วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 397

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 397 โลกน้ำแข็ง

เย่หวูเฉินเคลื่อนสายตาไปที่เบื้องหน้าของเสวี่ยเฟยเยี่ยน ตกลงบนสร้อยน้ำแข็งสีฟ้าที่สวมลำคอนาง ปลายสร้อยอยู่ตรงร่องเนินสาว เป็นจี้หยกรูปเกล็ดหิมะจมอยู่ระหว่างกลางอก เผยออกมาเพียงขอบกระจ่างชัด เย่หวูเฉินหัวใจเกิดคลื่นระลอกทันที รีบถอนสายตาออกด้านข้าง

เสวี่ยเฟยเยี่ยนขยับร่างเบียดเข้ามา ริมฝีปากเป่ากลิ่นหอมที่ข้างหู ส่งเสียงแผ่วเบาดุจคนละเมอ “น้องชายแสนร้าย สิ่งนั้นสวมอยู่บนลำคอของพี่หญิง หากเจ้าต้องการ ก็หยิบออกไปเอง”

เย่หวูเฉินลมหายใจปั่นป่วน แต่พริบตาก็กลับสู่ปกติ ดวงตาดูไม่แน่ใจ ทว่ามือกลับคว้าออกฉับพลัน เล็งตรงกลางอกของเสวี่ยเฟยเยี่ยนอย่างแม่นยำ ฝ่ามือครึ่งหนึ่งจมลงไปในสองก้อนนิ่ม จากนั้นติดอยู่ด้วยความชิดแน่นของพวกมัน ความอบอุ่นแผ่ซ่านถึงกระดูก อุ่นล้อมฝ่ามือของเย่หวูเฉิน ในขณะเดียวกัน ยังรู้สึกถึงความเย็นของชิ้นหยก

“ท่านกำลังเล่นกับไฟ” เย่หวูเฉินเผยรอยยิ้มชั่วร้าย มือหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น ทำใจยากที่จะถอนออก จากนั้น แทนที่จะหยิบหยกเทพหิมะ เขากลับเคลื่อนมือไปทางขวาและดึงผ้าออกฉับพลัน คว้าก้อนเนื้อนุ่มขนาดใหญ่ล้นฝ่ามือ บีบเค้นไม่เบาหรือแรงเกินไป

เสียงอุทานนุ่มนวลแผ่วจากปากของเสวี่ยเฟยเยี่ยน ถูกเย่หวูเฉินฝ่าฝืนโดยฉับพลัน นางไม่เพียงไม่ต่อต้าน กลับกันนางยกทรวงอกขึ้นเล็กๆ ทำให้เขาจับได้ถนัดมือขึ้น “น้องชายตัวร้าย.... เจ้ารังแกพี่หญิงอีกแล้ว....”

“แคว่ก” เสียงเสื้อผ้าส่วนบนของเสวี่ยเฟยเยี่ยนฉีกออก สองก้อนขาวกระจ่างขนาดใหญ่เด้งออกมา สั่นกระเพื่อมเป็นคลื่น ส่วนบนเปลือยเปล่าด้วยอารมณ์พุ่งพล่านของเย่หวูเฉิน เผยก้อนหิมะนุ่มออกมาจนหมดสิ้น

“ท่านพ่อ!”

ความรักกำลังจะดำเนิน ทว่ากลับถูกเสียงนุ่มนวลทำลายบรรยากาศลงสิ้น เย่หวูเฉินและเสวี่ยเฟยเยี่ยนที่เพิ่งประชิดพัวพัน ต่างผวาร่างออกจากกันและยืนทื่อ มองไปยังเสี่ยวโม่จอมทำลาย

“ท่านพ่อ ท่านอยากไปเล่นที่ทางเหนือเหรอ?” เสวี่ยโม่เบี่ยงสายตาออก ไม่กล้าสบตากับเย่หวูเฉินตรงๆ

“อืม เสี่ยวโม่อยากไปไหม?” เย่หวูเฉินตอบกลับด้วยน้ำเสียงแปลกแปร่ง อีกคนที่อยู่ใกล้ๆ เสวี่ยเฟยเยี่ยนอับอายยิ่งกว่า เสื้อผ้าส่วนบนของนางถูกฉีกทึ้งจนหมดสิ้น ไร้สิ่งใดบดบังอีก แขนปิดขนานสองอกใหญ่ ทว่าหยกชมพูสองเม็ดยังคงโผล่ออกมาอย่างเงียบงัน พวกมันสั่นไหวในสายลมเย็น

“อื้ม! แน่นอน ท่านพ่อไปที่ไหน เสี่ยวโม่ย่อมไปด้วย” เสวี่ยโม่ดวงตาเป็นประกาย กล่าวตอบอย่างจริงจัง นางวิ่งมาอยู่ข้างๆเย่หวูเฉิน คว้าแขนของเขาไว้ จากนั้นยื่นมือขวาออก โคจรพลังไร้สี หยกเทพหิมะลอยออกจากลำคอของเสวี่ยเฟยเยี่ยนทันที บินมาตกสู่มือของเสี่ยวโม่

“ท่านพ่อ นี่ที่ท่านอยากได้” เสี่ยวโม่ชูหยกเทพหิมะขึ้นตรงหน้าเย่หวูเฉิน นางแอบดูและฟังพวกเขามาตั้งแต่ต้น พอพวกเขาเริ่มกระทำการไร้ยางอาย นางก็ไม่อาจทนได้อีก รีบวิ่งมาทำลายบรรยากาศ นางไม่อยากเห็นพ่อตัวเองกับหญิงอื่นกระทำการไร้ยางอายใกล้ๆนาง

“เอ๋? ดูเหมือนมีคนตัวเล็กๆอยู่ในนี้ด้วย” เสี่ยวโม่ชูหยกเทพหิมะขึ้น มองดูตรงกลางของเกล็ดน้ำแข็ง มันเป็นรูปคนผู้หนึ่งที่ยากจะสังเกต ด้วยความสงสัย นางจึงยื่นนิ้วแตะอย่างไม่รู้ตัว

“อย่าแตะตรงนั้น!” เสวี่ยเฟยเยี่ยนอุทานอย่างตื่นตระหนกไปทางเสี่ยวโม่ นางกำลังผวาเข้าไปห้าม ทว่าเสี่ยวโม่แตะนิ้วถูกใจกลางของมันไปแล้ว ทันใดนั้น แสงฟ้ากลุ่มหนึ่งได้แผ่ออกมาห่อหุ้มร่างของเสี่ยวโม่ ลามไปยังมือข้างที่จับเย่หวูเฉินไว้....

ซู่วว.... สายลมเย็นเชียบโบกผ่าน แสงฟ้าสว่างวาบ เย่หวูเฉินและเสี่ยวโม่ รวมถึงหยกเทพหิมะได้หายไปไร้ร่องรอย

“แย่แล้ว!” เสวี่ยเฟยเยี่ยนขมวดคิ้วแน่น นางทราบว่าเย่หวูเฉินมีพลังลึกลับ ทำให้ไม่เกรงกลัวต่อธาตุน้ำและธาตุไฟ ทั้งเขายังสามารถเคลื่อนย้ายตัดมิติได้ในทันที ดังนั้น นางจึงเตรียมมอบหยกเทพหิมะให้กับเขา เพื่อว่าเขาจะสามารถค้นพบบางสิ่ง

แต่เสี่ยวโม่.... ไม่ทราบว่านางจะทานทนได้หรือไม่ แต่สถานที่ผิดปกติแห่งนั้นอันตรายแน่นอน.... อย่างไรเสีย นอกจากท่านย่าผู้ก่อตั้งแล้ว ทุกคนที่ใช้หยกเทพหิมะล้วนไม่เคยมีชีวิตกลับมาพร้อมกับมัน

.....................

.....................

ในพื้นที่ที่ไม่รู้จักแห่งหนึ่ง เย่หวูเฉินและเสี่ยวโม่ถูกแสงฟ้านำมาถึง ร่างกายติดชะงักในฉับพลัน ทุกส่วนในร่างไม่อาจขยับเคลื่อน


“อ๊า!!”

เสี่ยวโม่ส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด แสงทมิฬกลุ่มหนึ่งพุ่งออกปกคลุมร่างนางในฉับพลัน นางใช้มันปกป้องร่างกายตัวเองไว้

น้ำแข็ง ทุกแห่งเป็นน้ำแข็ง ทั้งบนล่างทุกอณูรอบร่าง เป็นน้ำแข็งที่แข็งสุดขีด ร่างกายแขนขาและสายตา ถูกผนึกไว้ในน้ำแข็งหมดสิ้น มีแสงฟ้าจากหยกเทพหิมะ คอยส่องสว่างทั่วทิศในโลกน้ำแข็ง

พลังของเสี่ยวโม่ทำให้น้ำแข็งรอบร่างเริ่มร้าวออก ทว่าด้วยพลังของนาง หากเป็นน้ำแข็งธรรมดา ต่อให้หนากว่านี้สิบๆเมตร มันย่อมสลายในทันที ทว่าน้ำแข็งของที่นี่ มันเพียงเริ่มร้าวเท่านั้น

“หนาวเกินไป.... หนาว.... ท่านพ่อ.... ข้าหนาวจังเลย....”

ริมฝีปากของเสี่ยวโม่ เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินและสีม่วงอย่างรวดเร็ว จากนั้นเปลี่ยนเป็นซีดเซียวไร้สีเลือด พลังทมิฬถูกโคจรคุ้มร่างอย่างบ้าคลั่ง ทว่าความเย็นร้ายกาจยังคงชำแรกไปถึงร่างนาง.... ความเย็นของที่แห่งนี้น่ากลัวเกินไป นี่คือสตรีปีศาจผู้มีพลังเหนือขอบเขตเทวะ ทว่าต่อหน้าอุณภูมิน่าหวาดหวั่น แม้ปลดปล่อยพลังเต็มที่เพื่อต่อต้านมัน ทว่ากลับยังไม่อาจต้านทานได้

เย่หวูเฉินไม่หวั่นเกรงต่ออุณภูมิใดๆ เขาจึงไร้ความรู้สึกเหน็บหนาว ทว่าร่างกายถูกผนึกไว้แน่นหนาจนไม่อาจขยับตัว กระทั่งริมฝีปากยังไม่อาจขยับอ้าเพื่อเปล่งเสียง ในโลกน้ำแข็งอันโปร่งใส เขามองเห็นพลังทมิฬและสีหน้าเจ็บปวดของเสี่ยวโม่อย่างชัดเจน หัวใจคนตื่นตระหนก ทว่าอุณหภูมิในที่แห่งนี้.... มันต่ำอย่างยิ่งยวด ภายในไม่กี่ลมหายใจ เสี่ยวโม่ย่อมไม่อาจทานทนต่อได้ หากเป็นคนทั่วไปมายังที่แห่งนี้ เพียงพริบตามันย่อมกลายเป็นรูปสลักน้ำแข็ง

“เซียงเซียง.... รีบพาพวกเราออกไปจากที่นี่เร็วเข้า” เย่หวูเฉินเอ่ยขึ้นในใจ หากเสี่ยวโม่ไม่ได้มาด้วย เขาย่อมทำทุกวิธีเพื่อสำรวจที่นี่ ทว่าตอนนี้ เขาจะไม่ยอมให้เสี่ยวโม่สิ้นชีวิตในสภาพแวดล้อมโหดร้ายสุดขั้ว

ลึกลงไปในห้วงทะเลสำนึก เป็นเวลานานกว่าเซียงเซียงจะส่งเสียงตอบ....

อุณหภูมิของที่นี่เกือบจะเป็นศูนย์องศาสัมบูรณ์ หากเซียงเซียงออกมาจากร่างของเย่หวูเฉิน นางจะถูกแช่แข็งในพริบตา ไม่เพียงไม่ทันโคจรพลัง แต่ยังจะสูญสิ้นชีวิตทันที

“ท่านพ่อ ข้าหนาวจังเลย.... ท่านพ่อ....”

เสียงของเสี่ยวโม่ที่พยายามเปล่งออกเริ่มอ่อนแอ พลังทมิฬโคจรออกมาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้น้ำแข็งรอบร่างนางแตกออกอย่างรวดเร็ว เย่หวูเฉินเห็นได้ชัดว่า แสงทมิฬที่คุ้มกันร่างนางอ่อนแอลง ที่ผิวกายของเสี่ยวโม่เริ่มมีชั้นน้ำแข็งบางเกาะอยู่ จากนั้นเมื่อถูกพลังทมิฬขับไล่อีกครั้ง มันก็กลับมาใหม่ในพริบตา

ศูนย์องศาสัมบูรณ์ คืออุณหภูมิต่ำสุดที่เป็นไปได้ สามารถแช่แข็งทุกสิ่งในโลก ให้เป็นน้ำแข็งในพริบตา เพียงไม่นานความอึดอัดก็เริ่มเพิ่มขึ้น  เย่หวูเฉินกัดฟันแน่น ที่แห่งนี้แช่แข็งได้กระทั่งอากาศ เมื่อไร้อากาศ เขาและเสี่ยวโม่จึงไม่อาจหายใจ ทว่าด้วยทักษะพิเศษของเย่หวูเฉินและพลังของเสี่ยวโม่ ทำให้แม้ไม่อาจหายใจช่วงหนึ่งก็ไม่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม เมื่ออยู่ใต้ความกดดันต่อเนื่อง ทั้งสองย่อมเหมือนคนธรรมดาที่เริ่มอึดอัดจากการไม่ได้หายใจ ทำให้พลังและสติเหือดหายอย่างรวดเร็ว

เสี่ยวโม่....

แสงเรืองรองสว่างวาบจากเย่หวูเฉิน เป็นพลังอัคคีขั้นสูงสุดที่เขาสามารถปลดปล่อยได้ ทว่าแสงสีแดงเรืองรองได้เพียงวินาทีเดียว มันก็ดับมอดลงทันที ภายใต้อุณหภูมินี้ กระทั่งพลังอัคคีของเย่หวูเฉิน ยังถูกลบล้างอย่างง่ายดาย น้ำแข็งที่ล้อมรอบร่างไม่เสียหายแม้เพียงเล็กน้อย

น้ำแข็ง.... พลังวารีของข้า เหตุใดจึงไร้ผลกับน้ำแข็งที่นี่

แสงสีฟ้าเรืองรองรอบร่างของเย่หวูเฉิน ค่อยๆแผ่สว่างไปยังน้ำแข็งรอบๆ นี่คือพลังวารีของเย่หวูเฉิน ทว่าเทียบกับพลังอัคคีที่เพิ่งใช้แล้ว มันอ่อนด้อยกว่าอย่างมาก ดังนั้น พลังวารีระดับนี้ ไหนเลยจะมีผลต่อน้ำแข็งที่เกือบแตะระดับศูนย์องศาสัมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม น้ำแข็งรอบร่างกำลังเคลื่อน ภายใต้พลังที่ปล่อยออกมา มันกำลังถูกผลักดันออกช้าๆ แม้จะเชื่องช้าอย่างยิ่งแต่ก็มีความเปลี่ยนแปลง ผนึกน้ำแข็งที่กั้นร่างกายจนไม่อาจขยับ ยามนี้กำลังค่อยๆเกิดช่องว่าง

พลังวารีของเขาอ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง ต้องใช้พลังจำนวนมากถึงจะสามารถใช้ออก แม้ว่าพลังวารีจะยังไม่ตื่นขึ้นเต็มที่ แต่มันก็พัฒนาขึ้นช้าๆตามการเติบโตของพลังหวูเฉิน เย่หวูเฉินแทบไม่เคยใช้มัน วันนี้ เขาต้องต่อต้านน้ำแข็งน่าหวั่นกลัว พลังวารีจึงถูกใช้ออกเต็มเหนี่ยว แม้ว่าจะเกิดช่องว่างขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่กระทั่งนักเวทย์วารีระดับเทวะยังยากจะทำได้

เมื่อได้รับอิสระกลับมาบ้าง เย่หวูเฉินก็หยุดโคจรพลัง จากนั้นร้องคำราม “หนานเอ๋อร์!”

กระบี่ตัดดาราเปล่งสีทองในมือเขา เขาไม่กล้าลังเลใดๆอีก กู่ร้องคำหนึ่งและเหวี่ยงกระบี่ตัดชั้นน้ำแข็งที่กั้นระหว่างเขากับเสี่ยวโม่

“แยกฟ้าผ่าปฐพี! ฮ่าห์!”

ตูม! เปรี๊ยะ!

กระบี่ตัดดาราผ่าชั้นน้ำแข็ง ทั่วบริเวณสว่างจ้าด้วยแสงทองที่เกิดจาก ‘แยกฟ้าผ่าปฐพี’ พื้นที่เบื้องหน้าของเย่หวูเฉินราวสองเมตรถูกทำลายลง น้ำแข็งตรงนั้นได้หายไป รอบรัศมีสิบเมตรยังเกิดรอยแตกร้าวของน้ำแข็ง

กระทั่งพลังของ ‘แยกฟ้าผ่าปฐพี’ ยังถูกจำกัดพื้นที่ทำลาย ความแข็งของน้ำแข็งที่นี่ย่อมเป็นที่จินตนาการได้



<<<PREV    .    NEXT>>>