วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 505

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 505 เสียหาย!

ยืนขึ้นจากพื้น ช่วยเล่งหยาที่ปลิวมาอยู่ด้านข้างให้ลุกขึ้นเช่นกัน ฉู่จิงเทียนยืดเส้นและกำหมัดแน่น ตะโกนคำดังลั่น “อีกครั้ง!”

เขาได้รับพลังแกร่งกล้าอันน่าดีใจ บรรลุความเข้าใจที่โหยหา ทว่ายังคงไร้พลังเมื่ออยู่ต่อหน้าชายชุดดำ ที่เขาใช้ออกเมื่อครู่คือพลังที่ไม่เคยคาดคิด เขาเชื่อว่ายามนี้พลังตนเองได้ก้าวข้ามปู่ของเขาที่เคารพยิ่งแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่อาจทำใจเชื่อ ที่พลังของตนราวกับเด็กเล่นเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา

ตูม!

เปรี้ยง!

ตูม.....

ทั้งสามคนโจมตีอย่างต่อเนื่อง การโจมตีแปรผันหลากรูปแบบ ทว่าผลลัพธ์ยังคงเดิม ถูกอัดปลิวกระเด็นไกลลิ่ว.... ชายชุดดำลบล้างพลังของพวกเขาราวเล่นอยู่ ออกแรงเล็กน้อยส่งพวกเขาปลิวไปไกล ทว่ามิได้ทำร้ายพวกเขาแต่อย่างใด พวกเขารู้ดีว่าหากชายชุดดำส่งพลังสังหารแม้เล็กน้อย ย่อมเพียงพอกำจัดพวกเขาได้ในพริบตา

พลังน้ำแข็งถาโถม คมกระบี่กรีดตัด พลังกระบี่อันรุนแรง.... ทุกรูปแบบของพลังประสานโจมตีอย่างบ้าคลั่ง เป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวกลับปักเท้ากับพื้นไม่เขยื้อนไปไหน รับการโจมตีที่โถมใส่อย่างง่ายดาย เขาไม่ตอบโต้และเพียงส่งพวกเขาปลิวออกไป พวกเขาโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งปลิวออกมารวดเร็วเช่นเดียวกัน

ตูม!

พลังโจมตีระเบิดใส่กลางร่างของชายชุดดำอีกครั้ง และผลลัพธ์ยังเป็นเช่นทุกครา.... ฉู่จิงเทียนหยัดร่างขึ้นจากพื้นหอบหายใจรุนแรง ไม่ทราบเพราะใช้พลังไปมากหรือกระวนกระวาย เล่งหยาก้มศีรษะต่ำ แววตาลึกล้ำจับจ้องไปที่เบื้องหน้า ฉู่จิงเทียนยืนอยู่ข้างเล่งหยา กระซิบแผ่วเบากับเย่หวูเฉิน “ไม่มีทางเลือกแล้ว.... น้องเย่ เชื่อในตัวพวกเรา!”

เขาส่งความหมายให้เย่หวูเฉินเข้าใจด้วยแววตา เย่หวูเฉินพยักหน้าหนัก

ตอนนี้ไร้ทางเลือกแล้วจริงๆ เมื่อไม่อาจผ่านการป้องกันได้ ต่อให้โจมตีนานเพียงใดย่อมไร้ผล ตรงกันข้าม ยังมีแต่สิ้นเปลืองพลัง ทางเลือกสุดท้ายของพวกเขาคือ.... โจมตีด้วยพลังสูงสุด ประสานพลังทั้งหมดโจมตีในคราเดียว! หากวิธีนี้ยังล้มเหลว พวกเขาก็หมดหนทางแล้ว....

เย่หวูเฉินกระชับกระบี่ในสองมือมั่น กระบี่ตัดดาราวาบแสงทองในบางครา ฉู่จิงเทียนคลายหมัดสองข้างที่กำอยู่ หลับตาลงช้าๆ ลมหายใจกลายเป็นนุ่มนวลอย่างรวดเร็ว ห้วงสติก้าวสู่ขอบเขตอันยิ่งใหญ่ เล่งหยายกกระบี่คร่าสายลมขึ้น เบื้องหลังพวยพุ่งด้วยกลุ่มหมอกทมิฬหนาแน่น ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงแห่งโลหิต

ชายชุดดำเชิดศีรษะขึ้น กอดแขนไว้ตรงอกหลวมๆ มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มแห่งความพึงใจ พลังของคนทั้งสามเพิ่มขึ้นจนใกล้ถึงขีดสุด ดูเหมือนนี่เป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายของพวกเขา.... จงแสดงให้ข้าเห็น ว่าพวกเจ้าสามารถทำได้ถึงระดับใด....

ร่างของฉู่จิงเทียนลอยขึ้น ราวกับมีสิ่งไร้ตัวตนพยุงกายไว้ เมื่อลอยขึ้นไปราวสิบเมตรเขาก็หยุดกายลง ส่วนเล่งหยาในแววตาสาดประกายโลหิต พวกเขาเปิดปากตะโกนกู่ก้อง

หนึ่งร่างสีเทา หนึ่งร่างสีดำ ร่างหนึ่งอยู่บนอากาศ ร่างหนึ่งอยู่บนพื้น พุ่งไปยังชายชุดดำประดุจสายฟ้าสองสาย....

แววตาของชายชุดดำสาดประกายเจิดจ้า เขาเห็นกระบี่บนอากาศ.... ฉู่จิงเทียนได้หายไปจากบนนั้น แทนที่ด้วยเงากระบี่สีเทาขนาดใหญ่ ทรงพลังเพียงพอทำลายขุนเขา.... ไม่สิ กระบี่สะเทือนฟ้านี้สามารถตัดอาณาจักรให้ขาดครึ่งได้.... บนพื้นเบื้องหน้า ประกายสีเขียววาบเด่นสะดุดตา พลังทมิฬของเล่งหยาควบกลั่นในระดับสูงสุด ส่งสู่กระบี่คร่าสายลมโดยไม่มียับยั้ง เขาไม่ได้ใช้พลังนี้เพื่อตวัด ‘หนึ่งเส้นสวรรค์’ ที่ทรงพลังสูงสุดเท่าที่เคยมีมา แต่ส่งพลังทั้งหมดไปสู่ปลายกระบี่.... สร้างพลังเจาะที่รุนแรงที่สุด!

ด้วยความเร็วของพวกเขา การโจมตีนี้เกิดขึ้นในพริบตาเท่านั้น ทว่าเวลาราวกับผ่านไปเชื่องช้าอย่างยิ่ง ชายชุดดำหรี่ตาลงช้าๆแทบกลายเป็นเส้นบาง ไร้ระลอกปั่นป่วนขณะเตรียมรับการโจมตีสูงสุดของพวกเขา.... อย่างไรก็ตาม ขณะที่การโจมตีใกล้ถึงร่าง แสงขาวได้ปรากฎขึ้นตรงหน้า พร้อมรัศมีสีทองที่เรืองรองยิ่ง

“ทลายสวรรค์แดนฟ้า!!”

แสงทองคำบรรจุพลังทำลายล้างฟาดตรงสู่อก อย่างไรก็ตาม นี่ยังไม่ใช่ทั้งหมด พลังรุนแรงยิ่งกว่านั้นพุ่งตรงมาจากท้องฟ้าอย่างฉับพลัน....

เต่าดำ!? ชายชุดดำขมวดคิ้วในที่สุด เขาไม่ได้เงยศีรษะขึ้น แต่ตระหนักถึงพลังที่พุ่งเข้าประชิดได้ในทันที นี่คือพลังทั้งหมดของเต่าดำที่ใช้ออกในยามนี้!

สามคนกับหนึ่งสัตว์อสูร เป้าหมายเล็งตรงที่ทรวงอกเขา ประสานพลังสูงสุดของสามคนและหนึ่งสัตว์อสูรเพื่อทะลวงการป้องกัน เขายกมือขึ้นราวกับเวลาผ่านไปเชื่องช้ายิ่ง....

ตูม!!!!

แรงกระแทกของเต่าดำทรงพลังอย่างมาก เล่งหยาทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อเจาะทะลวงจะน่ากลัวเพียงใด ฉู่จิงเทียนบรรลุความเข้าใจและใช้เคล็ด ‘กระบี่ฟ้า’ เป็นคราแรก พลังทำลายล้างจะน่าอัศจรรย์เพียงใด.... ชายชุดดำมิได้หลบเลี่ยง ยืนกรานต้านรับพลังไว้ ทว่าชั่ววินาทีที่พลังแกร่งกล้าเข้าสัมผัส แสงทองที่อยู่เบื้องหน้าพลันหายไป.... ขณะเดียวกัน แสงทองได้ปรากฎขึ้นที่เบื้องหลัง ฟาดฟันอย่างหนักหน่วงใส่ร่างของชายชุดดำ....

ชายชุดดำเปิดเปลือกตาที่หรี่อยู่ในที่สุด....

มือข้างหนึ่งยกขึ้น สร้างม่านพลังไร้สีกางกั้นไว้เบื้องหน้า เล่งหยาทรงพลังเพียงพอทะลวงผ่านทุกสิ่งในโลกหล้า ฉู่จิงเทียนใช้พลังและจิตใจทั้งหมดเปลี่ยนร่างให้กลายเป็น ‘กระบี่ฟ้า’ เต่าดำระเบิดพลังสูงสุดนับจากกลายเป็นสัตว์อสูรที่เติบโต.... ด้วยการประสานของพลังสามสาย นี่ย่อมเพียงพอทำลายทวีปเทียนเฉินได้ครึ่งทวีป.... การโจมตีถึงปานนี้กลับถูกชายชุดดำรับไว้ทั้งหมดด้วยมือเดียว ไม่อาจเคลื่อนไปข้างหน้าได้อีก ไม่อาจสัมผัสถูกร่างของเขา ทุกอย่างถูกสกัดกั้นไว้หมดสิ้น!

ครืน.... พื้นใต้เท้าอันแกร่งกล้าเกิดรอยแตกร้าวในที่สุด.... เสียงเลือนลั่นมิได้เกิดการปะทะของพลังสามสายจนพื้นแตกเท่านั้น แต่ยังมีเสียงกระบี่ตัดดาราฟาดเข้าใส่แผ่นหลัง.... พร้อมกับเสียงเลือนลั่นที่ร่างของเย่หวูเฉินถูกพลังสวนกลับอัดร่างให้ปลิวละลิ่วไปไกล ดุจใบไม้ร่วงหล่นที่ปลิวไปอย่างอิสระ....

แคว่ก.....

หมวกของชายชุดดำขาดออกเป็นรอยเล็กน้อย ภายใต้เสียงเลือนลั่นดุจฟ้าฟาด เขาได้ยินเสียงอันเบาบางนี้อย่างชัดเจน

เสื้อผ้าเสียหาย.... เท่ากับเขาพ่ายแพ้

ด้วยมือหนึ่งข้าง สมควรอัดเล่งหยาและฉู่จิงเทียนให้กระเด็นไปไกลลิ่ว ทว่าพลังประหลาดได้ดูดกลืนพลังสะท้อนไว้ทั้งหมด ราวกับมีสายลมอ่อนโยนที่ไม่อาจต่อต้านพัดพาพวกเขาให้ถอยไปราวสิบเมตร เต่าดำที่โจมตีจากด้านบนถูกส่งออกไปด้วยพลังอ่อนโยนนี้เช่นกัน

การโจมตีนี้ พวกเขาไม่ได้เก็บยั้งพลังแม้แต่น้อย พวกเขาย่อมไม่อาจโคจรพลังได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ฉู่จิงเทียนและเล่งหยาหยัดร่างขึ้นจากพื้น หัวใจแทบสิ้นหวังอย่างไม่ต้องสงสัย ใช้พลังสูงสุดโจมตีประสานกับเต่าดำ เขายังกลับรับได้อย่างสบายมือ.... พลังของพวกเขาห่างชั้นกันมากเกินไป ทะลวงผ่านการป้องกันของเขา คือภารกิจที่ไม่อาจเป็นไปได้

“น้องเย่!” ฉู่จิงเทียนยืนร่างกัดฟันตะโกน.... เขากับเล่งหยาได้แต่มองเย่หวูเฉินถูกอัดปลิวไปไกลลิ่ว.... นั่นไม่ใช่พลังผลักออกธรรมดาของชายชุดดำ แต่เห็นได้ชัดว่าบรรจุพลังทำลายอันแกร่งกล้า!

แววตาของชายชุดดำไหววูบ เขาคว้ามือไปเบื้องหลังตรงอากาศว่าง ฝ่ามือวาบแสงขาวอันนุ่มนวล ทันใดนั้น มิติตรงจุดที่ฝ่ามือหันไปเกิดการบิดผัน ร่างโชกเลือดได้ปรากฎขึ้นที่นั่น.... เขานอนอยู่บนพื้น ไม่อาจลุกขึ้นได้ แทบทุกตารางนิ้วของร่างกายล้วนฉีกขาด โลหิตอาบชุ่มเสื้อผ้าที่ขาดวิ่น ย้อมร่างที่ยับเยิน.... เป็นบาดแผลสาหัสสากรรจ์อย่างยิ่ง เพียงพอทำให้เขาตายได้ แต่เขายังคงมีชีวิต ในจมูกมีลมหายใจอันแผ่วเบา มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มอันพึงใจ.... แม้บาดเจ็บร้ายแรงเช่นนี้ แต่เขาก็ยังคงยิ้ม

“น้องเย่!” ฉู่จิงเทียนตื่นตระหนกแทบตับฉีก เขาพุ่งร่างเข้าไปหาพร้อมเล่งหยา หยุดอยู่ตรงหน้าของเขา พวกเขาไม่กล้าสัมผัสร่างของเย่หวูเฉิน ทำได้เพียงยืนตัวสั่นเทา มนุษย์เลือด.... นี่คือมนุษย์เลือดอย่างแท้จริง หากไม่ใช่เพราะกลิ่นอายอ่อนแอของเย่หวูเฉิน พวกเขาคงไม่กล้าเชื่อว่านี่คือเย่หวูเฉิน.... เป็นครั้งแรกในชีวิตที่พวกเขาเห็นบาดแผลรุนแรงถึงปานนี้ ชายชุดดำมีพลังป้องกันแกร่งกล้าเกินไป เมื่อการโจมตีของเย่หวูเฉินสัมผัสถูกร่าง พลังป้องกันจึงตอบโต้โดยอัตโนมัติ เพียงพลังสวนกลับตามกลไกของร่างกาย ยังทำให้เขาบาดเจ็บหนักจนแทบสิ้นชีวิต

ชายชุดดำมองร่างโชกเลือดของเย่หวูเฉินด้วยแววตาซับซ้อน เขากล่าวคำช้าๆ “ทำได้ดี.... ซ่อนพลังของเต่าดำไว้เพื่อใช้ออกในเวลาสุดท้าย หลอกล่อด้วยการโจมตีของสามคนและหนึ่งสัตว์อสูรโจมตี ทำให้ข้าต้องถอนพลังป้องกันเพื่อกั้นเบื้องหน้า.... ชั่วขณะสุดท้าย เจ้าอาศัยพลังมิติและพลังโจมตีอันสูงสุด เล็งตรงจุดที่เพิ่งถูกถอนพลังป้องกันออกไป.... เยี่ยมมาก เจ้าชนะแล้ว ตอนนี้ ข้าจะส่งพวกเจ้าไปยังทวีปเทวะตามที่พวกเจ้าปรารถนา!”

จุดที่เย่หวูเฉินโจมตีคือด้านหลังบริเวณเอว และกระบวนท่า ‘ทลายสวรรค์แดนฟ้า’ คือท่าที่งัดขึ้น พลังสั่งสมจากเบื้องล่างขึ้นสู่เบื้องบน สุดท้ายพลังกระบี่ได้ตัดหมวกของชายชุดดำเป็นรอยขาดวิ่นเล็กน้อย ในขณะเดียวกัน การโจมตีของเย่หวูเฉินได้ถูกต้องผิวหนังของเขา ร่างกายจึงป้องกันตัวโดยอัตโนมัติ ส่งพลังสวนกลับจนเขาเกือบสิ้นชีวิต

ตามที่ตกลงไว้ หากสามารถสร้างความเสียหายต่อเสื้อผ้าหรือผิวหนังของเขาได้ ให้ถือว่าพวกเขาเป็นฝ่ายชนะ



<<<PREV    .    NEXT>>>