วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 430

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 430 ภัยพิบัติ

เสียงกรีดร้องเริ่มดังขึ้น ผู้คนที่อยู่ในห้องโถงต่างลุกขึ้นตามกัน บรรยากาศกลายเป็นโกลาหลปั่นป่วนทันที ชายชุดดำที่อยู่หลังซีเหมินชิงดีดร่างขึ้นฟ้าฉับพลัน สีหน้าสงบยามเผชิญหน้าจักรพรรดิมาร เป้าหมายคือกล่องทองคำที่อยู่ในมือ

เสียงกระแสลมเหนี่ยวนำจักรพรรดิมารให้เหลือบหางตา ฝ่ามือข้างหนึ่งเคลื่อนขยับ.... เพียงได้ยินเสียงหนักทึบหนึ่งครา ชายวัยกลางคนก็ราวกับกระแทกใส่บางอย่างที่โปร่งใสกลางอากาศ ร่างละลิ่วลงพื้นทันที เมื่อถึงพื้นก็กลิ้งไปหลายตลบ แน่นิ่งไม่ไหวติง มีชั้นน้ำแข็งเกาะกุมดวงตาที่เบิกโพลงทันที ยิ่งมายิ่งหนาขึ้น จนกระทั่งทั้งร่างถูกแช่แข็ง

ซีเหมินชิงแตกตื่นสุดขั้วหัวใจ หากยังคงโก่งคอตะโกนลั่น “สหายทุกท่าน โปรดอยู่ในความสงบ ทุกๆท่านโปรดอยู่ในความสงบ!!”

เสียงคำรามของซีเหมินชิงสะเทือนแก้วหูของผู้คน ครอบงำเสียงอื่นไว้หมดสิ้น ผลลัพธ์ค่อยๆตามมา ห้องโถงที่เพิ่งโกลาหลเงียบสงบลงทันที ซีเหมินชิงยังคงจับจ้องดวงตาที่จักรพรรดิมาร มุมหางตามองชายชุดดำที่ถูกแช่แข็งทั้งเป็น ความตกตะลึงในหัวใจ ไหนเลยจะปิดบังได้

จักรพรรดิมารปรากฎกายต่อหน้าผู้คน กล่องทองคำถูกถือไว้อยู่ในมือ ผู้คนทำได้เพียงแตกตื่น ไม่มีใครกล้าลองเข้าไปแย่งชิง ตั้งแต่จักรพรรดิมารเอาชนะสามยอดฝีมือแห่งสำนักจักรพรรดิเหนือ ชื่อเสียงด้านพลังและความโหดเหี้ยมก็พุ่งทะยานขึ้นหลายเท่า เคล็ดสวรรค์ร่วงหล่นต่อเนื่องสี่ครั้ง.... อย่าว่าแต่สี่ครั้งเลย แค่ครั้งเดียวก็เพียงพอแช่แข็งทุกคนในนี้ให้กลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็งแล้ว

“จักรพรรดิมาร ได้ฟังเรื่องราวของท่านมามาก วันนี้ท่านมาเยือนยังตระกูลซีเหมินอันต่ำต้อยนับเป็นเกียรติต่อพวกเรา หากท่านไม่รังเกียจ ขอเชิญนั่งลงและสนทนากันเป็นอย่างไร?” ซีเหมินชิงแหงนศีรษะขึ้น แสดงสีหน้าจริงใจอย่างชัดแจ้ง ไร้ร่องรอยตะขิดตะขวงใจใดๆ

มุมปากของจักรพรรดิมารเหยียดยก กล่าวคำอย่างเคร่งขรึม “ไม่จำเป็น เราจักรพรรดิมาที่นี่ เพียงเพื่อมาเอาของที่ต้องการ”

“จักรพรรดิมารหมายถึงกระบี่เหล็กที่จักรพรรดิบรรพชนแห่งเทียนหลงทิ้งไว้เบื้องหลังใช่หรือไม่?” ซีเหมินชิงถาม

“เฮอะ!” จักรพรรดิมารแค่นเสียงเย็นเหยียดหยัน “ถามสิ่งที่รู้อยู่แก่ใจ.... ประเสริฐ ตระกูลซีเหมินของพวกเจ้าทำได้ยอดเยี่ยมนัก หากในนี้มีแผนที่สมบัติใดๆซ่อนอยู่ บางทีจักรพรรดิผู้นี้อาจจดจำชื่อของเจ้าไว้ และให้รางวัลในสักวัน”

ทุกน้ำเสียงและการกระทำของจักรพรรดิมาร ล้วนหยิ่งผยองไม่ต่างจากจักรพรรดิแห่งโลกหล้า มันไม่เหลือบแลผู้ใดแม้สักครา น้ำเสียงที่ใช้ยังแสดงความดูถูกเหยียดหยันต่อซีเหมินชิง ทว่าไม่มีผู้ในฉากที่กล้าสวนกลับ.... เพราะนี่คือจักรพรรดิมาร มันคู่ควรต่อการโอหัง ผู้ใดกล้าแสดงความเป็นปฏิปักษ์ต่อหน้ามัน จุดจบย่อมมีเพียงหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย

“อา.... ในเมื่อวันนี้เป็นการประมูล  เช่นนั้นจักรพรรดิผู้นี้จะไม่ทำลายกฎ จงบอกมา เจ้าต้องการราคาเริ่มต้นที่เท่าใด จักรพรรดิผู้นี้อยากเห็นนัก ว่าผู้ใดสามารถให้ราคาสูงกว่าจักรพรรดิผู้นี้!”

จักรพรรดิมารกวาดสายตามองผู้คนโดยรอบ ผู้คนที่ถูกสายตากวาดผ่านร่างสะดุ้งเยือก หัวใจบีบรัดรุนแรง จักรพรรดิมารพ่นคำคุกคามอย่างเห็นได้ชัด บ่งบอกความหมายอย่างชัดเจนว่า.... เราจักรพรรดิอยากดูว่าใครจะกล้าเปรียบราคากับจักรพรรดิผู้นี้!

หัวใจตื่นตระหนกและหวาดกลัว ยังคงไม่มีผู้ใดกล้าโจมตี บรรยากาศตอนนี้กระทั่งหายใจแรงยังไม่กล้า ด้วยเกรงว่าจะดึงดูดความสนใจของจอมปีศาจตนนี้

“เอ่อ....” ตราบใดที่ซีเหมินชิงมิใช่คนโง่เง่า มันย่อมรู้ว่าสมควรทำเช่นใด มันไม่กล้าคิดนานและกล่าวอย่างรีบร้อน “เล่าลือกันว่าในกระบี่เหล็กมีแผนที่คลังสมบัติซ่อนอยู่ ทว่าอย่างไรมันก็เป็นเพียงข่าวลือ บางทีอาจผิดพลาดหรือไม่ก็ได้ ดังนั้นราคาเริ่มต้นจึงไม่อาจตั้งสูงนัก ผู้น้อยต้องการ.... 120 ตำลึง”

กล่าวคำว่า “120 ตำลึง” จบ ซีเหมินชิงหลั่งเหงื่อกาฬทั่วร่าง ทว่ายังแอบลอบมองสีหน้าจักรพรรดิมารด้วยหางตา ด้วยเกรงว่าราคาที่มันเสนอนั้นจะสูงเกินไป และจักรพรรดิมารไม่ได้พกเงินมาพอ

ทุกความสนใจถูกกระชาก แผนที่แห่งคลังสมบัติ ขุมทรัพย์มหาศาลกลับมีราคาเริ่มต้นเพียง 120 ตำลึง.... ทว่าสถานการณ์ในยามนี้ ไม่มีผู้ใดกล้าหัวเราะ ไม่มีผู้ใดกล้ากล่าวคำใดๆ

“120 ตำลึง? ยอดเยี่ยม” จักรพรรดิมารค่อยๆพยักหน้า เห็นได้ชัดว่าพึงพอใจกับราคาของซีเหมินชิง “แต่จักรพรรดิผู้นี้มีติดตัว 112 ตำลึง”

ซีเหมินชิงลอบโล่งใจ ทว่าข้อเสนอของจักรพรรดิมารทำให้คนในห้องโถงประมูลสีหน้ากระอักกระอ่วนทันที หากแต่ไม่มีผู้ใดกล้าส่งเสียง

“112 ตำลึง เอ่อ.... ในเมื่อไม่มีสหายท่านใดให้ราคาที่สูงกว่านี้ เช่นนั้นกระบี่เหล็กเล่มนี้ให้ตกเป็นของจักรพรรดิมาร” ซีเหมินชิงลอบปาดเหงื่อเย็น ตะโกนคำหนักแน่นอย่างสงบ ทว่าถ้อยคำเหล่านี้ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง เจตนาของจักรพรรดิมารล้วนชัดแจ้ง ยิ่งกว่านั้นกล่องทองคำยังอยู่ในมือ ในโลกนี้ย่อมไม่มีผู้ใดแย่งชิงได้ ต่อให้เสนอราคาสูงกว่าแล้วอย่างไร? นอกจากว่าเบื่อที่จะมีชีวิตแล้ว

“นับหนึ่ง.... นับสอง.... นับสาม!” เสียงตะโกนแทบดังติดกันในคราเดียว ซีเหมินชิงรู้สึกราวกับหลุดพ้นจากบางสิ่ง “ประเสริฐ! วันนี้สมบัติชิ้นสุดท้ายถูกประมูลออกแล้ว โดยตกเป็นของผู้ทรงเกียรติ จักรพรรดิมารแห่งสำนักมาร!!”

เงียบกริบ.... การประมูลจบลงด้วยผลลัพธ์เช่นนี้ เจ้าของแผนที่คลังสมบัติกลายเป็นคนที่อยู่เหนือความคาดหมาย ทว่าถึงตอนนี้ไม่มีผู้ใดกล้าออกจากโถงประมูล ไม่มีผู้ใดขยับกายราวกับถูกสะกดการเคลื่อนไหวไว้ ชื่อเสียงและแรงกดดันของจักรพรรดิมารก่อให้เกิดบรรยากาศน่าสะพรึง ราวกับมีใบมีดพาดจ่อที่ลำคอ หากขยับร่างเล็กน้อยก็พร้อมถูกเชือดปลิดชีวิตทันที

จักรพรรดิมารลอยร่างลงจากอากาศช้าๆ จนหยุดอยู่ต่อหน้าซีเหมินชิง ซีเหมินชิงผู้สงบมั่นคงเผลอถอยหลังไปหนึ่งก้าว จักรพรรดิมารหรี่ตาลง ไม่ทราบใบหน้าใต้หน้ากากเงินกำลังมีอารมณ์ใด ถัดจากนั้น จักรพรรดิมารหยิบตั๋วเงินโกโรโกโสออกมาแล้วโยนให้ซีเหมินชิง ซีเหมินชิงยื่นมือคว้าอย่างร้อนรน.... ครบ 112 ตำลึงไม่ขาดไม่เกิน เงินจำนวน 112 ที่กำไว้ในมือนี้ มันไม่ทราบสมควรหัวเราะหรือร้องไห้

จักรพรรดิมารวางมือลงบนฝากล่องทองคำ พลางกล่าว “เยี่ยมมาก.... แต่ถึงอย่างไร จักรพรรดิผู้นี้ต้องยืนยันให้แน่ชัดก่อนว่า กระบี่เหล็กเล่มนี้ไม่ได้ถูกพวกเจ้าตระกูลซีเหมินเคลื่อนย้าย”

“ไม่ ไม่ ไม่อย่างแน่นอน ตอนที่ผู้น้อยได้กระบี่เล่มนี้มา ท่านพ่อย้ำนักย้ำหนาและห้ามผู้ใดแพร่งพรายข่าว เพื่อมิให้เป็นอันตรายต่อกระบี่เล่มนี้” ซีเหมินชิงโบกไม้โบกมือและกล่าวตอบอย่างรีบร้อน

“จักรพรรดิผู้นี้ไม่เคยเชื่อใคร เช่นนั้นก็ดี เราจักรพรรดิจะยืนยันตอนนี้ ในเมื่อมาเพื่อแผนที่คลังสมบัติ จักรพรรดิผู้นี้จะทำให้เจ้าได้เห็นหน้าตาของแผนที่คลังสมบัติที่ซ่อนไว้”

ถุงมือเงินขยับเคลื่อนหนึ่งครั้ง เกิดเสียงสะท้อนดังขึ้นเสียดหู โซ่ทองสิบเส้นขาดออกจากกันทันที จักรพรรดิมารทำให้ผู้คนเย็นเยือกอีกครั้ง นี่ไม่ใช่กล่องไม้ แต่เป็นกล่องที่สร้างจากทองคำบริสุทธิ์ มันกลับถูกจักรพรรดิมารใช้มือทำลายง่ายดาย ประหนึ่งตัดเต้าหู้

จักรพรรดิมารเปิดฝากล่องทองคำออก และปล่อยฝาตกลงพื้น....

มือของจักรพรรดิมารชะงักค้างอยู่อย่างนั้น ฉับพลันไร้การเคลื่อนไหวและไร้เสียง แม้ว่ามองไม่เห็นสีหน้า แต่สายตามันกลายเป็นเย็นชืด ยิ่งมายิ่งเย็นเยียบ เย็นจัดจนน่าสะพรึงกลัว บรรยากาศหนักหน่วงในทันใด เย็นเสียดถึงกระดูก จนผู้คนต้องอ้าปากหอบหายใจเอาอากาศ

ซีเหมินชิงที่อยู่ใกล้จักรพรรดิมารมากที่สุดรู้สึกชัดเจนดียิ่งกว่าใครถึงความเปลี่ยนแปลง มันเงยหน้ามองอย่างระวัง จากนั้นหัวใจหล่นวูบ สีหน้ากลับกลายอย่างใหญ่หลวง

ภายในกล่องทองคำ กลับกลายเป็นว่างเปล่า! กระเหล็กขึ้นสนิมหายไปในอากาศอย่างคาดไม่ถึง

จักรพรรดิมารหันศีรษะมาช้าๆ มองซีเหมินชิงที่หน้าซีดเป็นคนตาย กล่าวเสียงเหี้ยมทะมึน ประดุจหลุดออกมาจากขุมนรก “ประเสริฐ.... ประเสริฐจริง ประเสริฐนักซีเหมินชิง ประเสริฐนักตระกูลซีเหมิน!!”

“ช้าก่อน.... เรื่องนี้.... ไม่ถูกต้อง.... เห็นอยู่ชัดๆว่าเมื่อคืนมันยังอยู่ เหตุใดจึงหายไปได้.... ใช่แล้ว อาจเป็นท่านพ่อเอาไปชั่วคราว ข้าจะรีบไปสอบถามท่านพ่อเดี๋ยวนี้....”

เสียงสั่นเครือของซีเหมินชิงทำให้ผู้คนที่ยังไม่ทราบเหตุผลสีหน้าเปลี่ยนทันที ภายในกล่องกลับกลายเป็นว่างเปล่า ไม่แปลกเลยที่จู่ๆจักรพรรดิมารจะมีอารมณ์เปลี่ยนไปน่ากลัวเช่นนี้

ทำไมในกล่องถึงว่างเปล่า? หรือว่ามันถูกขโมย? หรือว่าตระกูลซีเหมินหลอกลวงจริงๆ? หากเป็นอย่างแรก ผู้ใดกันที่สามารถหลุดรอดหูตาของยามคุ้มกันตระกูลซีเหมิน ทั้งสถานที่ซ่อนย่อมเป็นความลับสุดยอด กระบี่ยังถูกโซ่ทองล็อคไว้หลายเส้น หากเป็นอย่างหลัง.... จะมีความเป็นไปได้จริงๆหรือ? ตระกูลซีเหมินไม่ได้โง่เง่า หากเป็นกล่องเปล่าใช้หลอกลวงผู้คนทั้งโลกจริงๆ ตระกูลซีเหมินย่อมถูกลากลงหลุมอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้น พวกมันย่อมไม่มีทางกระทำเช่นนี้

“ไม่.... จำเป็น....”

ซีเหมินชิงเพียงกำลังหันร่างอย่างตระหนก ก็มีเสียงแหบต่ำไร้ที่เปรียบ ทำให้มันเย็นเยือกสยดสยอง จากนั้น ลำคอก็รู้สึกเย็นเชียบ มือใหญ่คว้ากุมลำคอมัน บีบแน่นขึ้นเล็กน้อยจนดวงตาเบิกกว้าง ร่างถูกยกจนเท้าลอยขึ้นจากพื้น

“.... ท่าน.... ท่าน....”

ซีเหมินชิงอ้าปากกล่าว เปล่งเสียงประหลาดออกลำคออย่างยากเย็น การขาดอากาศกำลังจะพรากสติมันไปอย่างรวดเร็ว ในแววตาเต็มไปด้วยความรันทดและเจ็บปวด

ไม่มีผู้ใดในห้องโถงกล้าส่งเสียง ฝ่ามือดุจคีมเหล็กล็อคตรึงที่ลำคอของซีเหมินชิง ทว่าทุกคนกลับรู้สึกเหมือนตัวเองถูกบีบคอ หัวใจต่างสั่นไหวด้วยความกลัว

“บังอาจหลอกลวงจักรพรรดิผู้นี้.... เจ้า.... หา.... ที่ตาย!!”

“.........” ซีเหมินชิงขยับแขนสุดกำลัง พยายามแกะมือจักรพรรดิมารออก ทว่าพลังของมันหรือจะเทียบได้ ดุจแมลงปอหวังเขย่าต้นไม้ มันไม่อาจขยับมือจักรพรรดิมารได้แม้แต่นิ้วเดียว เสียงเริ่มไม่อาจเปล่งออก สายตาพร่ามัวขึ้นเรื่อยๆ พลังดิ้นรนยังอ่อนแอลง

“เฮอะ!”

แค่นเสียงเย็นแห่งโทสะ ทันใดนั้น ซีเหมินชิงที่ใกล้ตายถูกจักรพรรดิมารเหวี่ยงแขนโยนมันลงพื้น ซีเหมินชิงนอนนิ่งคู้ตัวงอ กุมลำคอไออย่างเจ็บปวด หอบหายใจหนักหน่วงเอาอากาศ

จักรพรรดิมารกวาดสายตาไปในห้องโถง สุ้มเสียงเย็นชาแผ่กระทบหูทุกผู้คน ลอยดังออกไปถึงข้างนอก แผ่ไปถึงหูทุกคนในตระกูลซีเหมิน “เราจักรพรรดิไม่เต็มใจฆ่าคนที่ไม่ต้องการฆ่า.... ให้พวกเจ้าคนนอกหนีออกไปภายในเวลาหนึ่งนาที หลังจากครบหนึ่งนาทีแล้ว ทุกคนที่อยู่ในตระกูลซีเหมิน ไม่ว่าผู้ใด.... จะต้องตกตายไร้ศพซาก!!”

จักรพรรดิมารทะยานร่างขึ้นฟ้า ทะลุหลังคาหายไปจากสายตาผู้คน ราวกับฝันทรมานถูกขับไล่ ผู้คนหอบหายใจเต็มห้องโถง จากนั้นหันร่างแล้ววิ่งออกไปโดยไม่ลังเล บนเวทีเหลือเพียงซีเหมินชิงที่ไออย่างเจ็บปวด ด้านหลังม่านทางด้านขวา ยังมีอีกร่างยวบทรุดนั่งอย่างหวาดกลัว เป็นพานจินเหลียนที่ไม่อาจส่งเสียงใด

ด้วยอิทธิพลของสำนักมาร และพลังแกร่งกล้าของจักรพรรดิมาร หวังทำลายล้างตระกูลเวทย์ย่อมเป็นเรื่องง่ายดายเหมือนปอกกล้วย ตระกูลหวงฟูและตระกูลไป่ลี่แห่งอาณาจักรต้าฟงเป็นตัวอย่างได้อย่างดี ตระกูลซีเหมินจัดงานประมูลเพื่อขายต้นตอหายนะออกจากตน ผู้ใดเล่าจะคาดคิด ว่ามันกลับนำภัยพิบัติมาสู่ตระกูลซีเหมิน

ในขณะเดียวกัน เช่นนั้นกระบี่เหล็กเล่า แท้จริงแล้วมันไปอยู่ที่ไหน เหตุใดจึงหายไปในอากาศว่าง!?



<<<PREV    .    NEXT>>>