วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 108

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 108 กลอุบาย (2)

ขณะที่เขากำลังวิ่ง จู่ๆก็พุ่มไม้ก็สั่นและมีกระต่ายสีดำกระโดดออกมา เย่หวูเฉินดึงผ้าชุ่มเลือดที่ปิดแผลออก เขาลูบฝ่ามือบนแผลช้าๆจากนั้นทั้งรอยเลือดและรอยแผลก็หายไปในฉับพลัน

ถึงแม้กระต่ายจะว่องไว มันก็ไม่อาจเทียบความเร็วของเย่วูเฉิน เพียงไม่นาน เขาก็จับกระต่ายแล้วเอาผ้าชุ่มเลือดพันไว้รอบคอมัน เขาปล่อยกระต่ายและมันวิ่งหนีไปทันที

เขาก้าวเท้าเบาเหมือนขนนก เหยียบขึ้นไปบนกิ่งไม้ จากนั้นก้าวอีกครั้งหนึ่งลอยลิ่วขึ้นไปบนกิ่งสูง เขาปิดตาลงเงียบๆเพื่อฟื้นฟูกำลัง ภายใต้กิ่งใบแน่นหนาย่อมไม่มีใครสามารถเห็นคนที่อยู่ข้างบน นอกเสียจากตรวจตราดูอย่างละเอียด

จากนั้นเพียงไม่กี่อึดใจ เงาร่างของเถาไปไปก็พุ่งผ่านดุจลมกรรโชก ทิศทางที่เขามุ่งหน้าคือทิศที่กระต่ายกระโดดหนีไป

จากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงคำรามโหยหวนอย่างโกรธเคือง เย่หวูเฉินยกยิ้ม หากเป็นเขาที่พบว่าตัวเองเสี่ยงชีวิตเพื่อไล่ตามกระต่ายตัวเดียว เขาคงร้องโหยหวนสักสามครั้ง

เสียงลมพัดหวีดหวิวพร้อมเงาร่างสีขาวพุ่งวับผ่านเบื้องล่างไปอีกครั้ง เขามุ่งไปยังทางที่เย่หวูเฉินผ่านไปเมื่อครู่ เย่หวูเฉินไม่ได้ฉวยโอกาสนี้หลบหนีไป เขายังคงอยู่กับที่และหลับตาฟื้นฟูกำลัง หลังผ่านไปหลายอึดใจ เถาไปไปพุ่งกลับมา หลังจากวนหาอยู่สองสามรอบ เขาก็ใช้ความเร็วสูงสุดพุ่งไปยังทางออกป่าดำ

เย่หวูเฉินกระโดดลงจากต้นไม้ หัวเราะเสียงเย็นไปทางที่เถาไปไปจากไป เขาไม่รีบร้อนเดินตรงลึกเข้าไปในป่าดำ

เถาไปไปออกจากป่าดำอย่างรวดเร็ว แล้วรีบตรงกลับไปที่เมืองเทียนหลง ความรู้สึกที่หลงกลอุบายติดต่อกันยิ่งทำให้เขาโกรธเกรี้ยวอยู่ข้างใน เขาปรารถนาอยากฉีกร่างเหยื่อออกสักพันชิ้น

เย่หวูเฉินผู้นี้สมควรใช้กระต่ายล่อให้เขาเข้าป่าลึก จากนั้นซ่อนอยู่ในความมืดรอโอกาสกลับเมืองเพื่อขอความช่วยเหลือ ในมุมมองของเขา หนีเข้าเมืองเพื่อขอความช่วยเหลือเป็นทางรอดเดียวของเย่หวูเฉิน ตอนที่เขาตวัดกระบี่ใส่คอ เห็นได้ชัดว่าพลังด้านอื่นของเย่หวูเฉินไม่ได้เก่งกาจเหมือนกับความเร็ว

คลาดสายตากับเย่หวูเฉินไปเพียงนาที เขาวิ่งมาเจอสี่สตรีผู้มีสายตาเปี่ยมพลัง ร่างของพวกนางล้วนแกร่งกล้า เมื่อเห็นเถาไปไป หัวใจของพวกนางแทบหยุดเต้น หรือว่าเย่หวูเฉินผู้นั้นจะ....

แม้ไม่ได้กล่าวออกมาแต่เป็นอันเข้าใจ พวกนางล้อมกรอบเถาไปไปเอาไว้ ฟงดึงกระบี่ออกมาและตะโกน “เถาไปไป เจ้าทำอะไรกับนายน้อยเย่?”

เมื่อเถาไปไปได้ยิน สีหน้าเขายิ่งทะมึน เขารีบหันหลังแล้วพุ่งกลับไปที่ป่าดำ ความเร็วของเขาเหนือล้ำจนสี่สตรีไม่อาจไล่ทัน พวกนางกัดฟันตามไปอย่างรวดเร็ว

ขณะที่อยู่ในเมืองเทียนหลง เถาไปไปรู้ตัวแล้วว่าถูกติดตามโดยสี่สตรี ดังนั้นเห็นได้ชัดว่าพวกนางมุ่งหน้ามาจากเมืองเทียนหลง เมื่อพวกนางถามคำถามเช่นนี้ออกมา ก็แปลว่าพวกนางไม่เห็นเย่หวูเฉิน นั่นก็หมายความว่า... เย่หวูเฉินไม่ได้กลับไปที่เมืองเทียนหลงและยังคงซ่อนตัวอยู่ในป่า

ความโกรธอัดแน่นจนทำให้เขาแทบจะกลายเป็นบ้าคลั่ง

กลับเข้าป่าดำด้วยความเกรี้ยวกราด เขาตามเส้นทางก่อนหน้าเข้าไปลึกขึ้นอีก แทบจะในทันที เขาได้กลิ่นเนื้อย่างด้วยสัญชาตญาณ

หลังจากเลี้ยวสองสามครั้ง เขากลับมาถึงจุดที่พบกระต่าย แต่สิ่งที่เห็นแทบทำให้เขากระอักเลือด เขาหยุดเท้าลงฉับพลัน

กระต่ายตัวที่ถูกแทงตายด้วยความโกรธได้หายไป เหลือหนังกระต่ายทิ้งอยู่ เย่หวูเฉินนั่งอยู่บนต้นไม้ กินขากระต่ายย่างอย่างเอร็ดอร่อย ไม่สนใจสิ่งใดในยามนี้ เบื้องล่างมีเศษกระดูกตกกระจัดกระจาย

เย่หวูเฉินกัดเนื้อกระต่ายคำโตแล้วโยนกระดูกทิ้งไป เหลือบตามามองราวกับเพิ่งเห็นเถาไปไป “คุณชายเถาไปไป วิ่งกลับไปกลับมาคงจะเหนื่อยแย่ มา! มา! เนื้อกระต่ายยอดเยี่ยมนัก ท่านอยากลองสักชิ้นหรือไม่? ดูสิ ข้าอุตส่าห์เหลือชิ้นนี้ไว้ให้ท่านโดยเฉพาะ”

ชิ้ง!

กระบี่สั้นพุ่งออกจากมือของเถาไปไปราวกับดาวตก มันพุ่งปักต้นไม้เข้าไปลึกตรงจุดที่เย่หวูเฉินเอนอิงอยู่เมื่อครู่ เย่หวูเฉินหลบอย่างไม่รีบร้อนแต่กลับพ้นคมกระบี่ไร้รอยขีดข่วน เถาไปไปทะยานเข้าหา ดึงกระบี่ออกมาแล้วติดตามไม่ลดละ ครั้งนี้ เขาจะไม่ยอมให้หนีรอดไปได้อีกครั้ง

แต่ยามนี้หวูเฉินได้ฟื้นกำลังเกือบทั้งหมดกลับคืนมา ดังนั้นเขาจึงพาเถาไปไปวิ่งวนทั่วป่าดำ สลับเส้นทางมุ่งหน้าไปยังหอคอยปีศาจ เถาไปไปตามติดไม่คิดลดละด้วยความโกรธเคือง

ตรงไปทางตะวันออกได้ราว 5 ลี้ หากเข้าไปต่ออีก 5 ลี้ ก็จะถึงหอคอยปีศาจ ทุกสิ่งในสถานที่นี้ล้วนทำให้ผู้คนต้องผวา ความเร็วของบุรุษสองคนไม่ช้าลงใดๆ อย่างไรก็ตาม หากไม่ใช่เพราะเย่หวูเฉินวางกลอุบายเพื่อฟื้นคืนพลัง การไล่ล่ายาวนานย่อมทำให้เขาหมดแรงและตกลงสู่เงื้อมมือของเถาไปไป

เย่หวูเฉินได้คำนวณระยะทางตั้งแต่ครั้งที่เขาได้ย่างเท้าเข้ามา ต้นไม้บางต้นที่เขาทำเครื่องหมายไว้ปรากฎในครรลองจักษุ มุมปากเขายกยิ้มเล็กน้อย เขาพุ่งไปข้างหน้าก้าวเท้าแปลกๆแต่ไม่มีผลสิ่งใด


แววตาไร้ชีวิตจ้องติดอยู่ที่เย่หวูเฉิน ฉับพลันพื้นเบื้องล่างเท้าของเถาไปไปก็ยุบตัวลง เถาไปไปสบถเสียงต่ำเหินร่างกลางอากาศออกจากหลุม เขาออกมาอย่างง่ายดายขณะที่เล่งหยาต้องขุดด้วยความยากลำบาก เถาไปไปพุ่งไปเบื้องหน้าด้วยความเร็วคงที่

เพียงเท้าแตะถึงพื้นเขาก็ร่วงลงไปอีกครั้ง เถาไปไปตกใจแต่ไม่สับสน เขาเหินร่างออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาเบี่ยงไปทางขวา

ใช้พลังทะยานสองครั้งติด แม้จะเป็นเถาไปไปก็ไม่อาจควบคุมทิศทางกลางอากาศ ดังนั้นเขาจึงร่วงลงมาอย่างอิสระตกลงสู่กับดักหลุมที่สาม... ที่ใต้หลุมนั้นมีสิ่งแหลมคมทิ่มตำฝ่าเท้า

ใต้หลุมนั้นเต็มไปด้วยกระบี่ คมกระบี่ชี้ตั้งขึ้น หากไม่ใช่เพราะพลังป้องกันภัยฉับพลัน ขาของเขาสมควรถูกเสียบทะลุ แต่ถึงกระนั้น เถาไปไปที่ไม่ทันระวังจึงถูกคมมีดทิ่มเท้าเข้าไปลึกถึงสองเซนฯ

“โอ้ ดูเหมือนเจ้าจะเลือกหลุมขวา ตอนนั้นข้าเดาไม่ถูกเลยว่าเจ้าจะเลือกกระโดดไปทางซ้ายหรือขวา... ดังนั้นข้าเลยวางกับดักไว้ทั้งสองข้าง หากเจ้าสงสัย เจ้าสามารถลองกระโดดเข้าหลุมทางซ้ายได้”

ตอนที่เย่หวูเฉินและเล่งหยาขุดหลุมแรก เย่หวูเฉินรู้ดีว่าเพียงหลุมเดียวไม่เพียงพอที่จะดักเถาไปไป ดังนั้นในเส้นทางเดียวกันเขาจึงขุดหลุมที่สองเพิ่ม แต่แค่สองหลุมย่อมไม่เพียงพอ ดังนั้นเขากับเล่งหยาจึงขุดหลุมซ้ายขวาถัดจากหลุมที่สอง หลังออกจากตกหลุมที่สองเถาไปไปสมควรเบี่ยงออกทางด้านข้าง สองหลุมแรกว่างเปล่าแต่หลุมด้านข้างใส่ของเอาไว้ แน่นอนว่าถ้าหากเถาไปไปเลือกที่จะไปข้างหน้า ก็ยังมีหลุมที่ห้ารอเขาอยู่ หากเขาเลือกไปข้างหน้าก็นับว่าดี แต่หากเขาเลือกไปด้านข้าง... นั่นนับว่าดีกว่า

หลุมทั้งหมดลึกประมาณสองเมตร เถาไปไปจึงตกลงไปมิดร่าง ได้ยินเสียงยินดีเพราะความโชคร้ายของตน ปอดของเขาแทบแตกด้วยโทสะ เขาตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวเกร็งเท้าทะยานร่างออกมาราวลูกศร เพ่งเล็งไปยังทางต้นเสียง ดึงกระบี่ออกมาปรี่เข้าหาเย่หวูเฉิน

เย่หวูเฉินหลบการโจมตี ด้วยความโกรธทำให้เถาไปไปเกร็งพลังทั้งหมดไว้ที่มือ ไม่ได้รวมพลังใดๆไว้ที่เท้า กลับกลายเป็นว่า เขาร่วงลงหลุมที่อยู่เบื้องหน้าของเย่หวูเฉิน ครั้งนี้เขาต้องเจ็บปวดเพราะถูกเสียบเข้าที่เท้าซ้าย

เย่หวูเฉินเมื่อครู่ยืนอยู่หน้าหลุมที่ห้า จากหลุมทั้งห้าเถาไปไปร่วงตกลงไปถึงสี่หลุม

เย่หวูเฉินยักไหล่พูดอย่างสงสาร “คุณชายเถาไปไป ข้าขุดหลุมด้วยความยากลำบาก และท่านร่วงลงไปแทบจะครบทุกหลุม หากท่านชอบพวกมันมากขนาดนั้น ข้าจะขุดให้ท่านสักร้อยแปดสิบหลุม ท่านเห็นเป็นเช่นไร?”

ขณะที่เขากล่าวคำ มือของเขาจับเชือกแล้วออกแรงดึง ท่อนไม้หนาขนาดครึ่งเมตรที่เล่งหยาเลื่อยไว้ร่วงลงมาสู่หลุม เย่หวูเฉินรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

ติดกับครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างแทบแผดเผาด้วยเพลิงโทสะ เถาไปไปเกร็งกำลังทะยานร่างขึ้นไป เพียงแต่... ต้องพบกับท่อนไม้ที่ร่วงลงมา ศีรษะของเขาราวกับถูกอัสนีลั่นในฉับพลัน ขณะที่ท่อนไม้ตกลงมาอย่างรุนแรง ร่างของเขาร่วงกลับลงไปดุจลูกศรและปะทะเข้ากับคมกระบี่ เขาถูกกระบี่เสียบถึงห้าแผล

“อ๊าก!!”

ตูมม!!

เสียงคำรามโหยหวนตามมาด้วยเสียงระเบิดหูดับ ผืนดินสั่นสะเทือนรุนแรงจนทำให้เย่หวูเฉินแทบก้าวสะดุดล้มลง เขาหันกลับไปมอง เห็นดินดำที่ถูกพลังมหาศาลขุดขึ้นมาด้วยสายตาโง่งม ต้นไม้จำนวนมากราบทลาย ขณะที่ท่อนไม้หนาถูกทำลายหายเป็นเศษชิ้น

เย่หวูเฉินหัวใจสั่นสะท้าน นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาเผชิญหน้ากับยอดฝีมือขอบเขตสวรรค์ จิตสังหารทำให้อากาศโดยรอบแปรปรวน ทำให้เขาตระหนักได้ว่าเถาไปไปโกรธจนถึงขีดสุด ดังนั้น ระหว่างพวกเขาสองคน คนใดคนหนึ่งจะต้องตกตาย!

หากว่าเถาไปไปยังมีชีวิต ต่อให้เย่หวูเฉินรักษาชีวิตเอาไว้ได้เขาก็ไม่อาจอยู่ได้อย่างสงบ



<<<PREV    .    NEXT>>>