วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 117

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 117 ทลายศาลาพันนักฆ่า

เมื่อเย่หวูเฉินจากไป ฉุ่ยเมิ่งฉานก็พรวดลุกขึ้นยืน เวลาเดียวกันนั้นมีเงาดำสองร่างปรากฎอยู่ข้างๆนาง ใบหน้าของพวกนางล้วนตื่นตระหนก

“องค์หญิง จริงหรือที่พวกนาง...” เหลย และ อวิ๋น ใบหน้าซีดขาว สตรีทั้งเจ็ดใต้บัญชาของฉุ่ยเมิ่งฉานต่างเป็นกำพร้า พวกนางพึ่งพากันและกันมาเป็นเวลายาวนาน ข่าวการตายของ ฟง , ฮั่ว , เสวี่ย และเยว่ เป็นดุจดั่งสายฟ้าฟาดลงมาจากท้องฟ้า

“พวกเจ้าจงไปตรวจสอบที่หอคอยปีศาจ... จงจำไว้ว่าห้ามเข้าไปข้างในหอคอยปีศาจเด็ดขาด” ฉุ่ยเมิ่งฉานกล่าว พยายามรักษาความสงบเยือกเย็น

“ค่ะ!” เหลย และ อวิ๋น ตอบคำและออกไปด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่มเป็นเพลิงเผา

เย่หวูเฉินพาหนิงเสวี่ยเดินเล่นวนไปตามท้องถนนสองรอบ เขาซื้อรองเท้าเจ้าหญิงสำหรับทงซิน รวมทั้งชุดชั้นใน , ถุงเท้า และอื่นๆ แน่นอนว่าทุกอย่างล้วนเป็นสีดำสนิท พลังที่ทงซินใช้คือความมืดและความตาย ตรงกันข้ามกับแสงสว่างและชีวิต ในขณะที่เขาเกิดความคิดประหลาด เขาก็เริ่มมองสำรวจหนิงเสวี่ย แต่เขาไม่สามารถสัมผัสถึงพลังใดๆ นางราวกับเด็กหญิงธรรมดาทั่วไป

ในเวลานี้เอง เย่ซีผู้อาภัพ ผู้ไม่รู้ว่าเย่หวูเฉินได้ออกไปข้างนอก เดินมาเคาะประตูห้องของเย่หวูเฉิน

“นายน้อย นายหญิงเรียกท่านให้ไปพบ”

ผ่านไปพักหนึ่ง ไร้เสียงตอบสนอง เย่ซีเคาะประตูอีกครั้งและกล่าว “นายน้อย นายหญิงอยากปรึกษาบางเรื่องกับท่าน”

ทงซินที่กำลังอาบน้ำอุ่นอย่างสบายใจ ในที่สุด สายตาของนางก็เย็นชาลง นางปลดปล่อยกลิ่นอายความตายอันไร้ตัวตน

ทันใดนั้น เย่ซีรู้สึกราวกับร่วงเข้าไปในถ้ำน้ำแข็ง เขารู้สึกเย็นเยียบตั้งแต่ผิวเข้าไปจนถึงอวัยวะภายใน เขารู้สึกได้เลือนรางถึงดวงตากระหายเลือด ที่ไม่ทราบว่าจ้องมองเขามาจากที่ใด นำพาความรู้สึกหวั่นกลัวถึงความตายอย่างรุนแรง

เย่ซีสั่นสะท้านไปทั้งร่างก่อนทรุดลงบนพื้น เขาผงะถอยกลับตะกุยคลานราวกับบ้าคลั่ง เมื่อเขาออกมาห่างได้ราวสิบเมตร ความรู้สึกน่าสยดสยองหายไปอย่างฉับพลัน เย่ซีหน้าซีดเผือดนอนแผ่หราบนพื้น หอบหายใจหัวใจเต้นรัวเป็นกลอง ราวกับพึ่งผ่านฝันร้ายมา

เย่ซีต้องล้มป่วยหนักไปอีกสามวันเพราะเหตุนี้

ผู้ร้ายทงซินกำลังใช้นิ้วซุกซนวาดผิวน้ำเล่น ใบหน้านางเผยรอยยิ้มไร้เดียงสาแสนเสน่ห์ดึงดูดผู้คน ดวงตานางบริสุทธิ์ไร้มลทิณ หากผู้ใดมาเห็นนางในเวลานี้ ย่อมไม่อาจทำใจเชื่อลงว่านางคือสตรีเทพพิโรธ ผู้ที่คนทั่วทั้งทวีปต่างหวาดกลัว

เมื่อเย่หวูเฉินและหนิงเสวี่ยกลับมาถึง เย่ซียังคงนานราบอยู่กับพื้น มีสภาพครึ่งตายด้วยใบหน้าซีดขาว เย่หวูเฉินตกใจในคราแรก แต่ต่อมาก็ตระหนักคาดเดาได้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น เขาไม่อาจทำสิ่งใดได้นอกจากเรียกเย่บามาพาเย่ซีไปพัก ขนาดเย่หวูเฉินผู้มีจิตใจหนักแน่น ยามเผชิญกับดวงตาทมิฬยังเกิดความรู้สึกหวาดกลัวเกินจินตนาการ ดังนั้นเย่ซีย่อมมีสภาพเลวร้ายยิ่งกว่านั้น

ทั่วทั้งทวีปเทียนเฉิน ไม่มีผู้ใดมีจิตสังหารเหนือล้ำกว่านาง เพราะไม่มีใครสังหารผู้คนมากมายเท่ากับนาง

และนับแต่นี้ สตรีเทพพิโรธทงซินจะอยู่ข้างกายเย่หวูเฉิน เป็นผู้ปกปักษ์และกระบี่คมกล้า ต่อให้ธิดาแห่งเทพผู้ถูกสาบจดจำอดีตของตน นางก็จะไม่มีวันไปจากเย่หวูเฉิน บุรุษผู้ประทับภาพ ผนึกไว้ในส่วนลึกที่สุดของวิญญาณนาง

..............................

บ้านหมอกฝัน

เหลย และ อวิ๋น กลับมาพร้อมทั้งน้ำตานอง น้ำเสียงนางโศกเศร้าและสั่นเครือ พวกนางรายงานสิ่งที่พบกับฉุ่ยเมิ่งฉาน

พื้นดินเต็มไปด้วยโลหิต , อาวุธของเถาไปไป , กระบี่ของสำนักจักรพรรดิใต้ รวมไปถึงหลุมลึกสุดหยั่ง ทุกสิ่งพิสูจณ์ชี้ว่าเย่หวูเฉินไม่ได้โกหก ไม่ว่าจะเป็นเถาไปไปหรือสตรีทั้งสี่นาง ฟง , ฮั่ว , เสวี่ย และเยว่ ต่างล้วนตกตายทั้งหมด

“รุนแรงถึงเพียงนั้นจริงๆ?”

“ค่ะ... ดูจากดินแล้ว หลุมนั้นเหมือนพึ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน ยิ่งกว่านั้น มันยังลึกจนกระทั่งพวกเราไม่อาจหยั่งถึง ความเสียหายระดับนี้มีเพียงท่านประมุขจึงจะสามารถทำได้ ด้วยพลังเช่นนี้ การสังหารเถาไปไปย่อมเป็นเรื่องง่ายอย่างยิ่ง” เหลย กล่าวขณะที่พยายามรั้งน้ำตาไว้อย่างยากลำบาก สำหรับพวกนาง การสูญเสียพี่สาวน้องสาวในคราเดียว พวกนางแทบไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้

“องค์หญิง ข้าสงสัยว่าเย่หวูเฉินจะใช้ยุทธภัณฑ์ชั้นเทพสังหารพวกนางพร้อมกับเถาไปไป! ไม่อย่างนั้น เหตุใดพวกเราจึงหาศพของพวกนางไม่พบ? เย่หวูเฉินบอกว่าเขาฝังร่างของพวกนางไว้ด้วยกัน... บางทีนั่นอาจเป็นเรื่องที่เขากุขึ้นมา!” อวิ๋น กล่าวขณะกัดฟัน พวกนางเชื่อเรื่อง “ยุทธภัณฑ์ชั้นเทพ” ที่เย่หวูเฉินได้อธิบาย เพราะนอกจากเหตุผลนี้แล้ว พวกนางก็เชื่อไม่ลงว่าเย่หวูเฉินจะมีวิธีอื่นที่สามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงได้ถึงเพียงนี้ สำหรับคนที่สังหาร ฟง , ฮั่ว , เสวี่ย และเยว่ พวกนางเกลียดมันผู้นั้นเข้าลึกถึงกระดูกดำ!

ฉุ่ยเมิ่งฉานเงียบงัน แต่จากนั้นนางส่ายศีรษะ “เหตุใดเขาต้องทำเช่นนั้นในเมื่อมันไม่ส่งผลดีใดๆต่อเขา? เขาฉลาดหลักแหลม รวมทั้งยังไม่มีเรื่องขัดแย้งใดๆกับสำนักจักรพรรดิใต้ของพวกเรา เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะก่อเรื่องสร้างความแค้นกับพวกเรา”

นางไม่ได้กล่าวต่อ ว่าแม้เขาจะเป็นคนลงมือจริงๆ แต่เพื่อกระบี่หนานฮวงแล้วพวกนางจะทำเป็นเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น สำนักจักรพรรดิใต้ยอมได้ทุกสิ่งเพื่อกระบี่หนานฮวง พวกเขาไม่กลัวภัยคุกคามใดๆต่อสำนัก แต่พวกเขาไม่อาจยอมให้มีภัยคุกคามใดๆต่อกระบี่หนานฮวง

“เหลย , อวิ๋น รีบส่งข่าวนี้ไปถึงน้องชายข้า บอกเขาทุกอย่างรวมทั้งบอกให้เขากำจัดศาลาพันนักฆ่า ล้างบางอย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว ยิ่งเร็วยิ่งดี”

ถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังโพล่งออกมาจากปากนาง น้ำเสียงชวนฝันยังคงนุ่มนวลราวกับสายลม แต่สายลมนั้นเย็นเยียบเสียดถึงกระดูก

“ค่ะ!”

แม้ว่าสตรีทั้งสอง เหลย และ อวิ๋น จะต้องการกำจัดศาลาพันนักฆ่าด้วยตัวเองเพื่อล้างแค้นให้พี่น้อง พวกนางก็ยังต้องระงับตัวเองไว้ เพราะไม่มีสิ่งใดสำคัญมากไปกว่าการปกป้องและรับใช้องค์หญิงของพวกนาง

หลังจากนั้นเจ็ดวัน ข่าวเรื่องศาลาพันนักฆ่าถูกทลายราบหายไปอย่างไร้ร่องรอยได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งอาณาจักรเทียนหลง ทวีปเทียนเฉินต่างคาดเดาว่าเป็นขุมกำลังใดที่มีพลังถึงเพียงนั้น

ด้วยการใช้กระบี่หนานฮวงเป็นเหยื่อล่อ เย่หวูเฉินจึงสามารถยืมมือสำนักจักรพรรดิใต้ให้กำจัดศาลาพันนักฆ่าผู้ที่ต้องการพรากชีวิตของเขา

และสำหรับหลงหยิน... เย่หวูเฉินไม่ใช่คนที่จะลืมเรื่องราวได้ง่ายดาย ยิ่งศัตรูต้องการพรากชีวิตให้เขาตกตาย แต่สำหรับในเวลานี้ เขายังไม่อาจสังหารหลงหยินได้ เพราะหากจักรพรรดิตกตาย อาณาจักรต้าฟงย่อมกรีฑาทัพเข้ารุกรานในยามที่อาณาจักรเทียนหลงไร้ผู้นำ ความสงบสุขที่เขาปรารถนาย่อมพังทลายลง และผลลัพธ์เช่นนั้นเขาจะไม่ยอมปล่อยให้มันเกิดขึ้น แต่แค่ยังไม่อาจสังหารจักรพรรดิในตอนนี้ ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่กอบโกยผลกำไร

.......................

ในคฤหาสน์ตระกูลเย่ แสงไฟสว่างไสว

การอาบน้ำให้หนิงเสวี่ยทุกคืนก่อนเข้านอน กลายเป็นกิจวัตรประจำของเย่หวูเฉิน เป็นสิ่งที่น่ารื่นรมณ์ที่สุดของพวกเขาในทุกๆวัน ร่างกายของหนิงเสวี่ยไม่เคยทำให้เขาเกิดความปรารถนาหยาบช้าใดๆ มีเพียงความรักใคร่เท่านั้น ยามที่เขาลูบไล้ร่างของนางอย่างทะนุถนอม เหมือนราวกับสัมผัสสิ่งล้ำค่าที่ไม่อาจแยกจาก ไม่เหมือนกับความรักต่อคนในครอบครัวหรือต่อคนรัก เป็นความรักที่เกิดจากวิญญาณ ที่ประทับติดตรึงไม่มีวันลบเลือน

มันเกิดขึ้นในตอนนั้น ยามที่หนิงเสวี่ยหมดสิ้นหนทางถูกปฏิเสธโดยทุกผู้คน เย่หวูเฉินกอบกุมมือนางเอาไว้และสัญญาว่าจะปกป้องนางตลอดไป

ในช่วงเวลาที่ชีวิตของเย่หวูเฉินแขวนอยู่บนเส้นด้าย เป็นหนิงเสวี่ยที่เสี่ยงสละชีวิตเพื่อช่วยเขา

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับทงซินกลับให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

หนิงเสวี่ยตัวเปลือยเปล่านั้นสงบขณะอุ้มใส่อ่าง แต่ทงซิน... แววตานางตื่นเต้นขณะที่ถอดชุดออกและเห็นเย่หวูเฉินยืนทื่อทึ่ม นางกระโดดลงอ่างน้ำกระจาย มองเย่หวูเฉินด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ตัวเลยว่าร่างกายตัวเองมีผลต่อเขาแค่ไหน หลังจากแช่น้ำอุ่นในตอนบ่าย นางก็เริ่มชื่นชอบความรู้สึกนี้

เย่หวูเฉินใช้พลังใจเบือนสายตาออก มือบังจมูกแล้วหันกลับหลัง ชั่วขณะที่เห็นร่างของทงซิน เขาได้กลิ่นเลือดในจมูก แรงปรารถนาพลุ่งพล่านไปทั่วร่าง กระทั่งยามที่อกนุ่มของฮั่วฉุ่ยโหรวเผยต่อหน้าเขา ปฏิกิริยาก็ยังไม่รุนแรงเช่นนี้

นางไม่เพียงมีจิตสังหารเท่านั้น แต่ยังมีเสน่ห์สังหาร เย่หวูเฉินไม่เชื่อว่าจะมีชายใดต้านทานได้ยามที่นางเติบโต

“เสวี่ยเอ๋อร์ ช่วยพี่สาวของเจ้าไปก่อน... หลังจากอาบน้ำแล้ว ช่วยนางแต่งตัวแล้วค่อยเรียกข้า” เย่หวูเฉินรีบเดินออกจากห้องเพื่อไปสูดอากาศข้างนอก

เย่หนิงเสวี่ยส่งเสียงรับคำแม้ว่านางไม่ค่อยเข้าใจนัก นางถือขันน้ำ ยิ้มและกล่าว “พี่ทงซิน ท่านพี่อยากให้ข้าช่วยท่านอาบน้ำ”

อ่างอาบน้ำมีขนาดค่อนข้างใหญ่ เมื่อสาวน้อยสองคนอยู่ในอ่างจึงยังมีที่ว่างเหลือพอให้ไม่รู้สึกแออัดแต่อย่างใด อกของหนิงเสวี่ยพึ่งจะมีเล็กน้อย แต่อกของของทงซินมีขนาดพอสมควรแล้ว ก้อนเนื้อขาวได้รูปทรงสมบูรณ์แบบ สองเม็ดหยกอ่อนเยาว์ราวหน่อไม้แรกแตกกอ งดงามจนแทบหยุดลมหายใจ ผิวขาวมันวาวตัดกับผมสีดำ ผิวขาวแทบไม่ต่างกับผิวของหนิงเสวี่ย

ลมราตรีเย็นยะเยือกพัดเย่หวูเฉิน เพลิงราคะในท้องน้อยเริ่มสงบลงในที่สุด เสียงหัวเราะของหนิงเสวี่ยและเสียงเล่นน้ำของสองสาวดังมาให้ได้ยิน เขายิ้มและคิดว่าหากมีใครมาได้ยิน พวกเขาคงคิดว่าชื่อเสียง ‘เฒ่าหัวงู’ ของเขาคงเป็นเรื่องจริง

เขาเงยหน้าขึ้นมองฟ้า พระจันทร์ครึ่งเสี้ยวลอยเด่นสูง หลังจากนี้ไม่กี่วัน ก็จะเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงอีกครั้ง ฝันร้ายนั้นจะกลับมาหรือไม่?

วันนี้เป็นวันที่สิบ นับตั้งแต่ที่เขามาถึงเมืองเทียนหลง ระหว่างสิบวันนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย แต่เขาไม่ได้ทำสิ่งใดมากนัก ส่วนใหญ่เขารับมือโดยใช้สถานะบุตรชายตระกูลเย่ หลังจากนี้ไม่กี่วัน เขาจะสามารถเร่งชะตาที่สมควรเป็นของตน

“ท่านพี่ ข้าอาบน้ำให้พี่ทงซินเสร็จแล้ว!”

ไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ เสียงของหนิงเสวี่ยดังมาจากข้างในห้อง นางอาบน้ำให้ทงซินโดยใช้วิธีที่เย่หวูเฉินใช้กับนาง ลูบไล้อย่างอ่อนโยนไปตามเรือนร่างซ้ำๆหลายครา นางหัวเราะอย่างมีความสุข ราวกับได้ลูบเล่นตุ๊กตากระเบื้องที่น่ารัก

เย่หวูเฉินผลักประตูเข้าไปและพบว่าทงซินสวมอยู่ในชุดดำ เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก แม้ว่าทงซินจะอายุมากกว่ายี่สิบปีแน่ๆ และหากเขาเดาได้ถูกต้อง  อายุนางสมควรมากกว่าร้อยปี แต่ร่างกายของนางดูเหมือนอายุเกินสิบกว่าขวบ หากเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองและทำลายร่างของนาง... เขาย่อมไม่อาจทนแบกรับความรู้สึกผิดบาปในจิตใจ

[คำเตือนจากผู้แต่ง : ตอนต่อไปจะค่อนข้างอนาจารแต่ไม่ถึงกับร้ายแรง โดยเฉพาะจะมีเหตุเกิดจากโลลิลามก นักเรียนที่มีจิตใจบริสุทธิ์และซื่อตรงโปรดข้ามไปอย่าได้ลังเล]



<<<PREV    .    NEXT>>>