วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 399

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 399 พ่อข้าตลอดไป

ข้าดำรงอยู่มานานแสนนาน สิบปี ร้อยปี พันปี หมื่นปี.... แสนปี ข้าเกิดจากสิ่งใด ปรากฎขึ้นเมื่อไหร่ มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร.... ข้าไม่รู้ และไม่มีวันที่จะรู้

หลังจากผ่านพ้นเวลาอันยาวนาน จู่ๆข้าก็เกิดมีสติขึ้น สติเลือนรางเมื่อผ่านกาลเวลาก็เริ่มเติบโตขึ้น ค่อยๆพัฒนาเป็นอารมณ์ แต่ตัวข้าทำได้เพียงอยู่ที่นี่ตลอดไป.... สิบปี ร้อยปี พันปี หมื่นปี.... แสนปี.... ตลอดไป....

สำหรับข้าแล้ว การมีอารมณ์นับเป็นหายนะใหญ่หลวง เพราะข้าต้องทนอยู่ในความเหน็บหนาวเดียวดายตลอดกาล ข้าปรารถนาจะมีคนเคียงข้าง ปรารถนาเห็นสิ่งมีชีวิตอื่น.... ข้าโหยหาใครสักคนที่จะพาข้าออกไป ชื่มชมยังโลกภายนอก สัมผัสชีวิตข้างนอกนั้น แม้เพียงชั่วขณะนาทีเดียวก็ยังดี ต่อให้กลายเป็นทาสและของเล่นของผู้อื่น ข้าก็ยอม....

หลังจากนั้น สติปัญญาของข้าพัฒนาตามขึ้นมา ข้าใช้พลังตนเองสร้างเกล็ดน้ำแข็งที่มีพลังเคลื่อนย้ายมิติ จากนั้นส่งไปยังที่แสนไกลเท่าที่จะทำได้ ต่อมา มีคนผู้หนึ่งมาถึงด้วยเกล็ดน้ำแข็งที่ข้าส่งไป ในที่สุดข้าก็ได้เห็นชีวิตอื่น เพื่อเป็นการขอบคุณนาง ข้าช่วยชีวิตนางไว้จากการถูกแช่แข็ง จากนั้นส่งนางกลับไป พร้อมมอบพลังอันยิ่งใหญ่ให้

ทว่า ความเดียวดายที่ทวีขึ้น ทำให้ความเย็นยิ่งรุนแรง ข้าโหยหาให้มีคนพาข้าออกไป ทว่าสิบปีก็แล้ว ร้อยปีก็แล้ว พันปี.... แม้มีบางคนมาที่นี่ด้วยเกล็ดน้ำแข็งนั้น แต่หลังจากที่ทุกคนมาถึงก็ล้วนตกตายทันที ไม่มีใครอยู่รอดนานพอให้ข้าช่วยชีวิตได้

ในที่สุด เจ้าก็มาถึง

เจ้าทำให้ข้าได้เห็นความรักระหว่างชีวิต เมื่อเจ้ากลืนข้าลงไปเพื่อคนอื่น ข้าเข้าใจทันทีว่าอะไรคือความรักที่ข้าไม่เคยสัมผัส.... ในความเหน็บหนาวตลอดกาล ข้าพลันรู้สึกอบอุ่นขึ้น

ความรู้สึกเช่นนี้ ช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก....

ขอบคุณ....

ขอบคุณ

ในที่สุด เจ้าก็ทำให้ข้าได้เห็น โลกที่ข้าโหยหามานาน

เพื่อเป็นการตอบแทนเจ้า ข้าจะขอเป็นแก่นกำเนิดพลังให้กับเจ้า มอบพลังของข้า ส่งทอดพลังหิมะและน้ำแข็งที่ไม่มีวันหมดสิ้น....

.................

................

ซู่วววววว.....!

แสงสีฟ้าสว่างขึ้นที่กลางท้องของเย่หวูเฉิน เจ็บปวดชำแรกจนแทบไม่อาจทานทน แสงฟ้ายิ่งมายิ่งสว่างขึ้น ค่อยๆแผ่ลามคลุมร่างของเสี่ยวโม่อีกคน

เมื่อสูญสิ้นรากกำเนิดน้ำแข็ง อุณหภูมิก็เพิ่มขึ้นด้วยความเร็วสูงลิ่ว ความเย็นดุจฝันร้ายหายไปอย่างราวดเร็ว จากนั้น การเพิ่มของอุณภูมิค่อยๆชะลอลง ทว่ายังคงเพิ่มขึ้นช้าๆ

อุณภูมิสุดขั้วบีบคั้นความรู้สึกของเสี่ยวโม่ แต่พอร่างนางถูกห้อมล้อมด้วยแสงฟ้า ความเจ็บชำแรกของน้ำแข็งก็สลายลงทันที ผิวน้ำแข็งที่ปกคลุมกายก็หายไปเช่นกัน ในกลุ่มแสงฟ้า มีมือคู่หนึ่งยื่นออกมาและกอดนางไว้

“ท่านพ่อ” นางแหงนมองด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ราวกับอยู่ในฝันอันเกินจริง แสงฟ้าขับไล่ความเหน็บหนาวออกไป เขาเองก็แย้มยิ้มเช่นกัน.... หรือว่านี่คือภาพลวงตา ชั่วขณะแห่งความตายรู้สึกเช่นนี้เองหรอกหรือ?

“เสี่ยวโม่ ไม่เป็นไรแล้วนะ” เย่หวูเฉินกล่าวพร้อมยิ้มบาง ขณะเดียวกันก็รับรู้ถึงกลางร่างอย่างนิ่งงัน พลังทะลักล้นออกจากแก่นกำเนิด ผสานเข้ากับร่างตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า....

พลังหวูเฉินหมุนโคจรด้วยความเร็วสูงลิ่ว เมื่อเทียบกับตอนดูดซับพลังอัคคีจากมังกรเพลิงฟ้า และคราวดูดซับพลังวายุที่รั่วไหลออกจากมุกสลายวายุ ยามนี้การดูดซับเร็วกว่านับร้อยเท่าพันทวี อย่างไรก็ตาม พลังแกร่งกล้ากลับอ่อนโยนสุดขั้ว นอกจากแรงกระแทกของพลังในครั้งแรก ที่เหลือมันไม่ได้สร้างความเจ็บปวดหรืออึดอัดใดๆแม้แต่น้อย

“อื้ม....” นางรอดพ้นจากความตายอันหนาวเหน็บ พลังและสติยังไม่ทันกลับคืนสู่ปกติ หลังจากวันนี้ นางจะต้องป่วยหนักเป็นที่แน่นอน  อย่างไรก็ตาม ยังมีอะไรดีมากไปกว่าการที่เขาปลอดภัย

“แต่ว่าท่านพ่อ.... ทำไมข้าถึงรู้สึกอยากร้องไห้” เสี่ยวโม่ส่งเสียงแผ่วเบา เงยศีรษะขึ้นมองเขา แววตาสองข้างเป็นประกาย ราวกับว่ามีบางอย่างขยับไหว

พลังยังคงหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง การเพิ่มขึ้นของพลังยังไร้ทีท่าว่าจะสิ้นสุด กลับกันมันยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

มังกรเพลิงฟ้ามอบพลังแก่เขา ทำให้พลังหวูเฉินบรรลุสู่ขั้นที่สาม เทียบเท่าได้กับขอบเขตวิญญาณ เมื่อดูดซับพลังรั่วไหลของมุกสลายวายุ พลังของเขาก็บรรลุสู่ขอบเขตสวรรค์โดยตรง ทว่าในยามนี้.... เพียงไม่กี่อึดใจ พลังของเขาก็พุ่งทะยานเกินความคาดหมาย มากยิ่งกว่าสองครั้งก่อนหน้ารวมกัน

เนื่องจากมังกรเพลิงฟ้าได้รับพลังเพียงบางส่วนจากมุกมังกรอัคคี เช่นเดียวกับมุกสลายวายุที่รั่วไหลพลังออกมาเพียงบางส่วน ตรงกันข้ามกับในตอนนี้ ที่เขารับมาคือพลังทั้งหมดของมุกลึกลับ

“ท่านพ่อ ท่านจะเป็นพ่อข้าตลอดไปหรือเปล่า?” นางกำเสื้อของเขาไว้ มองยังดวงตา ถามเสียงนุ่มด้วยความหวัง

เสี่ยวโม่ถูกกอดในอ้อมแขนแน่นขึ้น เขากล่าวด้วยยิ้มบาง “ตราบใดที่เสี่ยวโม่ต้องการ ข้าจะเป็นพ่อของเสี่ยวโม่ตลอดไป”

“ท่านพ่อ....” เสี่ยวโม่กระชับอ้อมกอดกลับ สัมผัสความอบอุ่นที่โหยหามาตลอด ตั้งแต่นางได้พบกับเขา ชีวิตก็ไม่ใช่สิ่งน่ากลัว นางไม่จำเป็นต้องกลัวสายตาปฏิเสธจากโลกอีก ไม่ต้องเดียวดายอีกครั้ง เขากลายเป็นที่พึ่งพิงของนาง เมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเขา นางพลันรู้สึกว่าไม่ว่าที่ใด ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอีก เพราะเขาจะปกป้องนาง.... กระทั่งยอมตายเพื่อนางได้

ติ้ง!

ในสมองของเย่หวูเฉินเกิดเสียงลั่น ราวกับเส้นกั้นในใจขาดผึงออก พลังทะลวงผ่านโดยไร้สิ่งต่อต้าน

นี่มัน....

ทันใดนั้น พลังของโลกหล้าทะลักสู่ร่างอย่างบ้าคลั่ง ร่างกายของเขาสามารถดูดซับจิตปราณได้โดยธรรมชาติ เวลานี้ เขารู้สึกถึงจิตปราณที่ท่วมทะลักเข้ามา ความเร็วและความหนาแน่นแตะระดับสูงสุด เหนือล้ำกว่าครั้งก่อนๆหลายเท่า หรือกระทั่งถึงสิบเท่า

ตอนนี้เอง เสียงที่ได้ยินจากโลกเริ่มเปลี่ยนไป สายตาที่มองเห็นเปลี่ยนไประดับใหญ่ เส้นสายตาสามารถมองทะลุชั้นน้ำแข็งสีฟ้า ราวกับว่ามองเห็นธาตุน้ำที่กระเพื่อมเบื้องบนได้ชัดเจน ในหูราวกับว่าได้ยินเสียงอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น

ความรู้สึกอึดอัดไม่อาจหายใจสลายไปสิ้น หัวใจเปลี่ยนเป็นความสงบ ไร้ระลอกคลื่นใดๆ ความคิดคับข้องและความกังวลใจสลายไปสิ้น ร่างกายกลายเป็นเบาโล่ง รู้สึกได้ชัดว่าสามารถเคลื่อนพลังได้ตามใจชอบ เหินทะยานร่างได้อย่างอิสระ โดยแทบไม่ต้องสิ้นเปลืองพลัง

นี่คือ พลังหวูเฉินขั้นที่ห้า!

“ท่านพ่อ ท่านกำลังแข็งแกร่งขึ้น ข้าสัมผัสได้ จู่ๆท่านก็ร้ายกาจขึ้นอย่างมาก” เนื่องจากแนบร่างอยู่ นางจึงได้ยินเสียงหัวใจเขา ทั้งยังรู้สึกถึงพลังในร่างที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง มันพุ่งทะยานขึ้นในชั่วพริบตา.... ขอบเขตเทวะ! นางรู้สึกได้ชัดเจน เย่หวูเฉินทะลวงจากขอบเขตสวรรค์ชั้นกลาง ก้าวขึ้นสู่วิถีเทวะ บรรลุพลังโดยตรงในช่วงเวลาสั้นๆ

หรือจะเป็นเพราะเขากลืนมุกสีฟ้าลงไป.... เสี่ยวโม่ครุ่นคิดอยู่ในใจ ทว่าทันใดนั้น ความตื่นเต้นก็ผุดขึ้นกลบความคิดไว้หมดสิ้น นางกอดร่างของเย่หวูเฉินด้วยความดีใจ จะด้วยเหตุผลใดล้วนไม่สำคัญ ตราบใดที่นางกับพ่อปลอดภัย ไม่ว่าเรื่องใดก็ล้วนดีทั้งนั้น

ผ่านไปครู่นาน ในที่สุดแสงฟ้าก็คลายออก บริเวณโดยรอบยังคงเป็นน้ำแข็งอันหนาวเหน็บ ทว่ามันไม่ได้น่ากลัวอีกต่อไป ในขณะที่แสงฟ้าเลือนหาย กลุ่มแสงขาวก็สว่างวาบออก พร้อมกับเย่หวูเฉินและเสี่ยวโม่ที่หายไปจากโลกน้ำแข็ง

ที่แห่งนี้ เป็นแผ่นผืนสีขาวปกคลุมด้วยหิมะ ไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตอื่นกล้าย่างกรายเข้ามา หากไม่ใช่เพราะมุกน้ำแข็งที่ปลดปล่อยความเย็นสุดขั้ว ที่แห่งนี้ย่อมเป็นผืนสมุทรอันไพศาล ดูเหมือนพื้นที่ใต้เท้า จะเป็นชั้นน้ำแข็งหนาน่ากลัว มุกเล็กๆกลับเปลี่ยนผืนสมุทรให้กลายเป็นทะเลน้ำแข็ง หยกเทพหิมะส่งเย่หวูเฉินและเสี่ยวโม่ลงไปยังใจกลางชั้นน้ำแข็งเบื้องล่าง ซึ่งอยู่ลึกจากผิวเบื้องบนนับพันลี้

หิมะทอประกายสีขาว สายลมโชยพัดพร้อมความหนาวเย็น แต่หากเทียบกับความเย็นข้างใต้แล้ว มันไม่อาจเทียบกันได้เลย

ร่างของเสวี่ยโม่สั่นเทา ทว่าทันใดก็รู้สึกอบอุ่น เย่หวูเฉินปล่อยพลังอัคคีหุ้มร่างนางไว้อย่างอ่อนโยน ร่างกายของเสี่ยวโม่เสียหายอย่างมาก สีหน้ายังคงมีรอยน้ำเงินและม่วง พลังของนางเหือดหายเนื่องจากฝืนต้านทานความเย็น ตอนนี้นางจึงอ่อนแออย่างมาก กระทั่งต่อต้านความเย็นของที่นี่ยังแทบไม่อาจทำได้

“ท่านพ่อ เพราะท่านกลืนเจ้าก้อนกลมเล็กๆนั่นลงไป ท่านเลยแข็งแกร่งขึ้นเหรอ?” เสี่ยวโม่พอหายหนาวก็ถามเรื่องสงสัยคาใจ ที่นี่คือชั้นน้ำแข็งเหนือวังสตรีหิมะ ถัดออกไปไม่ไกลนัก เป็นหลุมกว้างที่เกิดจากพลังของเสี่ยวโม่เมื่อวานนี้

“ถูกต้อง” เย่หวูเฉินกล่าวตอบ จากนั้นเอ่ยต่ออย่างลึกลับ “ชื่อของก้อนกลมเล็กๆนี้ เสี่ยวโม่เองก็รู้จัก”

“เอ๋?” ใบหน้าของเสี่ยวโม่ปรากฎเครื่องหมายคำถาม

“ความเย็นน่าหวาดหวั่นกว่าครึ่งอาณาจักรชางหลาน รวมถึงพื้นที่สมุทรทางตอนเหนือ ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะมัน สิ่งเดียวซึ่งสามารถปลดปล่อยความเย็นน่าสะพรึงได้ คือสิ่งที่เสี่ยวโม่ตามหามาตั้งแต่ต้น มุกจิตวารีในตำนาน หนึ่งในสิบมุกเซียนโกลาหล!”

ก่อนหน้าขณะที่เย่หวูเฉินย่างเท้าเข้ามายังที่แห่งนี้ เพราะอุณภูมิผิดปกติของมันทำให้เย่หวูเฉินสงสัย สถานที่ซึ่งมุกมังกรอัคคีดำรงอยู่ ได้กลายเป็นดินแดนร้อนสุดขั้วในทวีป รวมถึงก่อกำเนิดมังกรเพลิงฟ้า มุกสลายวายุที่มีพลังรั่วไหลออกมาเพียงเล็กน้อย ยังกลับก่อให้เกิดอาณาวายุต้องห้าม ที่แม้กระทั่งเหยียนเทียนเว่ยยังไม่กล้าย่างกรายเข้าไป เมื่อเขาทราบถึงการมีอยู่ของมุกเซียนโกลาหลทั้งสิบ รวมถึงพลังธาตุอันแกร่งกล้าของมัน ทำให้เขารู้ว่า หากมุกเซียนที่ทรงพลังธาตุสูงสุดตกอยู่ในสถานที่ใด ดินแดนแห่งนั้นย่อมเปลี่ยนเป็นสภาพสุดขั้วตามธาตุของมัน

ดังนั้น ความหนาวเย็นผิดธรรมดาของอาณาจักรชางหลาน ดินแดนเย็นสุดขั้วในทวีปเทียนเฉิน เขาจึงเดาว่าอาจมีมุกจิตวารี หลังจากมาถึงที่นี่ ข้อสันนิษฐานยิ่งน่าเชื่อ ดังนั้น เขาจึงอยากไปตอนเหนือเพื่อสำรวจ และในที่สุด ในสถานที่น่าหวาดหวั่นที่หยกเทพหิมะส่งเข้าไป เขาได้พบกับวัตถุทรงกลมเล็กๆ ที่สมควรเป็นมุกจิตวารีอย่างแน่นอน

ในทวีปเทียนเฉิน มีมุกเซียนโกลาหลสี่ในสิบเม็ดกระจายอยู่ เวลานี้เขาครอบครองอยู่ในมือสองเม็ด อีกเม็ดหนึ่งอยู่ในมือของเสี่ยวโม่ ที่เหลืออีกเม็ดหนึ่งนั้น.... มุกเรืองปฐพี ที่บรรจุพลังสูงสุดของปฐพี เขาเดาได้แล้วว่ามันอยู่ที่ไหน

ดินแดนแห่งปฐพีสุดขั้ว.... อาณาจักรที่เผชิญหน้าพายุทรายโหมกระหน่ำตลอดปี อาณาจักรต้าฟงที่ทุกข์ทรมานเพราะความแห้งแล้ง หากไม่ใช่ที่นั่น แล้วจะเป็นสถานที่ใดได้



<<<PREV    .    NEXT>>>