วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 426

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 426 ราคาเสียดฟ้า

ทุกคนเห็นได้เลยว่า การเสนอราคาของฟงเลี่ย ทำให้การประมูลเข้าสู่จุดติดตาย เมื่อเพิ่มราคาขึ้นทีละหนึ่งตำลึง.... ในขณะเดียวกัน ทั้งสถานะและความบาดหมางของทั้งสองคน ทำให้ผู้คนไม่อาจสอดมือเข้าไปยุ่งได้ แต่หากปล่อยให้ดำเนินไปเช่นนี้ ก็เหมือนเตะบอลยางกลับไปกลับมา ไม่ทราบว่าเมื่อใดจะจบสิ้น

“12 ล้าน กับอีกสามตำลึง” นั่นยังไง เย่หวูเฉินโบกพัดหยกไปมา กล่าวคำเนิบนาบ ท่าทางดูไร้กังวล ราวกับเดาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าฟงหลิงจะต้องทำเช่นนี้

“12 ล้าน และอีกสี่ตำลึง” ฟงหลิงไม่รีบร้อนเช่นกัน สีหน้ากลับสงบอย่างประหลาด สงบนิ่งไร้อาการกังวลโดยสิ้นเชิง

“12 ล้าน 5 ตำลึง”

“12 ล้าน 6 ตำลึง”

“12 ล้าน 7 ตำลึง”

“12 ล้าน 8 ตำลึง”

.....................

.....................

ในโถงประมูลเหลือเพียงเสียงของสองคน ผู้คนเริ่มสีหน้ากระอักกระอ่วน เย่หวูเฉินกับฟงหลิงเสนอราคาตามกันไม่ลดละ ทว่าแต่ละครั้งเพิ่มทีละหนึ่งตำลึงเท่านั้น ครู่หนึ่งผ่านไป เสียงเสนอราคายังคงไม่หยุดลง ทว่าราคาเพิ่มขึ้นเพียงไม่กี่สิบตำลึงเท่านั้น

การต่อสู้บัดซบนี้เริ่มกลายเป็นละครตลก เพิ่มขึ้นทีละหนึ่งตำลึง ทำให้หัวใจผู้คนอึดอัดอย่างยิ่ง ซึ่งคนที่อึดอัดมากสุดไม่ต้องสงสัยเลยว่าคือตระกูลซีเหมิน ซีเหมินชิงที่ยืนอยู่บนเวทีอ้าปากจะกล่าวคำอยู่หลายครั้ง แต่ทว่าลังเล กล้ามเนื้อบนใบหน้ากระตุกไม่หยุดหย่อน เส้นยับย่นสามรอยปรากฎบนหน้าผาก แม้ไม่มองก็ยังเห็นชัดเจน

“12 ล้าน 112 ตำลึง”

“12 ล้าน 300 ตำลึง”

“12 ล้าน 400 ตำลึง”

ทั้งสองไม่เร่งรีบ ราวกับว่าไม่รู้สึกรู้สาถึงบรรยากาศแปลกแปร่งที่พวกมันเป็นสาเหตุ เวลานี้เอง มีเสียงใหญ่โตตะโกนขึ้น

“15 ล้าน!” เฉียนก่วนก่วนชูป้ายขึ้น จากนั้นเก็บลงอย่างรวดเร็ว ไม่มองสบตาผู้คนที่อยู่รอบๆ จากนั้นหลับตาสงบจิตใจอย่างรวดเร็ว เจ้าคนรวยมั่งคั่งสูงสุดในปฐพีไม่อาจอดทนได้ในที่สุด ทำลายจุดติดตายนี้ลง หากก่อนหน้านี้ มันเพิ่มราคาทันทีตอนที่เย่หวูเฉินเสนอราคาได้ไม่กี่ครั้ง นั่นจะกลายเป็นว่ามันหาเรื่องเย่หวูเฉิน ทว่าตอนนี้การเพิ่มราคาของมันช่วยให้คนทั้งสองหลุดพ้นจากสถานการณ์ติดตาย

บางคนถอนหายใจโล่งอก บางคนถอนหายใจที่ละครเรื่องเยี่ยมถูกขัดจังหวะ ซีเหมินชิงถอนหายใจเฮือกยาวอย่างโล่งใจ แล้วกล่าวแทรกอย่างรีบร้อน “ราคาตอนนี้คือ 15 ล้าน มีสหายท่านใดจะเพิ่มราคาอีกหรือไม่?”

เย่หวูเฉินไม่กล่าวตอบ โบกพัดในมือไม่เปิดปาก หลังจากเงียบงันอยู่ครู่หนึ่ง ซีเหมินชิงยกค้อนทองเล็กๆในมือขึ้น ฟงหลิงไม่อาจสงบใจได้อีก รีบเสนอราคา “20 ล้าน”

เผชิญหน้าเฉียนก่วนก่วน มันไม่อาจเพิ่มราคาเพียงหนึ่งตำลึงได้ ไม่อย่างนั้น มันต้องเสียหน้าหนักอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่ามันเป็นองค์รัชทายาทแห่งต้าฟง แต่มันย่อมไม่อาจยั่วยุตระกูลร่ำรวยสูงสุดแห่งทวีปเทียนเฉินได้ตามอำเภอใจ ราคาจึงพุ่งสูงขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ฟงหลิงกล่าวอีกครั้งด้วยความผิดหวัง “สมบัติปานนี้ หากพลาดไปย่อมเสียดายทั้งชีวิต แสงอ่อนโยนตลอดกาล เป็นเช่นหัวใจของข้าที่มีต่อหญิงงาม หากสามารถเอาชนะรอยยิ้มของโฉมสะคราญได้ ต่อให้ต้องจ่ายมากกว่านี้อีกหมื่นเท่า เหตุใดจะทำไม่ได้”

ถ้อยคำของฟงหลิงไม่ปิดบังเจตนา เช่นเดียวกับความปรารถนาลึกล้ำที่ฝังในใจ มันต้องการหยกแดงครามสมุทรประจิมชิ้นนี้ มิใช่เพื่ออวดโอ่ให้คนชื่นชม หากเป็นเพื่อบุคคลคนหนึ่งที่มันชมชอบ.... บุคคลผู้นี้ คือสตรีเลอโฉมแห่งตระกูลเย่ มันหลงใหลในธิดาตระกูลเย่ ผู้เป็นต้นเหตุตำนานอันลือเลื่องของเย่หวูเฉิน สามปีผ่านไป ความหลงใหลของมันยังคงไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม ไม่น่าแปลกใจนัก ที่รัชทายาทต้าฟงจะหลงใหลในตัวธิดาตระกูลเย่ถึงเพียงนี้

“20 ล้าน กับอีกหนึ่งตำลึง” เย่หวูเฉินผู้ไม่เปิดปาก ฉับพลันก็เสนอราคาต่อจากฟงหลิง ซีเหมินชิงเพิ่งคลายใจได้ไม่ทันไร ตอนนี้หน้าผากปรากฎรอยยับย่นสามเส้นขึ้นอีกแล้ว

“โอ้ 20 ล้าน กับอีกสองตำลึง” ฟงหลิงอารมณ์ผ่อนคลาย ยังคงเสนอราคาไม่ลดละ

“50 ล้าน!”

ตุบ! มีหลายคนร่วงตกจากเก้าอี้

ร่ำรวยได้หยาบคายเกินไปแล้ว เฉียนก่วนก่วนเสนอราคาสูงลิ่ว 50 ล้าน เงินเท่านี้ตระกูลทั่วไปใช้สิบชาติยังไม่หมด มันกลับตะโกนออกมาอย่างง่ายดาย น้ำเสียงยังสงบธรรมดา

หยกแดงครามสมุทรประจิม สามารถเปล่งแสงสีฟ้าดุจมายาได้ไม่มีวันหมดสิ้น ทว่ามันมีคุณสมบัติเพียงเท่านี้ กล่าวแบบขวานผ่าซาก มันก็เพียงแค่หินที่ดูดี ทั้งตำนานหลายๆอย่างของมัน.... ในเมื่อเป็นตำนาน แน่นอนย่อมต้องถูกแต่งเติมเสริมขึ้น นอกจากคนที่พิมพ์ตั๋วเงินได้เอง ผู้ใดจะปรารถนาจะโยนเงิน 50 ล้านตำลึงเงินทิ้ง เพียงเพื่อแลกกับหินที่ดูดีก้อนหนึ่ง ทั้งคุณค่าของมันอยู่ที่การสื่อความหมายเท่านั้น

ราคานี้ ทำให้โถงประมูลตกตะลึงเงียบงันทันที 50 ล้านเป็นราคามหาศาล กระทั่งในทวีปเทียนเฉินยังมีเพียงไม่กี่คนที่รับได้ เบื้องหลังเย่หวูเฉินคือตระกูลเย่ เป็นตระกูลทรงอำนาจทว่าไม่ได้ร่ำรวยถึงขั้นมหาศาล หากเปรียบเรื่องความร่ำรวย ตระกูลฟงเหนือล้ำกว่าตระกูลเย่ไปห่างไกล เย่หวูเฉินถูกกำหนดให้แพ้มาตั้งแต่ต้นแล้ว

เฉียนก่วนก่วนไม่อาจอดทนอย่างเห็นได้ชัด เสนอราคาสูงเทียมฟ้าเพื่อหยุดการประมูลของเจ้าสองคนนี้ ผู้คนตกใจจนร่วงลงจากที่นั่ง ราคานี้แม้ไม่อาจทำให้ฟงหลิงล่าถอยด้วยความกลัว แต่ย่อมเพียงพอหยุดเย่หวูเฉินได้ ด้วยสถานะการเงินของตระกูลเย่ 50 ล้านตำลึงเงินย่อมไม่ใช่เล็กน้อย หากประมูลได้ไปจริงๆ ตระกูลเย่คงตัวสั่นแน่

ฟงหลิงแย้มยิ้ม และตะโกนออกไปอย่างไม่ลังเล “55 ล้าน”

ที่ข้างกายมัน ชายผู้หนึ่งเริ่มห้ามปราม อายุราว 30 ปี กระตุกชายเสื้อของฟงหลิงเล็กน้อย และกระซิบ “องค์รัชทายาท เวลานี้เป็นยามศึกของสองอาณาจักร ไม่อาจสูญเงินเปล่าได้ง่ายดายเพียงนี้”

ฟงหลิงสั่นศีรษะ “ไม่จำเป็นต้องมากความ ข้ามีแผนอยู่”

ชายผู้นั้นเลิกพูดมากทันที

“55 ล้าน กับอีกหนึ่งตำลึง” แน่นอนว่า เย่หวูเฉินยังคงเพิ่มราคาทีละหนึ่งตำลึงตามหลังฟงหลิงไม่เลิก การเพิ่มราคาของเย่หวูเฉินทำให้ผู้คนอึดอัดใจอีกครั้ง เขาไม่เพิ่มราคาต่อจากเฉียนก่วนก่วน แต่จะเพิ่มต่อจากฟงหลิงทันที เจตนาของเขาชัดเจนมาก

“100 ล้าน!!”

โครม โครม!

สองคำดุจสายฟ้าฟาด เขย่าโต๊ะหลายตัวในโถงประมูลให้ล้มลงทันที.... แน่นอนไม่ใช่เขย่าเพราะเสียง แต่เป็นผู้คนที่สะดุ้งตัวโยน

100 ล้าน.... บ้าไปแล้ว! ขณะที่เฉียนก่วงก่วงตะโกนราคาออกมาอย่างสงบ ไม่ทราบมีคนเท่าใดที่ไม่เชื่อหูตัวเอง

ซีเหมินชิงบนเวทีไม่อาจรักษาความสงบได้อีก เขานึกอยู่แล้วว่าหยกแดงครามสมุทรประจิมจะทำราคาได้สูง ตอนแรกคิดไว้ว่าน่าจะอยู่ที่ 20 ล้าน ไม่คิดไม่ฝันว่าราคาจะโดดขึ้นจนสูงลิ่ว กระทั่งทำให้นายน้อยตระกูลซีเหมินไม่อาจอดห้ามความตื่นเต้น เขาเงยศีรษะขึ้นและกล่าว “ทุกสิ่งล้วนหาได้ง่าย แต่หยกแดงครามสมุทรประจิมชิ้นนี้มีเพียงหนึ่งเดียว หากพลาดโอกาสนี้ไป ต่อให้มีเงินมากกว่านี้หมื่นเท่ายังยากจะหาซื้อได้ 100 ล้าน! ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 100 ล้าน ไม่ทราบยังมีสหายท่านใดต้องการให้ราคาสูงกว่านี้อีกหรือไม่?”

เฉียนก่วนก่วนกลายเป็นตัวละครเอกของงานประมูลนี้ไปเรียบร้อย กระทั่งกล่าวได้ว่ามันเป็นผู้กุมทิศทาง ทว่าสายตาผู้คนไม่ได้ตกอยู่ที่เฉียนก่วนก่วน แต่เป็นฟงหลิงกับเย่หวูเฉิน รอคอยอย่างสงบให้ทั้งสองตอบสนองต่อราคา ที่น่าแปลกก็คือ ทั้งสองคนนี้กลับมีสีหน้าสงบราบเรียบ ไม่มีอาการตกใจหรือเหงื่อตกแม้แต่น้อย

“110 ล้าน!” ฟงหลิงเลิกคิ้วขึ้น เพิ่มราคาอีกครั้งเป็น 110 ล้านโดยไม่ลังเล

“110 ล้าน กับอีกหนึ่งตำลึง!”

ยกคงเพิ่มอีกหนึ่งตำลึงโดยไม่สะทกสะท้าน ข่มราคาสูงเสียดฟ้าของฟงหลิง ทว่าเวลานี้ ผู้คนเริ่มคิดในใจว่า ราคา 110 ล้านนี้ เฉียนก่วนก่วนย่อมรับได้ ฟงหลิงมีสถานะเป็นรัชทายาทย่อมรับราคามหาศาลนี้ได้เช่นกัน แต่ตระกูลเย่แบกรับราคานี้ได้จริงๆหรือ? ต่อให้แบกรับได้จริงๆ แต่เพื่อหยกชิ้นหนึ่งกลับต้องสูญเงินมหาศาลในหนึ่งลมหายใจ นี่คือสุดยอดพรสวรรค์ผู้ทำโลกตะลึงจริงๆหรือ? สมญา ‘สุดยอดพรสวรรค์อันดับหนึ่ง’ และ ‘นายน้อยผู้ปราดเปรื่อง’ หวูเฉินแห่งตระกูลเย่ผู้ผ่าร่างเทพสงคราม เหตุใดตอนนี้จึงได้กลายเป็นตาเฒ่าหัวแข็ง ไม่ยอมลดรา ดิ้นรนเอาชนะโดยไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ใดๆ

“220 ล้าน” เฉียนก่วนก่วนแทบไม่ขยับตัว น้ำเสียงราบเรียบไร้ระลอก ตะโกนราคาเสียดฟ้าที่ทำหัวใจผู้คนแทบเต้นออกจากอก ตัวเลขน่าตระหนกนี้เหนือจินตนาการเกินไปแล้ว

220 ล้าน ราคาเสียดฟ้าถูกเพิ่มขึ้นสองเท่าในคราเดียวอีกครั้ง ตระกูลรวยสุดในทวีปเทียนเฉินย่อมทำได้ ตะโกนราคาออกมาอย่างหาญกล้า ราคานี้ทำให้ฟงหลิงผู้สงบหน้าถอดสีทันที ในที่สุดก็ตวัดสายตามองไปที่เฉียนก่วนก่วน เฉียนก่วนก่วนรู้สึกได้ถึงสายตาของฟงหลิง ทว่ามันขยับเปลือกตาเพียงเล็กน้อย ไม่เหลียวมองแม้เพียงปราดตา

“220 ล้าน! ใช่แล้ว 220 ล้าน!” ซีเหมินชิงคล้ายพูดตะกุกตะกัก น้ำเสียงยังแหลมขึ้นหลายส่วน “ตอนนี้ หยกแดงครามสมุทรประจิมราคามาถึง 220 ล้านแล้ว ไม่ทราบยังมีสหายท่านใดต้องการเพิ่มราคาอีกหรือไม่!”

ท่าทางของซีเหมินชิงในยามนี้ แทบจะกระโดดโลดเต้นบนเวที หากมันยังคงลอบถอนหายใจ ตระกูลซีเหมินอันยิ่งใหญ่ สะสมสมบัติมีค่าจนชื่อเสียงเลื่องลือ ทว่าต่อหน้าตระกูลร่ำรวยสูงสุดในทวีปเทียนเฉิน มันไม่อาจเปรียบเทียบได้เลยแม้แต่น้อย หากอยู่คนเดียวมันคงอยากกรีดร้องดังๆสักสามครั้ง เพราะเงินจำนวนนี้ได้มาโดยขายหินดีๆเพียงก้อนเดียวเท่านั้น

แน่นอนว่าเหนือฟ้าย่อมมีฟ้า

ทว่าราคาสูงเสียดฟ้า 220 ล้านนี้กลับไม่มีผู้ใดตะโกนเพิ่มราคาอีก เย่หวูเฉินและฟงหลิงที่สู้กันมาค่อนวันยังคงนิ่งเงียบ

“220 ล้าน นับหนึ่ง!”

“220 ล้าน นับสอง!”

ค้อนทองเล็กๆในมือซีเหมินชิงถูกยกขึ้น เมื่อทุบลงไปหยกแดงครามสมุทรประจิมนี้จะกลายเป็นของเฉียนก่วนก่วนทันที ราคา 220 ล้านนี้แทบไม่มีผู้ใดเชื่อ

“220 ล้าน นับสา....”

“300 ล้าน!”

“องค์รัชทายาท!”

สองเสียงดังขึ้นติดต่อกัน คนแรกมีเหงื่อเย็นท่วมตัว อีกคนเป็นชายหนุ่มนั่งอยู่ข้างฟงหลิง ขณะที่ฟงหลิงกัดฟันตะโกนราคา 300 ล้าน ทั้งสองก็แตกตื่นจนตะโกนลั่นอย่างไม่อาจควบคุม



<<<PREV    .    NEXT>>>