วันเสาร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2562

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 541

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 541 ราชันโกลาหล

ยามบุคคลไร้วิญญาณดำรงอยู่ การส่งมอบพลังวิญญาณสามารถทำได้เพียงผ่านทางวิถีเชื่อมโยง หยิน-หยาง เท่านั้น ในโลกสีขาว ภายใต้กระโปรงขาวที่บดบังทุกสิ่ง พลังที่ไม่อาจมองเห็นกำลังไหลสู่ร่างของเย่หวูเฉินอย่างเงียบงัน ร่างกายของเขาค่อยๆเปล่งแสงเก้าสี รัศมีแสงเหล่านี้ทำให้เซียงเซียงชื่นชมยินดี เพราะนี่หมายถึงความทรงจำของตนไม่ได้หลอกลวง ภายใต้การไหลเวียนของพลังทั้งเก้าสาย ประดุจสายน้ำพุฤดูใบไม้ผลิ พลังวิญญาณได้ไหลสู่ร่างและก่อกำเนิดขึ้นในตัวของเย่หวูเฉินอย่างรวดเร็ว

แต่มีสิ่งหนึ่งซึ่งเซียงเซียงไม่ทันสังเกต ที่หลังมือซ้ายของเย่หวูเฉินกำลังเรืองแสงอ่อนจางเป็นจุดๆ จากนั้น จุดเรืองแสงปรากฎเรียงตัวกันเป็นรูปวงแหวน.... ดุจดาราเรียงรายเว้นระยะห่างเท่าๆกัน มีจำนวนทั้งสิ้นสิบดวง จุดเรืองแสงเหล่านั้นเริ่มหมุนวน ก่อนรวมลงมาเป็นจุดเดียวแล้วหายไปจากหลังมือ

ติ้ง!

ในห้วงสติของเย่หวูเฉินที่ถือกำเนิดใหม่ มีเสียงทลายปราการบางอย่างดังขึ้น

“นายท่าน” เซียงเซียงจ้องมองดวงตาของเย่หวูเฉิน เอ่ยเรียกซ้ำแล้วซ้ำอีก ปรารถนาให้เขาลืมตาขึ้นมองตน ความรู้สึกเจ็บปวดในส่วนล่างบรรเทาลงมากแล้ว แทนที่ด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้นางตัวสั่นอย่างไม่อาจควบคุม นางไม่กล้าขยับกายมากนัก ยังคงแนบร่างอยู่บนกายเขา จับจ้องที่ดวงตาตลอดเวลา

ฉับพลันมีมือข้างหนึ่งยกขึ้น ลูบสัมผัสตามส่วนโค้งขาวเนียนของเซียงเซียง เท้าหยกขาวเล็กๆของเซียงเซียงสะท้านวูบเล็กน้อย ข้อเท้าหดรัดในขณะเดียวกัน นางจับจ้องดวงตาที่เปิดขึ้น ใบหน้านั้นส่งยิ้มบางมายังนาง

“นายท่าน” เซียงเซียงส่งเสียงเรียกด้วยความปิติ ทว่าความรู้สึกแปลกๆจากส่วนล่างพลันทำให้นางอับอายและชะงักนิ่ง

สัมผัสถึงความกระวนกระวายใจของเซียงเซียง เย่หวูเฉินส่งยิ้มอ่อนโยนยิ่งขึ้น ฝ่ามือเคลื่อนขึ้นด้านบน ปลดชุดไหมหิมะของเซียงเซียงออกอย่างนุ่มนวล ฝ่ามืออบอุ่นทาบสัมผัสผิวเยาว์วัยที่สั่นเทา ใบหน้างดงามกลายเป็นสีชมพูเรื่อ ร่างกายไม่กล้าขยับไปมาอีก เย่หวูเฉินสำรวจอกนางอย่างเบามือ ลูบคลึงอกเล็กๆงดงามที่กำลังเติบโต ยอดปทุมสีชมพูชันขึ้นใต้มืออย่างรวดเร็ว ระหว่างการนวดคลึง ลมหายใจของเซียงเซียงกลายเป็นเสียงครางรัญจวนใจไร้ที่เทียบ ร่างกายรัดแน่นและสั่นเทาเป็นพักๆ

“เซียงเซียง ในอดีตหากเจ้าไม่ถูกพบตัวก่อน ตัวตนของเจ้าย่อมก้าวข้ามจักรพรรดิใต้และจักรพรรดิเหนือ ราชันแท้จริงแห่งห้วงโกลาหล.... เหตุใดจึงกลายเป็นสาวน้อยอย่างเจ้า?” เย่หวูเฉินผู้เกิดใหม่คลึงเค้นเล่นกับร่างนุ่มนิ่มของเซียงเซียงโดยไม่ละอายต่อฟ้าดิน สติเพิ่งฟื้นคืนจากการดับสูญ ทว่าสีหน้ามิได้ตื่นเต้นหรือดีใจจากการเกิดใหม่แม้แต่น้อย รอยยิ้มอ่อนโยนนี้ประดุจคนเพิ่งตื่นขึ้นจากการหลับฝันธรรมดา โดยมีผู้ปลุกเรียกคือเซียงเซียง

“นายท่าน.... ข้า.... ข้าไม่รู้....” ภายใต้การรุกลามที่ยิ่งมายิ่งเกเรของเย่หวูเฉิน หัวใจของเซียงเซียงบีบรัดเต้นกระหน่ำ นางรู้สึกตื่นตระหนกล้ำลึกอยู่ภายใน ทว่ากลับประสมด้วยความอภิรมณ์ใจอย่างน่าประหลาด ผิวพรรณของนางเรื่อสีชมพู น้ำเสียงสั่นเทาราวกับออดอ้อน....

รอยยิ้มของเย่หวูเฉินยิ่งลึกลับ “นั่นเพราะว่า.... เซียงเซียงผู้เป็นราชันแห่งห้วงโกลาหลนี้ ถูกกำหนดให้ถูกรังแกและพิชิตโดยข้า”

เขาคว้าบั้นท้ายของเซียงเซียง รักษาอยู่ในท่วงท่ายากและค่อยๆยืนขึ้น การกระตุ้นดังกล่าวทำให้เซียงเซียงส่งเสียงแหลมเล็กออกจากปาก แขนขาทั้งสี่กระหวัดรัดร่างของเย่หวูเฉินไว้แน่น ผสานเชื่อมโยงกันไว้อย่างแน่นหนา ต่อหน้าเย่หวูเฉิน ร่างนุ่มนวลของนางยังคงเล็กและบอบบาง ท่วงท่านี้ราวกับว่าเย่หวูเฉินและนางถูกมัดไว้ด้วยกัน

ในท่วงท่าที่ยืนอยู่ เย่หวูเฉินเริ่มขยับโยนบั้นท้ายกระทบร่างนุ่มของนาง ชื่นชมร่างกายจิ้งจอกมังกรสาวอย่างป่าเถื่อน ฟังเสียงครวญครางดุจดนตรีแห่งสวรรค์ นี่คือห้วงเวลาและมิติของทั้งสอง คนภายนอกย่อมไม่ได้ยินเสียงใด หากสำหรับเขาแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ยามนี้เพียงหวังสำราญกับอ้อมกอดและเรือนร่างของสาวน้อย การตื่นขึ้นในครั้งนี้ จิตใจของเขาได้เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สะเทือนฟ้าดิน

พลังหวูเฉินบรรลุสู่ขั้นที่หก บังเกิดความรู้สึกราวกับว่าสามารถควบคุมทุกสิ่งได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เขายังคงเป็นตัวเขา ทว่าถึงแม้ยังคงเป็นตัวเอง เขากลับรู้สึกว่าตนได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งการมองเห็น การได้ยิน.... ทุกสัมผัสภายนอกรวมถึงพลังภายใน ล้วนแต่เปลี่ยนไปอย่างมหาศาล

วารี , อัคคี , วายุ , อัสนี , ปฐพี , แสง , ทมิฬ เมื่อเจ็ดธาตุธรรมชาติผสานอยู่ในร่างเดียวกัน มันสามารถให้กำเนิดพลังแห่งมิติขึ้นมาได้

และเมื่อ วารี , อัคคี , วายุ , อัสนี , ปฐพี , แสง , ทมิฬ แห่งเจ็ดธาตุธรรมชาติ ผสานรวมเข้ากับ ชีวิต , มรณะ , และจิตใจ(วิญญาณ) แห่งสามธาตุลิขิตชะตา มันสามารถให้กำเนิดพลังแห่งเวลาขึ้นมาได้

พลังแห่งมิติและเวลา เป็นสองพลังที่ลึกลับสูงสุด ทั้งยังทรงพลังมากที่สุด สองพลังที่หาได้ยากยิ่งปรากฎขึ้นตามกันในร่างของเย่หวูเฉิน ด้วยการช่วยเหลือของเซียงเซียง วิญญาณของเขาถือกำเนิดขึ้นใหม่ พลังจิตใจยังขยายขอบเขตถึงระดับน่าสะพรึง กระทั่งยามที่พลังหวูเฉินบรรลุขั้นที่สอง พลังจิตใจแม้ยังไม่เปิดออกเต็มที่ยังสามารถทำให้เขาล่วงรู้อนาคตได้รางๆ และในยามนี้ สิ่งที่เขาสัมผัสได้กระทั่งเหนือล้ำกว่าความคาดหมายในอดีต

เขารับรู้ว่าเซียงเซียงใช้วิธีการใดช่วยเขาไว้

รู้สึกได้ถึงแม้กระทั่ง.... สติที่กำลังฟื้นคืนขึ้นของราชันจอมปีศาจ ในทวีปปีศาจอันไกลโพ้น

เซียงเซียง....

มุกวิญญาณสวรรค์ในร่างเซียงเซียงคือแหล่งกำเนิดพลังวิญญาณ เมื่อมันผสานเข้ากับพลังของมุกเซียนโกลาหลทั้งเก้า ทุกความทรงจำของเซียงเซียงตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบันจึงตื่นขึ้นในสมองเขา

นางถือกำเนิดขึ้น ณ ใจกลางโกลาหล ทุกวันคืนคอยดูดซับพลังแกร่งกล้าและบริสุทธิ์สูงสุดของห้วงโกลาหล ทำให้นางเป็นตัวตนที่ทรงพลังสูงสุด มีร่างกายสมบูรณ์แบบที่สุด มีหัวใจบริสุทธิ์ที่สุด เพราะนางคือสายพันธุ์ชีวิตที่แข็งแกร่งสุดในห้วงโกลาหล นางจึงเป็นผู้บัญญัติกฎเกณฑ์สูงสุดแห่งห้วงโกลาหลแห่งนี้

หลังจากที่นางเติบโต พลังของนางจะก้าวข้ามกระทั่งจักรพรรดิใต้และจักรพรรดิเหนือไปไกลลิ่ว

แต่ทว่า การต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิใต้และจักรพรรดิเหนือ ทำให้พวกมันค้นพบการดำรงอยู่ของนาง พวกมันค่อยๆ บังเกิดจิตใจละโมภ ปรารถนาควบคุมนางก่อนจะเติบโตเต็มที่ ดังนั้น เป้าหมายในการต่อสู้ของจักรพรรดิใต้และจักรพรรดิเหนือจึงค่อยๆเปลี่ยนไป การต่อสู้ของทั้งสองยังยิ่งมายิ่งรุนแรงขึ้น

ในที่สุด ห้วงโกลาหลได้แตกออก เซียงเซียงที่กำลังเติบโตได้รับบาดเจ็บหนัก ท่ามกลางโกลาหลที่ระเบิดแตกตัว นางใช้พลังมิติที่ยังไม่เติบโตหนีออกจากใจกลางโกลาหล หลีกลี้จากชะตากรรมถูกทำลาย สถานที่ที่นางไปถึงคือปลายสุดของเศษเสี้ยวโกลาหล ที่ภายหลังได้กลายเป็นทวีปเทียนเฉิน

จากนั้น ราวกับสวรรค์ลงทัณฑ์ต่อพวกมัน หัวใจละโมภและความผิดบาปที่เกือบทำลายจิ้งจอกมังกรได้ก่อกำเนิดปีศาจทรงพลังขึ้นมาตนหนึ่ง....

ในขณะที่เซียงเซียง.... จิตปราณแห่งทวีปเทียนเฉินซึ่งตั้งอยู่ปลายสุดของโกลาหลมีความเบาบางอย่างมาก  ด้วยวิญญาณและร่างกายของนาง ความเข้มข้นเท่านี้ไม่เพียงพอให้นางเจริญเติบโตได้ ตรงกันข้ามยังสูบกลืนพลังของนางอย่างรวดเร็ว บาดแผลร้ายแรงยังเร่งให้นางสูญเสียพลังเร็วขึ้น ทว่านี่กลับเป็นเรื่องดี เนื่องจากในที่แห่งนี้ นางสามารถยับยั้งกลิ่นอายไม่ให้รั่วไหลได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้จักรพรรดิใต้และจักรพรรดิเหนือไม่อาจหาตัวนางพบ ดังนั้น นางจึงใช้เวลาในทวีปเทียนเฉินอันทึบทึมแห่งนี้ ผ่านไปปีแล้วปีเล่า ในที่สุด นางพักฟื้นจนหายบาดเจ็บ ทว่าพลังกลับลดลงต่ำเตี้ยเรี่ยดิน.... ไม่ทราบว่ากี่ปีผ่านไป นางจึงได้พบเจอกับเย่หวูเฉิน หัวใจที่สั่นไหวภายในบังคับให้นางยอมรับเย่หวูเฉินเป็นนายตน

และนี่คือทางเลือกที่ถูกต้องที่สุดในชีวิตนาง

ความทรงจำเหล่านี้ของเซียงเซียง กลับคืนมาเมื่อครั้งที่เย่หวูเฉินบรรลุพลังหวูเฉินแท้จริงขั้นที่ห้า ก่อนหน้านี้นางไม่ทราบแม้กระทั่งว่าตัวเองเป็นใคร เหตุใดจึงปรากฎตัวอยู่ที่นี่ เมื่อสติของนางเติบโตขึ้นพร้อมกับพลัง นางจึงกลายเป็นผู้ใหญ่ขึ้นช้าๆ คอยติดตามเย่หวูเฉินอย่างเงียบงัน ตามหาภารกิจแห่งการดำรงอยู่ของตัวเอง

นางคือตัวตนที่จะกลายราชันโกลาหลแห่งนี้

ทว่าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในอดีต ทำให้ราชันโกลาหลผู้นี้.... กลับกลายเป็นสัตว์เลี้ยงส่วนตัวของเย่หวูเฉิน

......................

......................

ทวีปปีศาจกลายเป็นผืนดำมืด ทุกคนรู้สึกว่าท้องฟ้าที่ดำมืดนั้นกำลังลดระดับต่ำลง ราวกับมันพร้อมพังถล่มได้ในทุกเวลา

ลมหายใจแทบหยุดนิ่ง หัวใจแทบหยุดเต้น

ชาโหวมองไปยังทิศใต้ที่มีความมืดแผ่ลามเข้ามาใกล้ มันลอยอยู่กลางอากาศกระซิบแผ่วเบา “จบสิ้นแล้ว”

สามารถทำให้จักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์ปีศาจยอมศิโรราบโดยตรง เห็นได้ชัดว่าพลังชั่วร้ายนี้ทำให้มันสิ้นหวังเพียงใด ถูกต้อง.... นี่ไม่ใช่ความตื่นตระหนก แต่เป็นความสิ้นหวัง ก่อนหน้าวันนี้ มันเคยคาดหวังว่าหากราชันจอมปีศาจตื่นขึ้น มันจะตื่นเต้นดีใจจนตัวสั่น ทว่าในความเป็นจริง เมื่อเผชิญหน้ากับพลังชั่วร้ายนี้ มันตระหนักได้ทันทีว่าความคิดปลุกราชันจอมปีศาจให้ตื่นขึ้นเพื่อกอบกู้เผ่าพันธุ์ปีศาจช่างไร้เดียงสาและน่าหัวร่อเพียงใด

“ตอนนี้ ข้าอยากฆ่าเจ้ามากจริงๆ” ชาโหวหันร่าง กล่าวด้วยสีหน้าไม่แยแสถึงขีดสุดต่อเทพจักรพรรดิ

เทพจักรพรรดิ “.......”

หากไม่ใช่เพราะนางปลุกเทพลึกลับดำ ไหนเลยราชันจอมปีศาจตนนี้จะตื่นขึ้นอีกครั้ง

ทว่าตอนนี้ พูดสิ่งใดก็ล้วนสายเกินไป พลังนี้ทำให้จักรพรรดิปีศาจชาโหวสิ้นหวังและยอมศิโรราบโดยตรง มันมองไม่เห็นอนาคตของตัวเอง มองไม่เห็นกระทั่งอนาคตของทวีปปีศาจและทวีปเทวะ เพราะพลังชั่วร้ายปานนี้ มันย่อมทำลายทุกอย่างโดยไม่ลังเล ทำลายทุกชีวิตและทุกดินแดนที่สามารถไปถึง เป็นพลังหยาบช้าไร้ความเมตตาแม้แต่นิด ไร้ความผูกพันธ์ใดๆ ไร้ซึ่งความลังเล ทุกความชั่วร้ายในโลกรวมอยู่ในตัวตนที่ตื่นขึ้นนี้

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า..... ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า.....”

เป็นเสียงหัวเราะแหบต่ำที่ชวนขนหัวลุกอย่างยิ่ง เสียงหัวเราะนี้ถึงกับทำให้ชาโหวและเทพจักรพรรดิหัวใจเต้นรัวอย่างไม่อาจควบคุมตัวเอง และยังทำลายความหวังสุดท้ายในหัวใจอันเลือนราง.... เพราะเสียงนี้หมายถึงราชันจอมปีศาจได้ตื่นขึ้นจริงๆแล้ว!!

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า..... ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า..... พลังทมิฬบริสุทธิ์ยิ่งนัก ในที่สุด.... ข้าก็ไม่ต้องหลับไหลไปตลอดกาลแล้ว.... ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า....”

เสียงน่าสะพรึงแผ่ท่วมทุกมุมในทวีปปีศาจ นำพาความกลัวจับจิตจากห้วงลึก ท่วมทับหัวใจของเหล่าปีศาจนับไม่ถ้วน ต่างประหวั่นพรั่นพรึงต่อเงาทะมึนมรณะที่แผ่ปกคลุมทั่วทวีปปีศาจ



<<<PREV    .    NEXT>>>