วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 423

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 423 คลังสมบัติ

สายลมบางเบาไหวผ่าน ยามที่เฝ้าคุ้มกันอย่างใจจดจ่อมองไปที่ทางเข้าด้วยความสัย.... ลม? ทางเข้าถูกปิดไว้ตลอดปี คนนอกไม่มีทางรู้การมีอยู่ของอุโมงค์นี้ สายลมที่พัดผ่าน คงเป็นเพียงลมเท่านั้น....

ระหว่างที่มองดู ล้วนไม่พบสิ่งใดผิดปกติ ในที่สุดพวกมันก็คิดว่าตนเองรู้สึกไปเอง ตอนนี้ หากบอกพวกมันว่ามีคนกำลังลอบเข้าไป พวกมันคงเชื่อไม่ลงเด็ดขาด การบุกรุกเข้าไปอาจจะง่าย แต่การลอบเข้าไปโดยไม่ให้ใครรู้ตัว นับว่ายากดุจปีนป่ายสวรรค์

สุดปลายอุโมงค์ของตระกูลซีเหมิน เป็นห้องลับเล็กๆที่อยู่ก้นสุด

ในห้องนี้เป็นผืนมืดดำสนิท ไม่มีแสงไฟใดๆส่องเข้ามา แต่สายตาของชายชุดดำเป็นประกายสองจุดในความมืด ท่ามกลางความมืดมิด มันมองเห็นทุกสิ่งได้อย่างชัดเจน คลังสมบัติของตระกูลซีเหมินดูราวกับคลังสมบัติของราชวังเทียนหลง ชายชุดดำกวาดตามองรอบๆ ทั้งทองคำ , เงิน , อัญมณี ในนี้ล้วนแวววาว มันมองผ่านอย่างรวดเร็ว ในที่สุดสายตาก็หยุดลงที่กล่องยาวใบหนึ่ง

กล่องยาวใบนี้ทำจากทองคำบริสุทธิ์ ความยาวราวหนึ่งเมตรครึ่ง กว้างประมาณหนึ่งฝ่ามือ ด้านบนแกะสลักด้วยลวดลายซับซ้อน ด้านล่างมีโซ่ทองร้อยไว้นับสิบเส้น แต่ละเส้นร้อยผ่านห่วงทองเหลืองและยึดกล่องไว้อย่างแน่นหนา มีเพียงต้องปลดโซ่ทองเหล่านี้ออกทั้งหมด ไม่อย่างนั้นจะไม่มีทางเคลื่อนย้ายกล่องนี้ได้ ทว่าโซ่ทองทั้งสิบเส้นนี้ถูกล็อคไว้ ซึ่งดูแล้วไม่มีทางเปิดกล่องนี้ออกได้เลย

ชายชุดดำเดินตรงเข้ามาอยู่หน้ากล่อง ย่อกายลงนั่งช้าๆ ยื่นมือแตะบนฝากล่อง

มีเสียงเล็กๆบางเบา กระแสลมขนาดเล็กพุ่งมาที่ข้างหู ชายชุดดำไม่แม้แต่จะปรายตามอง ยื่นมือซ้ายออกขว้าเข็มสามเล็มที่พุ่งมาจากผนังด้านซ้ายอย่างสะดวกสบาย

มันเริ่มเคลื่อนมือจัดการกับกล่อง การเคลื่อนไหวเริ่มจากช้าเป็นเร็วขึ้น ในที่สุดก็เร็วจนไม่อาจมองเห็นการเคลื่อนไหวของมือ สองมือวูบไหวเป็นเงาในอากาศว่าง เพียงไม่นาน เสียงสะเดาะบางเบาก็เริ่มดังขึ้น โซ่ทองที่ล็อคไว้ค่อยๆถูกปลดออก.... กล่องทองบริสุทธิ์ที่ถูกโซ่ทองพันไว้อย่างแน่นหนา กลับถูกปลดออกทีละเส้นอย่างง่ายดาย อีกทั้งยังไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยใดๆ อาศัยเพียงมือสองข้างของชายผู้นี้

กริ๊ก....

เสียงสุดท้ายดังขึ้น โซ่ทองทั้งสิบเส้นถูกปลด นัยน์ตาของชายชุดดำวาบเป็นประกาย มือเปิดฝากล่องขึ้นช้าๆ ท่ามกลางความมืด มันมองเห็นกระบี่เล่มหนึ่งวางทอดอยู่อย่างชัดเจน ดูธรรมดาอย่างยิ่ง ตีขึ้นจากเหล็กธรรมดาทั่วไป ยิ่งกว่านั้น ยังเห็นได้ชัดว่าผ่านกาลเวลามายาวนาน จากรอยคราบสนิมที่เกาะกุม

มือคว้าจับด้ามกระบี่ ยกขึ้นมองสำรวจ จากนั้นเก็บแนบกับแขน ปิดฝากล่อง พันโซ่ทองคล้องกลับคืนทีละเส้น เมื่อทำทั้งหมดนี้เสร็จ มันก็หันกายแล้วออกไปตามเส้นทางเดิม ไม่มีผู้ใดรู้ตัวเหมือนครั้งแรก

ท่ามกลางค่ำคืนความมืด เงาร่างที่บุกรุกตระกูลซีเหมินได้ข้ามรั้วออกไป วิ่งจากไปไกลภายใต้ม่านรัตติกาล ทั่วทั้งตระกูลซีเหมินไม่มีผู้ใดทราบเลยว่ามีคนบุกรุก และนำสิ่งของที่มันต้องการออกไปแล้ว

ในขณะเดียวกัน ไม่มีผู้ใดรู้ตัวกระทั่งรวมถึงชายชุดดำ ว่าเหนืออากาศสูงลิบนั้น มีเงาร่างหนึ่งจ้องมองชายชุดดำหนีห่างออกไปอย่างเงียบงัน หลังจากที่ชายชุดดำหายไปแล้ว เงาร่างนั้นก็ไหวกายหายไปจากท้องฟ้าอย่างแปลกประหลาด

.....................

.....................

อาณาจักรเทียนหลง บ้านธรรมดาหลังหนึ่งในเมืองเล็กๆที่อยู่ไม่ไกลจากตระกูลซีเหมิน

“นี่คือกระบี่เหล็กจริงๆหรือ?”

เหยียนต้วนหุนมุ่นคิ้วมองดูกระบี่เหล็กสนิมเขรอะที่อยู่ในมือ สำรวจซ้ำๆอยู่หลายรอบ หากกลับไม่พบสิ่งใดเป็นพิเศษ มันยื่นนิ้วลูบใบกระบี่จากปลายจรดลงมาที่โคนช้าๆ ทุกจุดที่นิ้วสัมผัสผ่าน มีแสงสีแดงจางทิ้งรอยไว้ สนิมถูกกำจัดออกไปจนหมด ราวกับเป่าฝุ่นออกไปธรรมดาๆ กระบี่สนิมเขรอะกลายเป็นผิวราบเรียบดุจกระจก

เหยียนต้วนหุนค่อยๆหรี่ตาลงอย่างจริงจัง ผ่านไปเนิ่นนาน ก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆบนผิวกระบี่ราบเรียบนั้น อย่างเช่น ร่องรอยการต่อหลังจากการถูกตัด

“ย่อมใช่ ประมุขสำนักจักรพรรดิเหนือ เจ้าไม่จำเป็นต้องดู ไม่ว่าเจ้าจะคิดอย่างไร แต่ข้ารับรองได้ว่ากระบี่เล่มนี้ไม่เคยถูกตัด ไม่อย่างนั้น ต่อให้เป็นวิธีเชื่อมต่อขั้นสูง ก็ไม่มีทางไม่ทิ้งร่องรอยไว้” ชายชุดดำที่ขโมยกระบี่เหล็กออกมากล่าวอย่างราบเรียบ

เหยียนต้วนหุนพยักหน้าเล็กน้อย รับรองคำพูดของชายชุดดำ เป็นความจริงที่ว่าไม่มีการเชื่อมต่อใดที่ไม่ทิ้งร่องรอย และเหนือใบกระบี่เล่มนี้ก็ไร้ร่องรอยใดๆ ขณะเดียวกัน รอยคราบสนิมก็ต่อเนื่องไร้รอยสะดุด หรือมีสีผิดแผกแตกต่างจากจุดอื่น มันสำรวจเป็นเวลานานไม่พบเห็นตำหนิใดๆ ในใจจึงคลายความกังวลเล็กน้อย

“ประเสริฐ” เหยียนต้วนหุนพยักหน้าช้าๆ จับกระบี่ไว้และสะบัดข้อมือเล็กน้อย

มีเพียงเสียง ‘ติ้ง’ ดังบางเบา ใบกระบี่ปรากฎรอยเส้นขึ้นที่ผิวทันที จากนั้น กระบี่เหล็กแยกออกเป็นชิ้นๆ ร่วงลงบนโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าเหยียนต้วนหุน พร้อมกับม้วนหนังสัตว์เก่าๆที่ร่วงลงมา

เหยียนต้วนหุนและเหยียนเทียนอ้าวสายตาขยับเคลื่อน ด้ามกระบี่ในมือถูกโยนทิ้ง เหยียนต้วนหุนหยิบม้วนหนังสัตว์ขึ้นมาอย่างระวัง จากนั้นคลี่ออกตรงหน้า

แม้ผ่านกาลเวลาอันยาวนาน แต่เส้นสายที่ปรากฎยังคงชัดเจน อักษรที่ระบุไว้ยังเห็นได้ชัด เหยียนต้วนหุนและเหยียนเทียนอ้าวมองเพียงครู่เดียว จากนั้นหันหน้ามองกัน สีหน้าอารมณ์ดูหวั่นไหวไม่แตกต่าง จากนั้น พวกมันพลิกหนังสัตว์ดูอีกด้าน เส้นสายที่เขียนไว้.... บ่งบอกถึงต้นกำเนิดของหนังแผ่นนี้ และมันเป็นของจักรพรรดิบรรพชนแห่งอาณาจักรเทียนหลง

“นี่คือแผนที่คลังสมบัติที่ว่านั่น.... ดูเหมือนสิ่งที่พวกโจรปล้นสมบัติสุสานจักรพรรดิบรรพชนแห่งเทียนหลงแพร่งพรายไว้ จะไม่ใช่เพียงข่าวลือ” เหยียนเทียนอ้าวกล่าว ใบหน้าเผยอาการดีใจอย่างยากจะปิดบัง

เหยียนต้วนหุนยังคงขมวดคิ้วไม่คลายออก หลังจากอ่านตัวอักษรอย่างละเอียด มันก็พลิกแผ่นหนังกลับไปกลับมาอีกหลายครั้ง ตรวจหาความผิดปกติ เป็นเวลาเนิ่นนานมันจึงกล่าว “เหตุใดกระบี่เหล็กที่มีแผนที่คลังสมบัติซ่อนอยู่ ถึงตกไปอยู่ในมือของตระกูลซีเหมิน? เท่าที่พวกเรารู้ กระบี่เล่มนี้หลงหยินเป็นคนมอบให้กับเย่หวูเฉินชัดๆ ยิ่งกว่านั้น ในเมื่อตระกูลซีเหมินรู้ว่ากระบี่เล่มนี้ซ่อนแผนที่คลังสมบัติเอาไว้ เหตุใดพวกมันไม่เก็บงำเป็นความลับไว้ชื่นชมเอง แต่กลับเอาออกมาประมูล”

เหยียนเทียนอ้าวพยักหน้า จุดนี้มันเองก็สงสัยเช่นกัน

“ไม่ใช่เรื่องแปลก” ชายชุดดำที่ยืนอยู่ตรงหน้ากล่าวเสียงเย็น น้ำเสียงฟังดูชราเล็กน้อย หน้าผากมีรอยเหี่ยวย่น คนผู้นี้สมควรเป็นชายชรา “ประการแรก ตระกูลซีเหมินแม้ว่าจะแข็งแกร่ง แต่พวกมันทราบดีว่า ขุมทรัพย์ที่ฝังไว้นี้เป็นเรื่องหนักหนาเพียงใด หากคิดขุดค้นคลังสมบัติขนาดใหญ่ วันหนึ่งย่อมถูกพบ เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลซีเหมินต้องประสบสิ่งใดย่อมเป็นที่จินตนาการได้ เฮอะ นั่นย่อมกระตุ้นความโลภของคนมากมาย กระทั่งราชตระกูลเทียนหลงยังต้องเคลื่อนไหว และบางที เกรงว่าฝ่ายแรกที่ลงมืออาจเป็นสำนักจักรพรรดิเหนือของพวกเจ้า ประการที่สอง ไม่มีผู้ใดรับรองได้ว่าจะพบแผนที่หลังจากทำลายกระบี่ และต่อให้มีแผนที่ ขุมสมบัติของจักรพรรดิบรรพชนย่อมตั้งอยู่ในสถานที่ไม่ธรรมดา ยากยิ่งที่จะหาพบ ไม่อย่างนั้น หลายปีที่ผ่านมานี้คงมีการบังเอิญค้นพบไปแล้ว สถานที่ปานนั้นย่อมต้องอันตรายและเข้าถึงยาก บางทียังไม่ทันได้สมบัติก็อาจตกตายไปเสียก่อน เพียงอาศัยสองข้อนี้ ก็เพียงพอทำให้ตระกูลซีเหมินตัดสินใจอย่างที่เห็น นอกจากได้ปัดเป่าหายนะให้พ้นตัว ยังได้ขยายชื่อเสียงของตระกูลซีเหมิน”

“ข้าเข้าใจที่ท่านกล่าวแล้ว” เหยียนต้วนหุนลุกขึ้นช้าๆ ค่อยๆก้าวเท้าอย่างไร้จุดหมาย ทันใดนั้นมันกล่าว “ที่ข้าสงสัยอีกอย่างก็คือ การขโมยแผนที่คลังสมบัตินี้ค่อนข้างจะราบรื่นเกินไป”

ชายชุดดำเมื่อได้ยินคำก็แค่นเสียง “หรือเจ้าสงสัยความสามารถของข้า?”

“ทักษะโจรกรรมของเทพมายาถือเป็นหนึ่งในโลก เกรงว่ากระทั่งเทพยังไม่อาจเปรียบเทียบ เป็นที่รู้กันว่า ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่ท่านไม่อาจขโมย ขโมยของจากตระกูลซีเหมินอันเล็กจ้อย ล้วนไม่ต่างจากหยิบของออกจากกระเป๋า ที่ข้าหมายถึงก็คือ ตระกูลซีเหมินป่าวประกาศล่วงหน้าเป็นเวลานาน ราวกับอยากเชื้อเชิญกลุ่มโจรให้มาปล้น บางทีคนทั่วไปอาจไร้ความสามารถที่จะกระทำ แต่เหตุใดสำนักมารและสำนักจักรพรรดิใต้ถึงไม่เคลื่อนไหว ด้วยความทะเยอทะยานของพวกมัน เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่สนใจในความมั่งคั่งมหาศาลนี้”

หากนับจำนวนยอดฝีมือ สำนักจักรพรรดิเหนือมีจำนวนที่น่าตระหนก แต่หากต้องการเหยียบเท้าสู่โลก สิ่งสำคัญสูงสุดไม่ใช่ยอดฝีมือ แต่เป็นทหารกล้าและม้าที่สามารถบุกเมืองและพิชิตโลก อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดทางการเงิน สำนักจักรพรรดิใต้และสำนักจักรพรรดิเหนือจึงไม่อาจสร้างกองทัพของตัวเอง นี่คือเหตุผลหลักที่พวกมันเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าและเงียบงันในหลายปีนี้

ดังนั้น ทรัพยากรการเงินจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นสูงสุดสำหรับพวกมัน และด้วยเหตุนี้ ทำให้ขุมทรัพย์จักรพรรดิบรรพชนแห่งเทียนหลงถูกศัตรูมากมายหมายปอง เหยียนต้วนหุนจึงเดินทางไกลมาสู่อาณาจักรเทียนหลงเพื่อจัดการปัญหาด้วยตัวเอง

ชายชุดดำแค่นเสียงเย็น “สำนักจักรพรรดิใต้เพิ่งบาดเจ็บสาหัส ร้อยปียังยากจะฟื้นฟูกลับ ก่อนหน้านั้นไหนเลยมันจะโผล่หน้าออกมาง่ายๆ ส่วนสำนักมาร แม้พวกมันเผยความทะยานออกมาเต็มที่ กระทำการอย่างเหี้ยมโหด แต่ทว่าไม่เคยเลวทราม เรื่องลอบขโมยเยี่ยงสุนัขพรรค์นี้ พวกมันย่อมไม่หน้าหนาทำได้เหมือนสำนักจักรพรรดิเหนือของพวกเจ้า”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เหยียนต้วนหุนแทนที่จะโกรธกลับยิ้มบาง “เป็นอย่างนั้นหรือไม่ พรุ่งนี้ก็คงรู้ ผู้อาวุโสหวู่ ครั้งนี้รบกวนท่านแล้ว”

นี่เป็นการเชิญแขกกลับของเหยียนต้วนหุน ชายชุดดำหันร่างและกล่าวเสียงเย็น “นี่คืองานที่สองที่ข้าทำให้เจ้า ตอนนี้ยังเหลืออีกครั้งหนึ่ง หลังจากครบแล้ว จงอย่าได้ลืมคำที่เจ้าเคยพูดไว้”

“ผู้อาวุโสหวู่โปรดวางใจ มีสหายเพิ่มอีกหนึ่ง ย่อมดีกว่ามีศัตรูเพิ่มอีกหนึ่ง พวกเราย่อมไม่อยากเป็นศัตรูกับตัวตนน่าหวั่นกลัวอย่างผู้อาวุโสหวู่” เหยียนต้วนหุนกล่าวพลางหัวเราะ เพียงเสียงจบลง เงาร่างของชายชุดดำตรงหน้าก็หายวับไปอย่างรวดเร็ว

สีหน้าของเหยียนต้วนหุนกลายเป็นจริงจัง มันนั่งลงและเริ่มตรวจสอบแผนที่คลังสมบัติอย่างระวังอีกครั้ง

จากตัวอักษรและสัญลักษณ์ที่เขียนไว้ ตอนนี้เหยียนต้วนหุนและเหยียนเทียนอ้าวรู้แล้วว่าขุมทรัพย์นี้ตั้งอยู่ระหว่างขอบชายแดนอาณาจักรเทียนหลงและอาณาจักรคุยชุย ที่แห่งนั้นเป็นป่ามานานไม่ทราบว่ากี่ปี แต่ละต้นมีขนาดใหญ่อายุนับร้อยๆปี ด้วยความที่ป่าแห่งนี้ดำรงมายาวนาน สิ่งที่จะขาดไม่ได้ย่อมเป็น อสรพิษ , แมลง , และสัตว์อสูรดุร้ายจำนวนมาก

แสงสีแดงทอขึ้นในมือจางๆ แผ่นหนังกลายเป็นเถ้าธุลีในมือของเหยียนต้วนหุน เหยียนเทียนอ้าวถอนสายตาออก สีหน้าไร้ความแปลกใจ อย่างไรเสียทุกสัญลักษณ์ ทุกอักษร พวกมันล้วนจดจำขึ้นใจไว้แล้ว

“พรุ่งนี้ ผลลัพธ์ทุกอย่างจะต้องปรากฎ”

เมฆดำกระจายไปทั่วทุกแห่งหน มีช่องว่างระหว่างเมฆเพียงเล็กน้อย แสงจันทร์ส่องลอดลงมาจางๆ แต่งแต้มแสงอ่อนโยนบนผืนโลก ดวงจันทร์ลอยอยู่ท่ามกลางฟ้า อีกเพียงไม่นานก็จะถึงพรุ่งนี้แล้ว



<<<PREV    .    NEXT>>>