วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 393

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 393 ปาฏิหาริย์แห่งพ่อและลูกสาว

“ซือเฉิน อย่าเสียใจเลย แม่เพียงแค่หลับอยู่ อีกไม่นานป๊ะป๋าจะปลุกแม่ให้ ตกลงมั้ย?” เสียงเศร้าสะอื้นของซือเฉิน ทำหัวใจเขาแทบแหลกสลาย เขาลูบใบหน้านาง เช็ดรอยน้ำตาให้ เขาไม่รู้ว่านี่คือน้ำตาแรกของลูกน้อยวัยสองขวบ คือน้ำตาหยดแรกในชีวิตของนาง กระทั่งตอนที่เกิดมา นางยังไม่ร้องไห้

จื่อเมิ่ง เจ้าเห็นหรือเปล่า? นางคือซือเฉิน คือลูกสาวของพวกเรา.... เจ้าเห็นแล้วใช่มั้ย?

นึกแล้วข้าเสียใจนัก ว่าตอนที่เจ้าจากไป เหตุใดข้าจึงไม่หยุดเจ้า เจ้าเกลียดและโทษว่าข้าหรือไม่? ไม่.... เจ้าคงไม่ทำ เพราะแท้จริงเจ้านั้นอ่อนโยน จื่อเมิ่ง เจ้าอยากอุ้มลูกสาวของพวกเราใช่ไหม? รอข้าก่อน.... ข้าจะต้องปลุกเจ้าให้ได้ จะให้เจ้าได้เห็นลูกสาวของพวกเราเติบโต ให้เห็นนางกลายเป็นโฉมงามเช่นเดียวกับเจ้า

จื่อเมิ่ง.... ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าจากข้าไปอีก

“ป๊ะป๋า.... มองแม่ ป๊ะป๋า.... มอง.... แม่”

“อื้ม ป๊ะป๋ากำลังมองแม่อยู่ เหมือนที่ซือเฉินกำลังมอง” เย่หวูเฉินตอบคำซือเฉินอย่างอ่อนโยน

“ป๊ะป๋า.... มองแม่ มองแม่....” ซือเฉินยังคงเอ่ยคำแปลกประหลาด สองมือตะกายขึ้นข้างบน บ่งบอกกับเย่หวูเฉินว่าให้อุ้มนางสูงขึ้นกว่านี้

เย่หวูเฉินเริ่มเข้าใจความต้องการของซือเฉิน เขาค่อยๆขับแขนยกซือเฉินขึ้นช้าๆ จนอยู่ในระดับเดียวกับศีรษะ เวลานี้เอง ซือเฉินหยุดตะกายมือ ในความมืดมิด เย่หวูเฉินรู้สึกถึงสายลมอ่อนโยนกระทบดวงตา จากนั้น รู้สึกถึงสิ่งอ่อนนุ่มบางอย่างประทับระหว่างดวงตาทั้งสองข้าง

เป็นริมฝีปากของซือเฉินที่ประทับระหว่างดวงตาของเขา นางค้างอยู่ตรงนั้นอย่างนิ่งงัน แสงขาวกลุ่มหนึ่งแผ่ออกจากร่างนางทันที เคลื่อนเข้าห่อหุ้มร่างของเย่หวูเฉิน

ติ้ง!

ดุจค้อนหนักหน่วงฟาดใส่กลางสมอง แรงกระทบทำสติกระเจิดกระเจิง ในสมองกลายเป็นว่างเปล่า ทว่าทันใด สติของเขาก็คืนกลับมา กลุ่มแสงขาวที่ห่อหุ้มก็หายไป เวลาที่แสงขาวปรากฎขึ้นนับได้เพียงชั่วขณะเท่านั้น

สติคืนกลับในสมอง ชั่วขณะที่เกิดแรงกระทบ เขาได้ยินเสียงลั่นในหัว พอสติค่อยๆกลับคืนมา เขาก็ลืมตาที่ปิดอยู่ขึ้นช้าๆ

ประกายแสงน้ำแข็งกระทบดวงตาอย่างคาดไม่ถึง ดวงตาไม่ได้เห็นแสงสว่างมานาน จึงปวดแสบและปิดลงทันที ในใจราวกับถูกเหล็กฟาดอีกครั้ง ไม่ระงับความตื่นตะลึงเป็นเวลานาน

ดวงตา ดวงตาข้า....

เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ไม่อาจเชื่อว่ามีแสงสว่างกระทบดวงตาเมื่อครู่

เปลือกตาสองข้างสั่นไหวและค่อยๆเปิดขึ้น แสงกระทบตามการเปิดของเปลือกตา สิ่งแรกที่มองเห็นคือดวงหน้าไร้เดียงสาที่ปรีดา นี่คือเด็กตัวน้อย ใบหน้าเล็กๆ ผมเผ้า ดวงตา จมูก.... ทั้งหมดเล็กจ้อยและบอบบาง ทุกอย่างสมบูรณ์ราวกับถูกสลัก ร่างกายสวมอยู่ในชุดเด็กน่ารักที่ปักจากมือ หิมะสีขาวกลมกลืนกับผิวขาวของนาง คู่แขนบอบบางและขาสองข้างโผล่ออกมา.... ในกรอบสายตาของเย่หวูเฉิน มองเห็นลูกสาวตนเองโดยตรง สำหรับเขาแล้ว นี่คือฉากที่งดงามที่สุดในชีวิต

นางกระพริบดวงตาดำขลับ มองเขาได้สายตากลับคืนด้วยรอยยิ้มดีใจ ทั้งเรียบง่ายและไร้เดียงสาเป็นที่สุด เพราะนางได้ใช้พลังตัวเอง ฟื้นฟูสายตาที่สูญเสียไปให้กับพ่อของนาง

หรือยังอยู่ในความฝัน?

หากไม่ใช่ความฝัน แล้วจะอธิบายเรื่องลึกลับอัศจรรย์นี้ยังไง?

สายตาของเขาถูกผนึกไว้ ด้วยพลังลึกลับของคันศรบาปวิบัติที่สร้างผลสะท้อนกลับ เป็นคำสาปที่ทรงพลังเทียบเท่า ‘ศรตามจิตโลหิตดำ’ รุนแรงมากพอสังหารใครก็ตามในทวีปเทียนเฉิน กระทั่งเจาะอกของเทพได้ในศรเดียว แต่ทว่า มันกลับพ่ายให้กับซือเฉิน....

“ซือเฉิน.... ขอบคุณ....” เย่หวูเฉินมองนางด้วยแววตาสั่นไหว ยกนางไว้ด้วยสองแขนอันสั่นเทา นี่คือลูกสาวของเขา คือของขวัญล้ำค่าสูงสุดที่สวรรค์ประทานให้ ด้วยเห็นใจในชะตากรรมของเขา

ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเหตุใด เขาไม่อยากจะคิดถึงมันในยามนี้ เขาเพียงต้องการกอดลูกสาวของตน อยากสัมผัสถึงสายเลือดที่ไม่มีวันตัดขาด

“ท่านพ่อ ดวงตาท่าน.... มองเห็นแล้วเหรอ?” เสี่ยวโม่ตรงมาข้างหน้าอย่างรีบร้อน จ้องมองดวงตาของเขาไม่กระพริบ จากนั้นอุทานอย่างตื่นเต้น เพราะในดวงตานั้น นางเห็นแววตาคู่เดิมที่ทำให้นางไม่อาจอดห้ามความหลงไหล

เย่หวูเฉินหันมากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถูกต้อง ข้ามองเห็นเสวี่ยโม่ เห็นอาเสวี่ยของเจ้า เห็นซือเฉิน.... เป็นซือเฉินที่รักษาดวงตาให้ข้า ส่วนซือเฉิน นางเองก็มองเห็นและได้ยินเสียงของพวกเราแล้ว.... บางที นี่อาจเป็นสวรรค์ที่ชดเชยสิ่งติดค้างต่อพวกเราพ่อลูก”

เป็นความจริงที่สวรรค์ติดค้างพวกเขามากเกินไป ทว่าเมื่อเห็นซือเฉินในยามนี้ เขาไร้ความคับข้องใจใดๆอีก มีเพียงความอบอุ่นและขอบคุณ

เสี่ยวโม่ออกแรกพยักหน้า เผยรอยยิ้มยินดีล้ำลึกบนใบหน้า เวลานี้ นางรู้สึกขอบคุณซือเฉินจากก้นบึ้งหัวใจ ความอิจฉาเล็กๆก่อนหน้าได้สลายไปไม่หลงเหลือ ขณะเดียวกัน นางก็ตกตะลึงสุดหัวใจ เพราะนางเข้าใจแจ้มแจ้งดีว่า ผนึกกั้นสายตาของเย่หวูเฉินนั้นทรงพลังแกร่งกล้าเพียงใด ทว่าเด็กน้อยอายุสองขวบผู้นี้กลับ....

ยิ่งกว่านั้น แสงขาวที่สว่างวาบเมื่อครู่คือสิ่งใด? มันแผ่พลังที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง นางไม่เคยรู้สึกถึงพลังแบบนี้มาก่อน ที่แปลกกว่านั้นก็คือ แม้อยู่ใกล้เพียงเอื้อม แต่นางกลับไม่อาจหยั่งวัดความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอของพลังนั้นได้

เสวี่ยเฟยเยี่ยนมองดูพ่อลูกที่กอดกันอยู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พ่อและลูกสาวได้พบกัน นำพาปาฏิหาริย์น่าเหลือเชื่อเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หัวใจนางอบอุ่นเพราะพวกเขา จากนั้นค่อยๆตื้นตัน  พวกเขาราวกับถูกสวรรค์ทอดทิ้ง ทว่าแท้จริงมันคือการพลิกผันของโชคชะตา

“ป๊ะป๋า.... ป๊ะป๋า.... มองแม่” ซือเฉินแกว่งมือน้อยๆ ส่งความหมายด้วยน้ำเสียงเยาว์วัย ซือเฉินพบกับเขาเป็นครั้งแรก แต่ไม่ทราบเหตุใดนางจึงยึดติดเขาอย่างงมงาย นางแนบร่างกับเขาไม่ยอมแยกห่าง ไม่ทราบเป็นเหตุผลทางสายเลือด หรือเพราะการผูกโยงของโชคชะตา....

เย่หวูเฉินเคลื่อนตาตามเสียงของนาง ในสายตาที่มองเห็น เป็นก้อนน้ำแข็งสูงราวสองเมตร ในชั้นน้ำแข็งหนาอันเย็นเยียบเกินมนุษย์ใดจะทานทน มีสตรีงามล้ำเลิศผู้หนึ่งนอนอยู่อย่างนิ่งงัน ผมยาวแผ่สยาย ชุดสีฟ้าสวมคลุมกาย ผิวกระจ่างเหนือหิมะ งดงามจนแทบหยุดหายใจ แผ่ความรู้สึกอันสูงศักดิ์.... สีหน้าของนางบอกกับเย่หวูเฉินว่า ในช่วงสติสุดท้ายก่อนจะหายไป นางไม่มีสิ่งใดต้องเสียใจหรือบ่นพ้อ เพราะนางให้กำเนิดซือเฉินได้สำเร็จ รักษาเลือดเนื้อที่เย่หวูเฉินทิ้งไว้เบื้องหลัง นางสามารถตายโดยไร้กังวล และติดตามเขาไปยังโลกหน้า

“จื่อเมิ่ง....” ถูกแช่แข็งเกือบสามปี นางไม่มีสิ่งใดที่เปลี่ยนไป ยังคงงดงามเหมือนนางเซียนเมื่อสามปีก่อน เย่หวูเฉินแววตาสั่นไหวเล็กน้อย ในปากพึมพำชื่อนางโดยไม่รู้ตัว

ความรู้สึกร้ายแรงแผ่มาจากแขน เด็กน้อยในอ้อมกอดร่างอ่อนปวกเปียกลงฉับพลัน หัวใจของเย่หวูเฉินเต้น ‘ตึก’ อย่างรุนแรงคราหนึ่ง เขาหันศีรษะกลับมาอย่างแตกตื่น และพลันพบว่าแววตาแจ่มใสของซือเฉินกำลังหมองลงช้าๆ เปลือกตาค่อยๆปิดลงอย่างอ่อนแอ แขนค่อยๆตกห้อยที่ข้างกาย

“ซือเฉิน!”

“ซือเฉิน!”

เย่หวูเฉินและเสวี่ยเฟยเยี่ยนเมื่อเห็นภาพ ก็ตะโกนอย่างตื่นตระหนก เสวี่ยเฟยเยี่ยนผวาร่างมาเบื้องหน้าเย่หวูเฉิน สำรวจสีหน้าของซือเฉินที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ทว่าระหว่างที่ทั้งสองตะโกนเรียกชื่อ ซือเฉินไร้การตอบสนองใดๆ นอนนิ่งอยู่ในอกของเย่หวูเฉิน ไม่ว่าพวกเขาจะเรียกนางเท่าใด

ความกลัวแผ่ท่วมหัวใจของเย่หวูเฉิน หัวใจแทบหลั่งเลือดระเบิดออก แม้เขาไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับซือเฉิน แต่พลังล่วงรู้อนาคตบอกเขาว่านี่ไม่ใช่เรื่องดี เขาไม่อาจห้ามความกลัวในเวลานี้ ขณะที่เขาปล่อยพลังหวูเฉินเข้าตรวจสอบด้วยมือสั่นเทา เสวี่ยเฟยเยี่ยนก็ส่งเสียงตกใจ และกล่าวด้วยคิ้วมุ่น “พลังหิมะและน้ำแข็งของนางหายไป.... หายไปจนแทบไม่เหลือ ไม่ดีแล้ว.... ชีวิตของซือเฉินดำรงอยู่ได้ด้วยพลังที่ข้ามอบให้นาง หากนางสูญเสียพลังนี้ไป นางจะ....”

ภายในร่างของซือเฉินกลายเป็นว่างเปล่า พลังที่ซ่อนอยู่ในร่างนาง แม้ว่านางไม่อาจใช้มัน แต่มันก็ทำให้นางไม่เกรงกลัวความเย็น พลังหิมะและน้ำแข็งกลับหายไปจนหมดสิ้น ร่างของนางจึงค่อยๆเย็นลง.... และยิ่งนางสวมใส่ในชุดบางเบา เผยทั้งมือและเท้าออกมา ร่างอ่อนนุ่มที่เคยอบอุ่น ยามนี้เย็นลงด้วยความเร็วที่สัมผัสได้ ทำให้หัวใจของเย่หวูเฉินหดวูบ

พลังหิมะและน้ำแข็งที่หายไปจากร่างนาง.... เห็นได้ชัดว่าเพื่อช่วยเขาถอนคำสาปที่ผนึกดวงตา!!

พลังของคันศรบาปวิบัติ ที่สร้างผลสะท้อนกลับนั้นแกร่งกล้าเพียงใด กระทั่งเสวี่ยเฟยเยี่ยนในอดีตยังหมดหวังทำลายมัน พลังหิมะและน้ำแข็งที่ซือเฉินได้รับมาจากเสวี่ยเฟยเยี่ยน ย่อมอ่อนแอกว่ามากเมื่อเทียบกับเจ้าของเดิม ต่อให้นางใช้ออกจนหมดสิ้น ก็ย่อมไม่มีทางทำลายมันได้.... ความคิดมากมายปั่นป่วนในสมองของเย่หวูเฉิน ความเป็นไปได้ทุกอย่างผุดขึ้น เขาไร้ทางเลือกนอกจากคิดหาทาง เพื่อปลุกซือเฉินขึ้นในอ้อมแขน

เย่หวูเฉินและเสวี่ยเฟยเยี่ยนจ้องมองอยู่ชั่วขณะ แววตาสับสนอลม่าน ทว่าทันใดนั้น ฉับพลันแสงขาวก็ห่อหุ้มร่างของซือเฉิน จนกระทั่งมองไม่เห็นร่างของนางอีก ราวกับว่าตัวนางกลายเป็นแสงขาวบริสุทธิ์ จากนั้น  กลุ่มแสงขาวเคลื่อนสู่ร่างของเย่หวูเฉิน แผ่คลุมร่างและไหลซึมเข้าไปในกายอย่างรวดเร็ว

ซือเฉินกลายเป็นแสงขาวหายไปจากอ้อมอก จากนั้นผสานเข้าไปในร่างของเขาอย่างคาดไม่ถึง

ในห้วงทะเลสำนึกของเย่หวูเฉิน ปรากฎภาพเด็กน้อยหลับไหลอยู่ ในห้วงสติส่วนลึกนั้น ใบหน้าเล็กๆที่ขมวดตึงคลายออกอย่างรวดเร็ว ฉายรอยยิ้มแห่งความอบอุ่นสบายใจ และหลับไหลอย่างสงบ

เย่หวูเฉินยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น เขาจะไม่เชื่อสิ่งที่ตาและสติตัวเองมองเห็นได้อย่างไร

ทำไม.... เกิดอะไรขึ้นกันแน่.... ทำไมซือเฉินถึงได้....

ยิ่งกว่านั้น ความรู้สึกคุ้นเคยที่ไม่อาจอธิบายนี้คือสิ่งใด? จะเพียงแค่เพราะว่า.... นางคือลูกสาวข้าจริงๆหรือ?

ไม่ ไม่ใช่แน่นอน.... เรื่องนี้จะต้องมีบางสิ่งที่ข้ายังไม่รู้อยู่ แต่ว่ามันคืออะไร?



<<<PREV    .    NEXT>>>