วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 424

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 424 งานประมูล – ลูกปัดมังกรดำจันทร์สลัก

สี่ตระกูลเวทย์อันยิ่งใหญ่แห่งทวีปเทียนเฉิน ครั้งหนึ่งเคยทัดเทียมกัน แต่ทว่าในหนึ่งปีที่ผ่านมา ตระกูลซีเหมินเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ตอนนี้มีแนวโน้มว่าจะขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูลทั้งสี่ ที่ใจกลางของตระกูลซีเหมินมีห้องโถงขนาดใหญ่ ห้องโถงนี้ถูกสร้างขึ้นในหนึ่งปีที่ผ่านมา เมื่อแล้วเสร็จยังไม่เคยใช้งาน วันนี้ มันถูกเปิดใช้เป็นครั้งแรก

งานประมูลของตระกูลซีเหมิน ดึงดูดความสนใจของผู้คนทั่วทวีปเทียนเฉิน ทว่าส่วนใหญ่เพียงต้องการมาชมเรื่องสนุก ทุกคนอยากรู้ว่าขุมทรัพย์ลึกลับนี้เป็นเรื่องจริงหรือเท็จ หากเป็นเรื่องจริงผู้ใดจะได้ไปครอง และราชตระกูลเทียนหลงจะมีปฏิกิริยาอย่างไร หากเป็นเรื่องเท็จ ตระกูลซีเหมินจะจบเรื่องนี้อย่างไร?

9:00 น. งานประมูลแห่งตระกูลซีเหมินเริ่มขึ้นในห้องโถงแห่งนี้ ในห้องโถงใหญ่เต็มไปด้วยผู้คน ไม่มีผู้ใดไม่ร่ำรวยหรือมั่งคั่ง เนื่องจากหากไร้ฐานะหรือตำแหน่ง ตระกูลซีเหมินย่อมไม่ปล่อยให้เข้ามา บรรดาผู้คนเหล่านี้ ประกอบด้วยเหล่าองค์ชายแห่งอาณาจักร , บุคคลร่ำรวย , ผู้มีชื่อเสียง , ชนชั้นสูงและเหล่าขุนนาง ล้วนปรากฎรวมอยู่ในฉากอย่างน่าตกตะลึง.... งานประมูลกำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า ทันใดนั้น กลุ่มคณะหนึ่งที่เพิ่งมาถึงได้ดึงดูดสายตาส่วนใหญ่ของผู้คน

เหนือรถเข็นที่นำหน้า เป็นชายหนุ่มเผยรอยยิ้มอารมณ์ดี รอยยิ้มนี้เบาบางอย่างมาก แต่ราวกับมีพลังแปลกประหลาด บางคนยิ้มตามด้วยรู้สึกสบายใจ ประดุจมีสายลมเย็นอาบชะโลม บางคนรู้สึกอึดอัดคับข้องอยู่ในอก สองสตรีสูงต่ำที่ตามมา คนหนึ่งเป็นสาวน้อยผมขาว ใบหน้ามีรอยแผลเป็นตัดกันอย่างน่ากลัว ภายใต้สายตาของคนจำนวนมาก ราวกับว่าร่างของนางจะหดลงด้วยความประหม่า นางก้มศีรษะดันรถเข็นเข้ามา ข้างๆนางเป็นสตรีสวมใส่ในชุดสีฟ้า รูปโฉมงามล้ำอย่างโดดเด่น การปรากฎตัวของนาง ทำให้บุรุษจำนวนมากวิญญาณหลุดล่อง ไม่อาจถอนสายตาจากนางเป็นเวลาเนิ่นนาน

ธิดาของขุนพลเว่ยหลงแห่งอาณาจักรเทียนหลง เย่ฉุ่ยเหยาแห่งตระกูลเย่ เพียงสถานะของนาง , ความเย็นชา และข่าวลือต่างๆที่เกี่ยวกับนาง ก็ล้วนเพียงพอทำให้หัวใจของบุรุษเหล่านี้ไม่กล้าสร้างปัญหา

ทว่า มีสายตาคู่หนึ่งมองติดตามร่างของเย่ฉุ่ยเหยาไม่ละวาง สายตาคู่นี้หลากอารมณ์ซับซ้อน ทั้งขมขื่น , เสียใจ , รู้สึกผิด และดีใจ.... ยิ่งกว่านั้น หลายปีนี้ยังไม่เคยปล่อยวางความรู้สึกลุ่มหลงได้

สามปีที่ไม่ได้พบหน้า ราวของนางไม่เคยหายไปจากหัวใจมัน กลับกันยิ่งฝังรากลึกลงตามกาลเวลา มันฝืนบังคับตัวเองให้ลืมอยู่ซ้ำๆ ทว่ากลับเพียงพาตัวเองให้ร่วงลงสู่หลุมพราง จมจ่อมลงไปลึกกว่าเดิม เห็นนางอีกครั้งหลังจากผ่านไปสามปี เสน่ห์ที่เติบโตยิ่งขับส่งความงามอันเหนือล้ำคำบรรยาย ทำให้หัวใจมันเต้นรัวเร็วขึ้นอีกครั้ง....

มารหัวใจ นางกลายเป็นมารหัวใจมันที่ไม่อาจลบออก.... เมื่อเย่ฉุ่ยเหยาปรากฎในสายตามันอีกครั้ง ฟงหลิงทำได้เพียงหลับตาลง งานประมูลวันนี้มันจำเป็นต้องมา สงครามระหว่างอาณาจักรเทียนหลงและอาณาจักรต้าฟงได้เริ่มขึ้นแล้ว การปรากฎขึ้นของขุมทรัพย์มหาศาลทำให้ราชตระกูลต้าฟงไม่อาจวางใจ ขุมทรัพย์จักรพรรดิบรรพชนเทียนหลงที่ถูกฝังไว้นี้ ราชตระกูลเทียนหลงย่อมมีการเคลื่อนไหว หากขุมทรัพย์นี้ตกถึงมือราชตระกูลเทียนหลง ย่อมกลายเป็นความเสี่ยงใหญ่สำหรับพวกมัน ดังนั้นวันนี้มันจึงเสี่ยงอันตรายมายังอาณาจักรเทียนหลงด้วยตัวเอง และนำผู้ติดตามมาเพียงสองคนเท่านั้น

คิดไม่ถึงเลยว่า มันจะได้เห็นเย่หวูเฉินกับสาวน้อยผมขาวที่เคยกระโดดลงสู่หุบเหวปลิดวิญญาณในครั้งอดีต เห็นเย่ฉุ่ยเหยาที่เฝ้าใฝ่ฝัน ความทรงจำในอดีตก่อให้เกิดอารมณ์หวั่นไหว หัวใจดุจผิวทะเลราบเรียบเกิดคลื่นลม ทำให้มันสูญเสียการควบคุมถึงเพียงนี้ได้ ในโลกนี้มีเพียงเย่ฉุ่ยเหยาเท่านั้น

เย่หวูเฉินคล้ายมองไม่เห็นฟงหลิง เขาเข้าไปนั่งในโซนรับรอง ขนาบด้านขวาด้วยหนิงเสวี่ย ขนาบด้านซ้ายด้วยเย่ฉุ่ยเหยา แววตาราบเรียบมองตรงไปที่เบื้องหน้าเวที

ผู้ดำเนินงานประมูลในครั้งนี้ คือนายน้อยแห่งตระกูลซีเหมิน ซีเหมินชิง

วันนี้ซีเหมินชิงดูกระตือรือร้นเป็นพิเศษ มันมาถึงห้องโถงก่อนเวลา 9:00 น. แล้ว ในห้องโถงเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย หากแต่ละคนล้วนเป็นผู้มีชื่อเสียง ไม่มีผู้ใดส่งเสียงเอะอะอึกทึก บรรยากาศเงียบสงบเป็นอย่างมาก ซีเหมินชิงคำนับผู้คนด้วยอัธยาศัยอันดี จากนั้นกล่าวด้วยยิ้ม “สหายทุกท่านเดินทางมาจากที่ไกล นับเป็นเกียรติต่อตระกูลซีเหมินของผู้ต่ำต้อย งานในวันนี้ มีเพียงของสี่อย่างที่นำมาประมูล จะเป็นสิ่งใดบ้างสหายทุกท่านจะได้เห็นต่อจากนี้ ผู้น้อยรับประกันได้ว่าแต่ของละอย่างจะไม่ทำให้สหายทุกท่านผิดหวัง แต่ผู้น้อยต้องขอกล่าวไว้ก่อนว่า ที่นี่คือตระกูลซีเหมินของพวกเรา หากมีสิ่งใดทำให้สหายทุกท่านขัดเคืองหรือไม่พอใจ ได้โปรดช่วยรักษาหน้าของตระกูลซีเหมิน และทุกอย่างจะถูกแก้ในงานประมูลครั้งต่อไป”

เมื่อกล่าวคำเหล่านี้จบ ซีเหมินชิงก็เผยรอยยิ้ม ไร้การคุกคามใดๆ ไม่กล่าวถึงว่าจะเกิดอะไรหากถูกก่อกวน ทว่าผู้ใดจะกล้ายั่วยุตระกูลซีเหมิน แม้ว่าซีเหมินชิงไม่ได้พูดถึง แต่ทุกคนล้วนทราบดีตั้งแต่คำแรก ว่าหากมีใครสร้างปัญหาขึ้นมาจริงๆ ตระกูลซีเหมินย่อมไม่ไว้หน้าพวกมัน

“บิดาของผู้น้อยป่วยไข้ วันนี้จึงไม่สะดวก ฉะนั้นงานประมูลครั้งนี้จะถูกดำเนินโดยผู้น้อยซีเหมินชิง” ซีเหมินชิงเคลื่อนสายตาไปที่วัตถุสีทองในมือ ไม่ทราบว่านี่คือค้อนทองคำบริสุทธิ์ หรือค้อนทองคำชุบ ค้อนเล็กๆอันนี้คือค้อนที่ใช้ในการประมูล

มีเสียงคุยกันเพียงเล็กน้อย ซีเหมินชิงไม่รั้งรออีก เริ่มต้นงานประมูลทันที เขายกมือขวาส่งสัญญาณ สตรีในชุดงดงามถือถาดหยกก้าวออกมา เมื่อเห็นสตรีที่ก้าวออกมาหลังจากได้รับสัญญาณ กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเย่หวูเฉินก็กระตุกเล็กน้อย เนื่องจากสามปีก่อนนางคือว่าที่ภรรยาของซีเหมินชิง ชื่อของนางคือพานจินเหลียน วันนี้หน้าท้องของนางคล้ายจะป่องออกมาเล็กน้อย ว่าที่ภรรยาตอนนี้กลายเป็นภรรยา ยิ่งกว่านั้นยังมีลูกอย่างรวดเร็ว

ซีเหมินชิงและพานจินเหลียน.... ช่างจับคู่ได้อย่างลงตัว ไม่ทราบว่าลูกที่เกิดมาจะเป็นอย่างไร....

เย่หวูเฉินมองดูถาดหยกที่ถูกเปิดผ้าออก บนนั้นมีสร้อยลูกประคำสีจางๆวางอยู่ เท่าที่มองผ่านๆ มันไร้สิ่งใดเป็นพิเศษ

“ไม่ทราบว่าสหายทุกท่านเคยได้ยินเรื่องวิหารต้าหัวหรือไม่ หลายพันปีก่อน ดินแดนแห่งนี้ยังไม่ได้ชื่อว่าอาณาจักรเทียนหลง แต่เป็นอาณาจักรต้าหัว วิหารต้าหัวเป็นวัดสำคัญของอาณาจักรต้าหัว เล่ากันว่าในเวลานั้น วิหารต้าหัวมีสิ่งล้ำค่าสูงสุดอยู่สิ่งหนึ่ง มันเรียกว่า ‘ลูกปัดมังกรดำจันทร์สลัก’ เป็นวัตถุที่นักบวชผู้รู้แจ้งในสัจธรรมทิ้งไว้เมื่อพันปีก่อน หากพกพาติดตัว จะสามารถขับไล่จิตวิญญาณชั่วร้ายได้ ชีวิตจะอยู่อย่างปลอดภัย ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ‘ลูกปัดมังกรดำจันทร์สลัก’ ซ่อนสุดยอดวิชาของปรมาจารย์เอาไว้ ภายหลังต่อมา จักรพรรดิบรรพชนใช้เวลาสิบปีต่อสู้ลบล้างอาณาจักรต้าหัว หลังจากนั้นได้ค้นหาจนทั่ววิหารต้าหัว ทว่ากลับไม่อาจหา ‘ลูกปัดมังกรดำจันทร์สลัก’ นี้พบได้ สุดท้ายจึงทำได้เพียงล้มเลิก”

“นายน้อยซีเหมิน หรือว่าสร้อยลูกประคำนี้จะเป็น....” ภายในห้องโถงประมูล บางคนไม่อาจอดได้และถามออกไป

ซีเหมินชิงอาศัยโอกาสนี้พยักหน้า ยกสร้อยลูกประคำที่ดูแสนธรรมดานี้ขึ้นมาอย่างระมัดระวัง และกล่าว “ถูกต้อง นี่คือสร้อย ‘ลูกปัดมังกรดำจันทร์สลัก’”

แม้ว่าจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ในห้องโถงยังคงมีเสียงอุทานแตกตื่นของผู้คน ไม่มีผู้ใดสงสัยว่าสร้อยลูกประคำนี้เป็นของจริงหรือปลอม เนื่องจากตระกูลซีเหมิน ย่อมไม่กล้าหลอกลวงต่อหน้าผู้คนทรงพลังอำนาจเหล่านี้

ผู้คนส่วนใหญ่มาที่นี่เพื่อแผนที่คลังสมบัติ แทบไม่สนใจใน ‘วัตถุล้ำค่าสูงสุด’ สามอย่าง หากกลับคิดไม่ถึงเลยว่า ‘วัตถุล้ำค่าสูงสุด’ นี้มิได้ทำให้เสียชื่อวัตถุล้ำค่าใดๆเลย เพียงสิ่งแรกก็ทำให้ผู้คนตกตะลึง ตัวตนของ ‘ลูกปัดมังกรดำจันทร์สลัก’ นั้น ยังคงมีอยู่ในบันทึกจนถึงทุกวันนี้

“สร้อยลูกปัดมังกรดำจันทร์สลักเป็นของที่บรรพชนตระกูลซีเหมินได้รับมาโดยบังเอิญ สืบทอดต่อกันมานับพันปี เป็นสมบัติของตระกูลซีเหมินที่ไม่ยอมให้คนนอกล่วงรู้ และเนื่องจากความศักดิ์สิทธิ์ของลูกปัดมังกรดำจันทร์สลัก จึงทำให้ตระกูลซีเหมินของข้าเจริญรุ่งเรืองต่อเนื่องตลอดพันปี ในสร้อยลูกปัดนี้ มีข้อความประหลาดสลักไว้เหมือนคำร่ำลือจริงๆ เป็นสุดยอดวิชาของปรมาจารย์ หากผู้ใดสามารถเข้าใจข้อความเหล่านี้ได้ ย่อมได้รับสุดยอดวิชา ตระกูลซีเหมินของข้าทุ่มเทความพยายามมาหลายชั่วรุ่น ทว่ากลับไม่อาจบรรลุสิ่งใด บิดาของข้าตระหนักได้ว่าตระกูลซีเหมินไม่มีวาสนาต่อวิชาในลูกปัดมังกรจันทร์สลักเส้นนี้ ดังนั้นจึงตัดสินใจส่งทอดลูกปัดไม้จันทร์นี้ออกไป หากสหายผู้ใดมีวาสนาต่อลูกปัดมังกรดำจันทร์สลัก ย่อมสามารถเข้าใจยอดวิชาที่สลักอยู่ในนี้ได้”

ซีเหมินชิงใช้ถ้อยคำได้อย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยคที่ว่า “หากสหายผู้ใดมีวาสนาต่อลูกปัดมังกรดำจันทร์สลัก ย่อมสามารถเข้าใจยอดวิชาที่สลักอยู่ในนี้ได้” ประโยคนี้ล้วนชักนำไปในทางที่ผิด สำหรับเหล่าผู้ฝึกยุทธ ยอดวิชาคือสมบัติที่ไม่อาจประเมินค่าได้ ความร่ำรวยและอำนาจย่อมไม่อาจเปรียบเทียบกับมัน ผู้ชมหลายคนเริ่มกระเหี้ยนอยากได้ เช่นเดียวกับพวกพ่อค้านายทุนที่มิได้ฝึกยุทธ พวกมันสนใจในคุณสมบัติ “ขับไล่จิตวิญญาณชั่วร้าย”

“ผู้น้อยทำตามคำสั่งของท่านพ่อ ส่งทอดลูกปัดมังกรดำจันทร์สลักนี้ออกไป เพื่อหวังให้มันได้พบกับสหายผู้มีวาสนา ดังนั้น ราคาเริ่มต้นจึงอยู่ที่เพียง 100,000 ตอนนี้เริ่มการประมูลได้”

100,000 สำหรับคนธรรมดานับเป็นจำนวนที่มาก ทว่าสำหรับบุคคลผู้ร่ำรวยสูงสุดในโลกเหล่านี้ สั่งสมสมบัติมาไม่รู้กี่ปี เงินเล็กน้อยแค่ 100,000 พวกมันแทบไม่ต้องคิด

“นับว่าเป็นวิธีที่ดี” เย่หวูเฉินเผยรอยยิ้มบาง เขากล่าวเพียงแผ่วเบา 100,000 เป็นราคาเริ่มต้นที่ต่ำมาก ทว่าถ้อยคำที่ซีเหมินชิงกล่าวออกไปว่า ‘ได้พบกับสหายผู้มีวาสนา’ ผลลัพธ์ย่อมพอมองเห็นได้ หลายคนพร้อมกระโดดเข้าร่วมต่อสู้ราคา ทำให้แม้ราคาเริ่มต้นจะต่ำเตี้ยมาก แต่ราคาสุดท้ายย่อมเพิ่มขึ้นนับสิบๆเท่าหรือกระทั่งถึงร้อยเท่า

“500,000”

คนมีชื่อเสียงผู้หนึ่งตะโกนออกมา เสนอราคาเพิ่มเป็นห้าเท่าในคราเดียว เห็นได้ชัดว่า มันรู้ว่าราคาสุดท้ายจะต้องเกิน 100,000 ไปไกล มันจึงไม่อยากเสียเวลาในการเพิ่มราคา และราคาที่มันเสนอนั้น ทำให้คนกว่าครึ่งยอมแพ้ทันที ไม่ใช่ว่าราคา 500,000 นี้มากเกินไป แต่เป็นเพราะคนผู้นี้....

“เฉียนก่วนก่วน มาจากตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในอาณาจักรเทียนหลง อีกทั้งยังเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในทวีปเทียนเฉิน ชื่อจริงของมันน้อยคนนักที่จะรู้” เย่หวูเฉินกระซิบบอกเย่ฉุ่ยเหยา เฉียนก่วนก่วน มันเป็นคนที่เห็นเงินราวกับเป็นเศษขยะ แม้ลักษณะของมันดูไม่ค่อยเหมือนคนมีเงินสักเท่าไหร่ แต่มันร่ำรวยอย่างมาก เป็นคนเดียวในทวีปเทียนเฉินที่ใช้ตั๋วเงินเป็นปึกๆโดยขนหน้าแข้งไม่ร่วง ธุรกิจและเส้นสายของมันครอบคลุมทั้งทวีปเทียนเฉิน หากเดินไปบนถนนการค้า จะพบเห็นธุรกิจของมันแทบทุกๆสิบเมตร อิทธิพลและการเงินของมันยิ่งใหญ่เพียงใด ย่อมเป็นที่จินตนาการได้

วันนี้ มันมางานประมูลเช่นกัน เมื่อมันเผยตัวว่าสนใจในลูกปัดมังกรดำจันทร์สลัก จึงเหลือคนไม่มากนักที่คิดแข่งราคา แม้พวกมันรู้ว่าแข่งไปก็พ่ายแพ้ อย่าว่าแต่ 100,000 เลย ต่อให้เป็น 1,000,000 หรือ 2,000,000 มันก็จ่ายได้ง่ายๆแค่ล้วงลงไปในกระเป๋า

มันมีลูกชายสองคน คนหนึ่งเรียกว่า เฉียนปู้เฉ่า ส่วนอีกคนเรียกว่า เฉียนตัวตัว ทั้งหมดอยู่ในงานประมูลครั้งนี้

“550,000!”

“600,000”

“800,000! ข้าจะเอาสร้อยลูกปัดไม้จันทร์เส้นนี้”

“1,200,000” เป็นเฉียนก่วนก่วนอีกครั้ง คราวนี้มันตะโกนเสนอราคา 1.2 ล้าน จากนั้นสูดเอาอากาศอย่างสงบ ดูจากท่าทางของมันแล้ว เห็นได้ชัดว่ามันสนใจในสร้อยลูกปัดมังกรดำจันทร์สลักเส้นนี้ไม่น้อย และมันจะต้องชนะให้ได้



<<<PREV    .    NEXT>>>