มีเพียงนิรันดร์กาลเท่านั้นที่พวกเขาปรารถนา....



-------- จบบริบูรณ์ --------



สรุปสาวๆในสังกัด/เด็กในปกครอง
1.หนิงเสวี่ย (องค์หญิงไป่เย่)
2.ทงซิน (องค์หญิงเฮยเย่)
3.เสี่ยวโม่ (ธิดาจักรพรรดิปีศาจ)
4.เย่ฉุ่ยเหยา (พี่สาว)
5.ฮั่วฉุ่ยโหรว (เสี่ยวโหรวโหรว)
6.เหยียนจื่อเมิ่ง (นางเซียน)
7.เสวี่ยเฟยเยี่ยน (มารเสน่ห์)
8.เสวี่ยซิน (ฝาแฝดวังสตรีหิมะ)
9.เสวี่ยอู่ (ฝาแฝดวังสตรีหิมะ)
10.ฉุ่ยเมิ่งฉาน (ธิดาแห่งสำนักจักรพรรดิใต้)
11.ชูเกอเสี่ยวหยู (สาวหัวรั้น)
12.เหยียนกงรั่ว (ซื่อหยา , ธิดาแห่งสำจักรพรรดิเหนือ)
13.เหยียนกงเยว่ (เอ้อหยา , ธิดาแห่งสำนักจักรพรรดิเหนือ)
14.เยว่ซือฉี (ธิดาของแม่ทัพบูรพา เยว่หานตง)
15.เซียงเซียง (จิ้งจอกมังกร)
16.เจียเสี่ยวหลัว (เทพจักรพรรดิ)
17.เซียวรั่ว (คู่หมั้นในโลกเก่า)
18.ฉุ่ยหลิงเอ๋อร์ (สาวใช้ส่วนตัวของฉุ่ยเมิ่งฉาน)
19.เสี่ยวลู่ (สาวใช้ส่วนตัวของเย่หวูเฉิน)
20.หนานเอ๋อร์ (ธิดาของจักรพรรดิใต้และจักรพรรดิเหนือ)
21.ซือเฉิน (ลูกสาว , กระจกคุนหลุน)

edit : เพิ่มอีกคนหนึ่ง ลืมมมม
22.หลงฮวงเอ๋อร์ (จักรพรรดินีเฟยฮวง)

ยังตกอีกคน.....
23.เสวี่ยเย่ (ขุนพลศักดิ์สิทธิ์แห่งเทวะ)





<<<PREV    .            .