วันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 531

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 531 ตัดสินใจเลือก

“สามารถทนอยู่ได้นานถึงเพียงนี้ นับว่าเกินความคาดหมายของข้าจริงๆ” เทพจักรพรรดิส่งเสียงมาจากกลุ่มพวกนั้น ชัดเจนว่า นางไม่คิดว่าเย่หวูเฉินจะทนอยู่ได้นานนักหลังจากถูกส่งไปยังคุกโลกันตร์อัสนี สุดท้ายเขากลับมาด้วยพลังมิติ บางที กระทั่งนางเองยังยากจะทำได้ ทันใดนั้นเอง แววตาของเทพจักรพรรดิฉายความตะลึงเล็กน้อย นางพลันพบว่าบนร่างของเย่หวูเฉิน ทั้งเสื้อผ้าที่สวมใส่ไร้รอยเผาไหม้ของสายฟ้าใดๆ กระทั่งผมเผ้ายังไร้ความยุ่งเหยิง

ถ้อยคำของเทพจักรพรรดิทำให้เชียนจ้งและเสวี่ยเย่ตะลึงงัน และยังดูเหมือนกับว่า ระหว่างพวกเขาไร้ความเป็นปฏิปักษ์ใดๆต่อกัน ทั้งสองทราบเรื่องราวเทพลึกลับที่บ้าคลั่ง แต่พวกมันไม่มีความกังวลเท่าใดนัก เทพลึกลับขาวที่บ้าคลั่งถูกส่งไปยังทวีปเทียนเฉิน อีกไม่นานมันสมควรถูกทำลาย ส่วนเทพลึกลับดำถูกส่งไปทวีปปีศาจ นำภัยพิบัติใหญ่หลวงไปสู่ที่นั่น เทพลึกลับดำจะทำลายตัวเองตามเทพลึกลับขาว พร้อมกับทำลายทั้งทวีปปีศาจ เทียบกันแล้ว ทวีปเทวะสูญเสียเพียงเมืองกง สำหรับเชียนจ้งและเสวี่ยเย่ เพียงเสียเมืองกงแห่งเทวะแทบไม่นับเป็นสิ่งใด

“คุกโลกันตร์อัสนีหายไปแล้ว การสังหารเทพลักลับดำ เทพจักรพรรดิ ข้าจำเป็นต้องให้ท่านช่วย!” เย่หวูเฉินมองเชียนจ้งและเสวี่ยเย่ ก่อนเคลื่อนสายตาไปยังเทพจักรพรรดิ กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังที่สุด

“หายไปแล้ว?”

“ถูกต้อง ไม่จำเป็นต้องถามว่าหายไปได้ยังไง คุกโลกันตร์อัสนีได้หายไปแล้วจริงๆ ข้าไม่ได้หลอกลวงท่าน ตอนนี้ท่านสามารถใช้ข่ายปราณเคลื่อนย้ายไปยังทวีปปีศาจได้โดยตรง” เย่หวูเฉินกล่าว

“.......” เทพจักรพรรดิมองที่ดวงตาของเย่หวูเฉิน นางกล่าวช้าๆ “ข้าขอปฏิเสธ เพราะข้าทราบดีถึงความน่ากลัวของเทพลึกลับดำ หากเจ้าเข้าใจความน่ากลัวของเทพลึกลับดำด้วยตัวเอง เจ้าจะต้องตัดสินใจเช่นเดียวกับข้า”

เย่หวูเฉินยังคงไม่เคลื่อนไหว ตรงกันข้าม เขาเผยรอยยิ้มดูแคลนอย่างเห็นได้ชัด “ชาวทวีปเทวะที่เรียกขานตัวเองว่าเทพ ช่างขี้ขลาดเสียจริงๆ คิดไม่ถึงว่า จะหวาดกลัวในสิ่งที่มนุษย์ต่ำต้อยอย่างข้าไม่เกรงกลัว”

เทพจักรพรรดิสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน นางกล่าวราบเรียบ “เทพลึกลับดำมีพลังคู่ควรทำให้ข้าหวาดกลัว แต่ต่อให้ข้าไม่หวาดกลัว ข้าก็ไม่ช่วยเจ้าสังหารเทพลึกลับดำ ข้าไม่จำเป็นต้องพาตัวเองไปตายเพื่อเจ้า.... เทพลึกลับดำกำลังอาละวาดอยู่ในทวีปปีศาจ นี่คือเรื่องที่น่ายินดีสำหรับข้า ข้าไม่มีเหตุผลใดให้หยุดมัน”

เย่หวูเฉินสีหน้าทะมึนลงเล็กน้อย เขาแค่นเสียง “ท่านคงยังจำได้ ว่าสิ่งที่เทพลึกลับดำพรากไปคือชีวิตของลูกสาวท่าน!”

เทพจักรพรรดิสีหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย หากมิได้กล่าวคำใด

“พวกนาง แม้ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของท่าน แต่ถึงอย่างไร พวกนางก็ถือกำเนิดขึ้นจากพลังของท่าน ต่างอันใดกับการฆ่าลูกสาวในไส้ของตัวเอง? เพื่อลบล้างศัตรูของตน ท่านถึงขนาดไม่ลังเลทำลายลูกสาวทั้งสองทิ้ง ตอนนี้ชีวิตของลูกสาวท่านแขวนอยู่บนเส้นด้าย เหลือเพียงความหวังสุดท้าย ท่านกลับเปล่งวาจาโหดเหี้ยมไร้หัวใจ เทพจักรพรรดิ.... ประเสริฐนักเทพจักรพรรดิ นี่หรือหัวใจของคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นเทพ?” เย่หวูเฉินสีหน้าทะมึนอย่างน่ากลัว น้ำเสียงยิ่งมายิ่งกระแทกแดกดัน.... ปลดปล่อยความโกรธและเกลียดชังที่อัดอั้นมานานในยามนี้

หนิงเสวี่ยและทงซินที่เขารักมากที่สุด ถูกทำให้กลายเป็นเครื่องสังเวยแห่งทวีปเทวะ!! เพราะทวีปเทวะ ทวีปเทียนเฉินจึงเกือบถูกทำลาย เขาเกือบต้องพรากจากหนิงเสวี่ยไปตลอดกาล.... และตอนนี้ ชีวิตของหนิงเสวี่ยและทงซินยังแขวนอยู่บนความหวังสุดท้าย เป็นประกายความหวังที่เลือนรางยิ่ง

เขาอยากฆ่าล้างเหล่าเทพของที่นี่ให้หมดสิ้นเสียจริงๆ

เหล่าเทพ ในความรู้สึกของชาวทวีปเทียนเฉิน นี่คือสัญลักษณ์ของพลัง เป็นตัวแทนของความสูงส่งและศักดิ์สิทธิ์ ทว่าตอนนี้ กลับกลายเป็นสิ่งที่เย่หวูเฉินเกลียดชังมากที่สุด กระทั่งต่อหน้าเทพจักรพรรดิ.... หากไม่ใช่เพราะนางคือมารดาของหนิงเสวี่ยและทงซิน หากไม่ใช่เพราะต้องพึ่งพานางในการช่วยเหลือพวกนาง เขาล้วนปรารถนาฉีกร่างจักรพรรดิแห่งทวีปเทวะให้กลายเป็นชิ้นๆ ไม่ว่าผู้ใด ไม่ว่าจะเป็นบุรุษหรือสตรีก็ช่าง ครั้งหนึ่งคนที่เพียงตบหน้าหนิงเสวี่ยยังถูกเขาสังหารด้วยวิธีเหี้ยมโหดที่สุด ไม่ต้องกล่าวถึงบุคคลที่บีบคั้นพวกนางให้ตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง

อย่างไรก็ตาม หากวันนี้เขาไม่อาจช่วยหนิงเสวี่ยและทงซินได้ เขาไม่ทราบว่าตัวเองจะกระทำบ้าคลั่งถึงเพียงใด

เทพจักรพรรดิหลบเลี่ยงสายตาเขา นางคือผู้ส่งเทพลึกลับขาวไปยังทวีปเทียนเฉิน ภายใต้ความสงบราบเรียบ ภายในต้องกดระงับความรู้สึกหนักหน่วงไว้ ถ้อยคำของเย่หวูเฉินทิ่มแทงหัวใจนางอย่างรุนแรง ทำให้การสละหนิงเสวี่ยและทงซินก่อนหน้านี้กลายเป็นกระบี่เสียบแทงหัวใจ ชาวทวีปเทวะรอคอยการตื่นขึ้นของเทพลึกลับดำขาว แสดงความเสียใจที่ต้องสังเวยองค์หญิงไป่เย่และองค์หญิงเฮยเย่ ทว่าไม่มีผู้ใดรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดที่เทพจักรพรรดิปิดซ่อนไว้ ในอดีต นางใช้มุกเซียนทั้งสี่เม็ดสร้างองค์หญิงเฮยเย่และไป่เย่ในฐานะภาชนะ ทว่าอย่างไร นี่คือชีวิตที่นางให้กำเนิด เป็นประดุจลูกสาวในสายเลือด.... ใกล้ชิดผูกพันธ์แม้ไม่มีตัวตน อยู่ร่วมกันมาตลอดหลายปี สายสัมพันธ์ปานนี้ จะถูกตัดขาดง่ายๆแบบนี้เองหรือ?

นางสะกดข่มความเจ็บปวดในหัวใจ สีหน้ายังคงเรียบเฉยไม่แปรเปลี่ยน “เจ้าพูดถูก พวกนางถือเป็นลูกสาวของข้าจริงๆ และเจ้าสมควรรู้ว่า ข้าปรารถนาช่วยพวกนางยิ่งกว่าผู้ใด แต่เจ้าในตอนนี้ไม่มีทางเข้าใจ เทพลึกลับดำครองพลังที่ไม่อาจต่อต้าน อย่าว่าแต่ข้าเลย ต่อให้มีข้าสิบคน ก็ไม่มีหวังเอาชนะเทพลึกลับดำได้ ไปที่นั่นมีแต่ตายเปล่า ข้าไม่อาจยอมรับได้”

“จริงอยู่ที่ท่านทำไม่ได้” เย่หวูเฉินหรี่ตาลง กล่าวคำอย่างแห้งแล้ง จากนั้นค่อยๆเอ่ย “แต่ข้า.... ทำได้!”

“เจ้า?” ใบหน้าของเทพจักรพรรดิวาบผ่านด้วยความแปลกใจ

“ถูกต้อง ข้ารับประกันได้อย่างเต็มที่ ว่าสามารถเปลี่ยนเทพลึกลับดำให้กลายเป็นเถ้า หากมีเฉพาะเทพลึกลับดำ ข้าไม่จำเป็นต้องให้ท่านช่วย แต่นี่ยังมีทงซินที่จะเกิดอันตราย ข้าจึงจำเป็นต้องให้ท่านช่วย หยุดการเคลื่อนไหวของมันเพียงชั่วเวลาสั้นๆ แม้ท่านไม่ใช่คู่มือของเทพลึกลับดำ แต่ท่านคือเทพจักรพรรดิ ด้วยพลังของท่านย่อมทำได้แน่นอน ท่าน ตอบมาว่าจะทำหรือไม่”

เทพจักรพรรดิเผยสีหน้าครุ่นคิด เย่หวูเฉินแข็งแกร่งอย่างยิ่ง หากไม่นับเทพลึกลับดำขาวเป็นสิ่งมีชีวิต บางทีทั่วทั้งโกลาหลแห่งนี้ อาจมีเพียงนางและจักรพรรดิปีศาจที่เป็นคู่มือเขาได้ ด้วยอายุเพียงนี้ มนุษย์แห่งทวีปเทียนเฉินกลับทรงพลังจนนางต้องตื่นตะลึง ตอนนี้เขายังมั่นใจถึงขนาดออกปากว่าสามารถทำลายเทพลึกลับดำได้ นี่มิใช่อาการของคนผู้หยิ่งผยอง แต่เป็นอาการของผู้มีสิ่งรับประกันจนมั่นใจยิ่ง

“เจ้าคิดทำลายเทพลึกลับดำด้วยสิ่งใด!” เทพจักรพรรดิมุ่นคิ้วถาม ตอนนี้นางอยากได้ยินคำตอบจากเขาอย่างมาก

“ท่านไม่จำเป็นต้องรู้” เย่หวูเฉินตัดบททันที กล่าวต่อด้วยเสียงต่ำ “ท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตามแต่ แต่สิ่งที่ท่านต้องทำคือเพียงเลือก.... ท่านอยากละทิ้งลูกสาวที่เกือบถูกทำลายมาแล้วครั้งหนึ่ง ผลักไสพวกนางให้ตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังด้วยมือตัวเองอีกครั้งอย่างนั้นหรือ?”

เกือบถูกทำลาย.... ผลักไสให้ตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังด้วยมือตัวเอง.... ถ้อยคำเหล่านี้ทำให้เทพจักรพรรดิร่างกายสั่นไหวเล็กน้อย ถึงแม้นางเป็นเทพจักรพรรดิ แต่ก็ยังยากทานทนต่อถ้อยคำเสียดแทงปานนี้

“ได้.... หากคุกโลกันตร์อัสนีหายไปแล้วอย่างที่เจ้าว่าจริงๆ ข้ารับคำไปยังทวีปปีศาจกับเจ้า หวังเพียงแต่ว่า เจ้าจะสามารถช่วยเฮยเย่และไป่เย่ได้จริงๆ” เทพจักรพรรดิทอดถอนใจขณะกล่าวแผ่วเบา

“ดี” เย่หวูเฉินพยักหน้าช้าๆ “ข้ายินดีนักที่ท่านรับคำ.... ไม่อย่างนั้น ข้าคงต้องบอกกับท่านตามตรง หากเสวี่ยเอ๋อร์และทงซินเป็นอะไรไป ข้าจะไม่ลังเลใช้ทุกอย่างที่มี เปลี่ยนทวีปเทวะทั้งหมดให้กลายเป็นเถ้าถ่าน!”

เทพจักรพรรดิ “.......”

ถ้อยคำของมนุษย์กลับทำให้จักรพรรดิแห่งทวีปเทวะบังเกิดความรู้สึกเย็นเยียบขึ้นในใจ นี่เรียกว่า ‘ความกลัว’ เปลี่ยนทวีปเทวะทั้งหมดให้กลายเป็นเถ้า ไม่เคยมีใครกล้ากล่าวคำปานนี้ ทว่านี่ออกมาจากปากเขา นางกระทั่งลืมบันดาลโทสะ ภายในใจกลับสั่นไหวเล็กน้อย ในฐานะเทพจักรพรรดิ ทั่วทั้งทวีปเทวะ ไม่ว่าผู้ใดได้พบนางล้วนต้องเคารพนบนอบ ต่อหน้ากล่าววาจาก้าวร้าวถึงปานนี้ มีเพียงเขาเป็นคนแรก ทว่าครั้งแรกนางกลับไม่มีความโกรธ.... เพราะเขาล้วนทำเพื่อลูกสาวของนาง ลูกสาวที่เกือบถูกทำลายด้วยฝีมือตน นางไม่คู่ควรโกรธเคืองต่อหน้าเขา

นี่เป็นบุรุษปานใดกันแน่!

เย่หวูเฉินยื่นมือออก เรียกเซียงเซียงและกล่าวอย่างนุ่มนวล “เซียงเซียง ไปรับเล่งหยามาที่นี่ที เขาสมควรไปที่นั่นด้วยเช่นกัน”

พลังของเย่หวูเฉินพุ่งทะยานหลังจากกลืนกินมุกชุมอัสนีที่อยู่ในคุกโลกันตร์อัสนี พลังของเซียงเซียงที่ผูกโยงกับเขาก็เพิ่มทวีขึ้นเช่นเดียวกัน พลังที่ถูกใช้ไปก่อนหน้าได้ฟื้นฟูกลับมาจนสมบูรณ์ การปรากฎตัวของนางยังทำให้ม่านตาของเสวี่ยเย่หดลีบลงอย่างเห็นได้ชัด กระทั่งสืบเท้าถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว แววตาที่จับจ้องเซียงเซียงแฝงด้วยความเกลียดชังและหวาดกลัว ก่อนหน้านี้ นางพ่ายแพ้ถูกทะลวงทรวงอกด้วยพลังของประหลาดของสิ่งมีชีวิตตัวน้อย นางฆ่าผู้คนมานับไม่ถ้วน ทว่าแทบไม่เคยได้รับบาดเจ็บ แม้นางโหดเหี้ยมและรุนแรง หากอารมณ์กลับหวั่นไหวได้ง่าย มีเพียงเชียนจ้งที่รู้ว่านางกลัวความเจ็บเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น เซียงเซียงจึงกลายเป็นความทรงจำน่าสะพรึงสำหรับนาง

เย่หวูเฉินเหลือบแลเสวี่ยเย่ด้วยหางตา ในขณะเดียวกัน เซียงเซียงบนฝ่ามือได้หายไปในกลุ่มแสงขาวเล็กๆ

ตั้งแต่เซียงเซียงปรากฎกาย เทพจักรพรรดิได้จับจ้องนางไว้ตลอด เวลานี้ นางเงยหน้าขึ้นและกล่าว “นี่คือพลังมิติที่บริสุทธิ์สูงสุด การเคลื่อนตัดมิติของเจ้าอาศัยนางอย่างนั้นหรือ? เจ้าบอกข้าได้หรือไม่ นางมีต้นกำเนิดมาจากที่ใด?”

มีน้อยสิ่งนักที่สามารถทำให้เทพจักรพรรดิสนใจ เย่หวูเฉินเหลือบมองนางอย่างเย็นชา ถอนสายตาออกและไม่กล่าวตอบ เทพจักรพรรดิทราบว่าเย่หวูเฉินเกลียดนางเพราะเรื่องหนิงเสวี่ยและทงซิน นางจึงไม่ไต่ถามอีก เพียงคาดเดาต้นกำเนิดของเซียงเซียงอย่างเงียบงัน หากเซียงเซียงปรากฎกายในร่างจิ้งจอกมังกร นางคงพอเดาเรื่องราวบางอย่างได้ ทว่าเซียงเซียงปรากฎตัวในร่างสาวน้อยขนาดพกพา ไหนเลยนางจะคาดเดาที่มาของเซียงเซียงได้

ทันใดนั้น แสงขาวสว่างวาบขึ้นอีกครั้ง เซียงเซียงปรากฎตัวบนไหล่ของเย่หวูเฉิน พร้อมกับเล่งหยาที่ยังคงมีสีหน้าเย็นชายืนอยู่ด้านข้าง ดูเหมือนเขายังคงอ่อนแรงอยู่บ้าง ทว่าสีหน้ายังคงเย็นชาและแกร่งกร้าว เขาเพียงมองที่เย่หวูเฉิน จากนั้นเคลื่อนสายตามองไปที่เสวี่ยเย่ฉับพลัน จ้องมองติดตรึงที่ร่างนาง จิตสังหารท่วมทะลักขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุม

เย่หวูเฉินตบไหล่ของเขาเบาๆ ก่อนกล่าวเสียงแผ่ว “หนิงเสวี่ยและทงซินกำลังตกอยู่ในอันตราย ข้าจำเป็นต้องพึ่งพลังของจักรพรรดิปีศาจชาโหว เจ้าเข้าใจความหมายของข้าหรือไม่?”

เล่งหยาถอนจิตสังหารกลับ พยักหน้าโดยไร้ลังเล ทว่าเสวี่ยเย่ปราดมองไปที่ตัวเขา ใบหน้าเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และโหดเหี้ยม

“ปราณปีศาจ.... เจ้าเป็นปีศาจจากทวีปปีศาจอย่างนั้นรึ?” เทพจักรพรรดิตระหนักได้ทันทีว่าเล่งหยามีกลิ่นอายของปราณปีศาจ นางมุ่นคิ้วกล่าว

เย่หวูเฉินเหลือบมองเล็กน้อย “ท่านไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้.... ไป ,ไปยังทวีปปีศาจ เรื่องอื่นๆ เอาไว้ภายหลัง ทำลายเทพลึกลับดำได้แล้วค่อยกลับมาว่ากัน”



<<<PREV    .    NEXT>>>