วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2562

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 532

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 532 การคาดเดาอันน่าสะพรึง

เย่หวูเฉินและเล่งหยายืนอยู่กลางข่ายปราณเคลื่อนย้าย พร้อมถูกส่งผ่านมิติได้ทุกเวลา เขาไม่คิดใช้พลังมิติของเซียงเซียง ณ จุดนี้เขาต้องรักษาพลังของนางไว้ เทพจักรพรรดิไม่มากความอีก ยืนอยู่ในวงข่ายปราณเช่นเดียวกัน ต่อหน้าเย่หวูเฉิน นางลอบฝังความรู้สึกผิดและกังวลไว้ในใจ ไม่อาจแสดงท่าทีแห่งจักรพรรดิต่อหน้าเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นพลังหรือวาจาล้วนถูกระงับไว้อย่างเห็นได้ชัด

ข่ายปราณเคลื่อนย้ายโชนแสงสีดำ เวลานี้เอง เชียนจ้งวิ่งเข้ามาจนพื้นสะเทือน มันหยุดอยู่ข้างกายเทพจักรพรรดิ “ฝ่าบาท หากท่านต้องสู้กับเทพลึกลับดำที่อันตรายปานนั้น พวกเราไม่อาจปล่อยให้ท่านไปตามลำพังได้”

เห็นเชียนจ้งวิ่งเข้าไป เสวี่ยเย่หัวเราะเย็นเยียบและเข้าไปในข่ายปราณด้วยอีกคน “ยอดเยี่ยม ในเมื่อพี่ชายตัวโตพูดเช่นนั้น ข้าก็ต้องติดตามองค์เทพจักรพรรดิไปด้วยเพื่อปกป้องพระองค์”

เทพจักรพรรดิพยักหน้ารับเรียบง่าย ไม่กล่าวคำใดๆ ยื่นฝ่ามือขวาไปเบื้องหน้า ในปากร่ายคำ แสงดำโชยพุ่งขึ้นทันที ปกคลุมคนทั้งห้าไว้ นำพวกเขาออกจากทวีปเทวะ

ทวีปปีศาจ สถานที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นคุกโลกันตร์อัสนี

ที่แห่งนี้เป็นผืนมืดดำ แทบไร้ซึ่งแสงสว่าง กางมือออกไม่อาจเห็นนิ้วทั้งห้า นอกจากความมืดแล้วไม่มีสิ่งใด เทพจักรพรรดิ , เสวี่ยเย่ และเชียนจ้งเคยมาที่นี่แล้วครั้งหนึ่ง ต่างล้วนตระหนักถึงความน่ากลัวของคุกโลกันตร์อัสนี ทว่าตอนนี้ สายฟ้าเกรี้ยวกราดที่ไม่อาจทานทนได้นานกลับหายไปหมดสิ้น

เทพจักรพรรดิชำเลืองมองที่เย่หวูเฉินและกล่าว “เทพลึกลับดำตอนนี้อยู่ทางทิศใต้ของทวีปปีศาจ”

“อืม” เย่หวูเฉินรับคำคราหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ เขามองไปที่เล่งหยา “จักรพรรดิปีศาจชาโหว เจ้าสมควรรู้ว่าอยู่แห่งไหน”

เล่งหยาปลดปล่อยปราณปีศาจออกมาอย่างเงียบงัน แผ่ความรับรู้ออกไปไกลห่าง พลังความมืดของเล่งหยามาจากชาหลัว และสายสัมพันธ์พ่อลูกระหว่างชาหลัวกับชาโหวย่อมไม่มีวันตัดขาด พ่อลูกย่อมมีสัมผัสไวต่อกลิ่นอายของอีกฝ่าย เพียงไม่นาน เล่งหยาลืมตาขึ้น ส่งสายตามองนำไปยังทิศใต้เช่นเดียวกัน

เย่หวูเฉินไร้สีหน้าผ่อนคลาย ตรงกันข้าม เขามีสีหน้าจริงจังยิ่ง เขาพยักหน้าเล็กน้อยและกล่าว “ไปกันเถอะ เทพลึกลับดำอยู่ที่นั่น หากใครกลัวตายก็อย่าตามมา”

“กลัวตาย? เฮอะ ข้าเชียนจ้งนอกจากกลัวเสวี่ยเย่ข่มเหงทุบตี ที่เหลือไม่มีสิ่งใดทำให้ข้ากลัวได้” เชียนจ้งส่งเสียงหนักหน่วงมาจากด้านหลัง

“เห ข้าน่ากลัวถึงเพียงนั้น?” เสวี่ยเย่แย้มยิ้มและส่งเสียงตามมา น้ำเสียงของนางไร้ความเย็นเยียบยามที่คุยกับเชียนจ้ง

“ไปกันเถอะ” เทพจักรพรรดิลอยร่างขึ้นและบินนำขึ้นสู่เบื้องบน

ครั้งหนึ่งคุกโลกันตร์อัสนีถูกทำลายด้วยสายฟ้าจนเกิดหุบเหวลึก ตอนนี้คือเวลากลางวัน ทว่ามันกลับไร้แสงสว่างราวกับคืนเดือนมืด คนทั้งห้าบินตามกันเป็นเวลานาน หากยังคงไม่เห็นวี่แววของแสงสว่าง หลังจากเงียบงันอยู่นาน เย่หวูเฉินพลันกล่าวขึ้น “ข่าวการปลุกเทพลึกลับดำขาวสมควรแพร่กระจายออกไปนานแล้ว ร้อยปีก่อน จักรพรรดิปีศาจชาโหวทราบถึงความลับนี้ เทพจักรพรรดิ ท่านทราบหรือไม่ว่าเหตุใดมันถึงรู้เรื่องนี้?”

คิ้วเรียวงามของเทพจักรพรรดิย่นลงเล็กน้อย นางเพียงรอเขากล่าวอย่างเงียบงัน

“อีกทั้ง วันนี้ที่จริงท่านมิได้ประกาศข่าวเรื่องการปลุกเทพลึกลับดำขาว ทว่าผู้คนทั่วทั้งทวีปเทวะกลับทราบเรื่องนี้ ถึงขนาดเล่าลือกันไปทั่วทุกทิศ ท่านทราบหรือไม่ว่าเพราะเหตุใด?”

เทพจักรพรรดิ “.......”

“จักรพรรดิปีศาจทราบเรื่องราว ข่าวนี้ยังแพร่กระจายทั่ว ด้วยพลังยิ่งใหญ่ของเทพลึกลับดำขาว หากตื่นขึ้นย่อมเท่ากับทวีปปีศาจได้มาถึงวันตาย เรื่องสำคัญเกี่ยวพันถึงความเป็นตายถึงปานนี้ ทวีปปีศาจสมควรใช้ทุกอย่างเพื่อขัดขวาง ทว่าแม้ข่าวการปลุกเทพลึกลับดำขาวได้แพร่กระจายทั่ว หากกลับไร้การเคลื่อนไหวใดๆจากทวีปปีศาจ กระทั่งผู้บุกรุกสักคนยังไม่มี ท่านไม่คิดว่าเรื่องนี้มันผิดแปลกหรือ?”

เทพจักรพรรดิแววตากระเพื่อมไหว ความจริงแล้ว นี่คือข้อสงสัยใหญ่สุดในใจนาง หากทวีปปีศาจเข้ารุกราน นางจะไม่แปลกใจใดๆทั้งสิ้น ทั้งยังคิดว่าสมควรเป็นแบบนั้น แต่ทวีปปีศาจกลับไร้ความเคลื่อนไหวใดๆ นี่ทำให้นางไม่อาจเข้าใจได้ ในเมื่อล่วงรู้ความลับของเทพลึกลับดำขาว ก็ย่อมสมควรประเมินพลังของเทพลึกลับได้ ทว่าเหตุใดพวกมันยังคงนิ่งเฉย.... จักรพรรดิปีศาจชาโหวคิดว่าตัวมันเอาชนะเทพลึกลับได้อย่างนั้นหรือ?

“เจ้าอยากจะบอกอะไร?” เทพจักรพรรดิไม่อาจสงบใจได้ นางถาม

“ที่ข้าอยากบอกก็คือ เรื่องบางอย่าง ท่านคิดเรียบง่ายเกินไป” เย่หวูเฉินยกยิ้ม ทว่ารอยยิ้มนั้นบนใบหน้าหายไปแทบทันที “ความจริงก็คือ จักรพรรดิปีศาจชาโหวไม่เพียงมิได้เกรงกลัวต่อการมาถึงของเทพลึกลับดำ ตรงกันข้าม มันกำลังตั้งตารอ.... เพราะมันรอคอยเทพลึกลับดำมานานมากแล้ว ถึงแม้เทพลึกลับดำอาจนำหายนะมาสู่ทวีปปีศาจ ทว่าที่มากกว่านั้นคือขวัญชิ้นใหญ่! ด้วยสิ่งนี้ จักรพรรดิปีศาจสามารถทำลายทวีปเทวะของท่านได้โดยแทบไม่ต้องออกแรง”

เทพจักรพรรดิ “.......!?”

เชียนจ้ง “.......”

เสวี่ยเย่ “.......”

เล่งหยา “.......”

คนทั้งสี่จับจ้องที่เย่หวูเฉิน ในหมู่พวกเขา ไม่มีใครเข้าใจความหมายของเย่หวูเฉินได้

“คงคิดว่าข้าพูดพล่ามส่งเดชอยู่? บางเรื่อง ท่านคิดเรียบง่ายเกินไป ทั้งที่จริงๆ ท่านควรตระหนักถึงมันได้มานานแล้ว ในเมื่อชาโหวล่วงรู้ตัวตนของเทพลึกลับดำขาว เช่นนั้นในหลายปีที่ผ่านมา เหตุใดจึงไร้การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เพื่อมุ่งทำลายหุ่นทั้งสองตน กลับปล่อยให้พวกมันตื่นขึ้นกลายเป็นหายนะร้ายแรงต่อทวีปปีศาจ เรื่องนี้ปกติแล้วจริงๆหรือ? หากเป็นท่าน เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายกุมอาวุธลับที่สามารถทำลายท่านให้ย่อยยับได้ ท่านจะยังคงกินนอน อยู่อย่างสงบเงียบมานานนับร้อยปีแบบนี้ได้อีกหรือ?”

เทพจักรพรรดิ “.......”

แม้ว่านางเงียบงัน แต่หัวคิ้วมุ่นชิดกันแน่นขึ้น รายละเอียดเล็กๆที่มองข้าม ถูกเย่หวูเฉินตีแผ่ออกมาทีละข้อ เป็นสัญญาณเตือนนางถึงเรื่องร้ายแรง อย่างที่เขาพูดไว้ ดูเหมือนนางจะคิดเรียบง่ายเกินไป

“ท่านสมควรทราบอยู่แล้วว่าเมื่อร้อยปีก่อน ชาโหวได้มอบหมายให้ธิดาตนเองนำทัพปีศาจบุกทวีปเทียนเฉินเพื่อตามหามุกเซียน นี่ยังเป็นเหตุผลที่หนิงเสวี่ยและทงซินใช้เพื่อไปยังทวีปเทียนเฉิน.... ทว่า ชาโหวต้องการมุกเซียนโกลาหลทั้งสี่เม็ด เพื่อหวังเอาชนะเทพลึกลับดำจริงๆหรือ?” เย่หวูเฉินสั่นศีรษะ แววตาเย็นเชียบ “คำตอบคือไม่! มันคือจักรพรรดิปีศาจ สมควรรู้ว่ามุกเซียนโกลาหลย่อมก่อให้เกิดดินแดนสุดขั้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าใกล้ดินแดนสุดขั้วเหล่านั้น ด้วยพลังของชาเสี่ยวโม่ลูกสาวมัน รวมถึงพลังของกองทัพปีศาจ ต่อให้หาพบไหนเลยจะเก็บมุกเซียนโกลาหลออกไปได้ หรือต่อให้เก็บได้ก็ไม่มีทางใช้ หากชาโหวต้องการมุกเซียนโกลาหลจริงๆ เหตุใดมันจึงไม่มาทวีปเทียนเฉินด้วยตัวเอง? มันให้เสี่ยวโม่ไปยังทวีปเทียนเฉิน แท้จริงคือเพื่อให้นางติดอยู่ที่นั่น ไม่สามารถกลับบ้านได้.... วงแหวนเวทย์เคลื่อนมิติ เส้นทางหนึ่งเดียวที่ทวีปปีศาจใช้เดินทางระหว่างทวีปเทียนเฉิน สมควรมิได้ถูกพวกท่านทำลาย แต่เป็นชาโหวทำลายด้วยตัวเอง และประโคมข่าวออกไปว่าถูกทำลายด้วยฝีมือของชาวทวีปเทวะ ไม่อย่างนั้น ด้วยพลังที่ด้อยกว่าทวีปปีศาจ เหตุใดเผ่าพันธุ์ปีศาจถึงปล่อยให้พวกท่านทำลายสิ่งสำคัญปานนั้นได้ง่ายๆ วงแหวนเวทย์เคลื่อนมิติถูกทำลาย ชาเสี่ยวโม่ย่อมหมดหนทางกลับไปในช่วงเวลาหนึ่ง ทำได้เพียงติดอยู่ในทวีปเทียนเฉิน”

“อย่างไรก็ตาม....” เย่หวูเฉินเหลือบมองที่เล่งหยาและเสวี่ยเย่ จากนั้นกล่าว “มีสิ่งหนึ่งที่ท่านสมควรยังไม่ทราบ ในอดีต หลังจากที่ชาหลัวถูกสังหารโดยเสวี่ยเย่ วิญญาณปีศาจของเขาถูกรักษาไว้นานกว่าสิบๆปี ภายหลังต่อมา เขาได้เกิดใหม่ภายใต้โลหิตสังสาระเมื่อราว 20 กว่าปีก่อน อาศัยอยู่ในร่างหนึ่งร่วมกับจิตวิญญาณอื่น โดยก่อนที่จะถูกส่งมา ชาโหวผู้เป็นบิดาได้กำชับกับมัน ว่าให้ออกตามหาและอยู่ร่วมกับน้องสาวชาเสี่ยวโม่ ทว่าแท้จริงแล้ว.... นี่เป็นอีกครั้งที่ชาโหววางแผนส่งบุตรชายคนเดียวไปจากทวีปปีศาจ อย่างน้อยในช่วงเวลาหนึ่งย่อมไม่อาจกลับไป”

“เทพจักรพรรดิ ท่านทราบหรือไม่ว่าเหตุใด ชาโหวจึงต้องส่งลูกสาวและบุตรชายไปจากทวีปปีศาจ เหตุผลของเรื่องนี้ ข้าได้ครุ่นคิดอย่างหนักจึงเข้าใจ กระทั่งชาเสี่ยวโม่และชาหลัวยังไม่ทราบถึงเรื่องราวทั้งหมด” เย่หวูเฉินมองเทพจักรพรรดิที่อยู่ไม่ห่าง ลมหายใจนางแฝงความปั่นป่วนอย่างเห็นได้ชัด แม้ท่าทางยังคงสงบนิ่งดุจน้ำแข็ง

“ข้าไม่รู้” เทพจักรพรรดิตอบได้เพียงเท่านี้ ในขณะเดียวกัน ถ้อยคำของเย่หวูเฉินก่อให้เกิดเงาทะมึนพาดผ่านหัวใจนาง เพราะเขาสื่อความหมายอย่างชัดเจนว่า ชาโหวได้วางแผนการอันน่ากลัวไว้นานแล้ว อีกทั้งยังปิดบังความจริงไว้จากทุกคน

“ทวีปปีศาจปรากฎขึ้นได้อย่างไร ท่านสมควรรู้เรื่องนี้” เย่หวูเฉินกล่าว

เทพจักรพรรดิลังเลเล็กน้อย ก่อนกล่าว “ในอดีต จักรพรรดิใต้และจักรพรรดิเหนือภายใต้ความละโมภ , โกรธเกรี้ยว และชิงชัง ทั้งสองได้ต่อสู้กันตลอดหลายปี.... อารมณ์ด้านลบต่างๆ ได้สั่งสมจนกระทั่งถึงจุดที่สามารถก่อร่าง กลายเป็นปีศาจที่ทรงพลังขึ้นมาตนหนึ่ง ต่อมา ปีศาจตนนี้ถูกปราบปรามภายใต้การร่วมมือของจักรพรรดิใต้และจักรพรรดิเหนือ ทว่ามันหลบหนีไปได้ และไม่ทราบว่าซ่อนตัวอยู่แห่งใด หลังจากนั้น มันได้สร้างดินแดนแห่งหนึ่งขึ้นมา พร้อมกับสร้างปีศาจที่ครองพลังทมิฬจำนวนมาก จากนั้นได้ส่งเหล่าปีศาจโจมตีจักรพรรดิใต้และจักรพรรดิเหนือ ทว่าพวกมันยังคงพ่ายแพ้ หากนับแต่นั้นเป็นต้นมา จำนวนปีศาจได้เพิ่มทวีขึ้นอย่างรวดเร็ว กลายเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจ ดินแดนแห่งนั้นกลายเป็นทวีปปีศาจแห่งนี้ หลังจากนั้นไม่นาน จักรพรรดิใต้และจักรพรรดิเหนือได้สั่งเสียถ้อยคำสุดท้ายไว้และจากไปพร้อมกัน ส่วนปีศาจตนนั้น ไม่เคยปรากฎตัวขึ้นอีก....”

“เรื่องนี้....” เย่หวูเฉินเอ่ยแทรกเทพจักรพรรดิขึ้นมาในยามนี้ เขากล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ปีศาจตนนั้นที่พ่ายแพ้ต่อจักรพรรดิใต้และจักรพรรดิเหนือ สาเหตุที่มันไม่เคยปรากฎตัวขึ้นอีก อาจเพราะมันกำลังอยู่ในห้วงลึกของการหลับไหล!?”

เทพจักรพรรดิที่บินอยู่หยุดร่างชะงักทันที สีหน้าตื่นตะลึงอยู่กลางอากาศ ถ้อยคำของเย่หวูเฉินประดุจค้อนยักษ์ฟาดลงกลางใจนางอย่างหนักหน่วง

“อย่าลืมว่าพลังดั้งเดิมของปีศาจคือทมิฬและมรณะ ชาโหวทราบถึงการมีอยู่ของเทพลึกลับดำขาว และเหมือนมันยังทราบอีกว่า เทพลึกลับดำจะถูกส่งมายังทวีปปีศาจทันทีที่ตื่นขึ้น ดังนั้น มันจึงตระเตรียมการเพื่อรอเวลานั้น.... เหตุใดปีศาจตนนั้นถึงไม่ปรากฎตัวอีก? บางที อาจเป็นเพราะมันได้ตายไปแล้ว หรือบางที มันกำลังหลับลึกอยู่ หากเป็นเพราะอย่างหลัง อะไรทำให้มันหลับลึก? แล้วเหตุใดจึงไม่ตื่นขึ้นเป็นเวลายาวนานถึงเพียงนี้.... นั่นเพราะว่า ในอดีตมันพ่ายแพ้ต่อจักรพรรดิใต้และจักรพรรดิเหนือที่ร่วมมือกัน การต่อสู้ระดับนั้น หากหวังฟื้นฟูกำลังย่อมเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง ต้องใช้พลังมหาศาล ดังนั้น มันจึงเก็บซ่อนตัว หลับไหลลึกอยู่ในมุมหนึ่ง ทว่า หากมีพลังทมิฬและมรณะจำนวนมหาศาล หากต้นกำเนิดพลังของมันพลันปรากฎขึ้น? พลังเหล่านั้นจะสามารถ.... ปลุกปีศาจให้ตื่นขึ้นจากการหลับไหลลึกได้หรือไม่!?” เย่หวูเฉินจ้องมองที่เทพจักรพรรดิ แต่ละถ้อยคำล้วนกระจ่างชัด เขาพึงพอใจกับสีหน้าของเทพจักรพรรดิในยามนี้เป็นอย่างยิ่ง



<<<PREV    .    NEXT>>>