วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 93

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 93 ร่าเริงเกินควร

ถ้วยใบใหญ่เบื้องหน้าพวกเขาถูกเติมจนเต็ม เย่หวูเฉินใช้สองมือยกถ้วยขึ้นโดยไม่มีสุรากระฉอกหรือหกแม้แต่หยดเดียว “นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าดื่มกับผู้อาวุโสฮั่ว ดังนั้นข้าขอดื่มสุราถ้วยนี้ให้กับท่าน เพื่อแสดงความเคารพ!”

เขาเงยศีรษะไปข้างหลังแล้วดื่มลงไปอย่างไร้เสียง เพียงพริบตาเดียว สุราทั้งหมดก็ไหลผ่านลงลำคอ ไม่มีหกเลอะแม้แต่หยดเดียว ฮั่วฉุ่ยโหรวใจเต้นเมื่อเห็นภาพ เมื่อเย่หวูเฉินวางถ้วยลงก็ไม่เหลือสุราแม้แต่หยดเดียว เขายังคงมีสีหน้าปกติ ไม่แดงขึ้นแม้แต่เล็กน้อย มุมปากเขาดูคล้ายกำลังยกยิ้ม

รสสุราร้อนแรงแผดเผาลำคอลงสู่กระเพาะ ด้วยพลังหวูเฉินที่ใช้สลายฤทธิ์สุรา ทำให้เย่หวูเฉินแทบไม่ต่างอะไรกับการดื่มน้ำเปล่าหนึ่งถ้วย

“ประเสริฐ! ยอดเยี่ยม!” ฮั่วเจิ้นเทียนตบมือลงกับโต๊ะพร้อมกับอุทานด้วยความนับถือ เขาทำแบบเดียวกันกับถ้วยสุราของตนเอง ยกขึ้นดื่มเสียงดังแล้ววางถ้วยลง เขาเช็ดปากพร้อมจะเอาอีก มุมปากฉีกยิ้มและหัวเราะ “เจ้าหนู บิดาถูกใจเจ้ายิ่งนัก บัดซบ หากมารดาให้กำเนิดเจ้าเร็วกว่านี้สัก 20 ปี ข้าต้องกลายเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับเจ้าแน่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้....ฮี่ ฮี่ ฮี่ ฮี่ ข้าจะยอมรับคำว่า ‘อาวุโส’ วันนั้นที่ข้าให้เจ้าเรียกข้าว่า ‘เฒ่าฮั่ว’ เจ้าจงคิดเสียว่าเป็นแค่เรื่องไร้สาระ”

ฮั่วเจิ้นเทียนกัดฟันอยู่เงียบๆ...สหายน้อย คิดไม่ถึงว่าเจ้ากลับกล้าทำตัวเจ้าชู้ใส่ลูกสาวข้า เจ้าคิดว่าข้าตาบอดหรือยังไงกัน ข้าจะไม่เห็นพวกเจ้าสองคนลอบสบตากันได้อย่างไร?

แม้ว่านางจะเคยชินกับวิธีพูดหยาบระคายโสตของบิดา ฮั่วฉุ่ยโหรวก็ยังรู้สึกไม่สบายและปิดหูไว้ นางยกไหสุราเติมลงในถ้วยให้พวกเขาเป็นครั้งที่สอง เย่หวูเฉินยกถ้วยสุราขึ้นทันที กล่าวอย่างเป็นกันเอง “นี่เป็นครั้งแรกที่ข้ามาเยี่ยมเยือนยังตระกูลฮั่ว ในฐานะที่ข้าเป็นแขก ข้าขอดื่มสุราถ้วยนี้ให้กับท่าน”

“ฮ่าฮ่า ตกลง” ทั้งสองยกถ้วยสุราขึ้นซด ดื่มจนหมดในคราเดียว การดื่มแบบนี้เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนโง่งม โดยเฉพาะผู้ที่ใช้จอกสุราใบเล็กดื่มพร้อมกับแกล้ม

ฮั่วเจิ้นเทียนแทบรู้สึกชิงชังผู้คนที่ปฏิเสธสุราบนโต๊ะ เขาเคยพลิกโต๊ะคว่ำหลายครั้งด้วยเหตุผลนี้ เย่หวูเฉินที่ ‘กระตือรือล้น’ ทำให้เขาตะโกนอย่างร่าเริง ยิ่งดูจากสีหน้าของเย่หวูเฉินที่ยังไม่ฝาดแดงและหัวใจที่ยังไม่เต้นแรง แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถดื่มสุราได้เหนือล้ำเกินคนธรรมดา ฮั่วเจิ้นเทียนรู้สึกเสียใจที่ไม่พบเขาให้ไวกว่านี้ เขาต้องเสียโอกาสรื่นรมณ์ไปมากขนาดไหน?

หากแต่อีกไม่นานเขาจะรู้ซึ้งถึงผลลัพธ์ที่ร่าเริงเกินควร

สุราถูกรินใส่ถ้วยเย่หวูเฉินอีกครั้งหนึ่ง เขายกมันขึ้นอย่างรวดเร็ว “หลายวันก่อน ข้าใช้วิธีที่ค่อนข้างไม่เหมาะสมเอาชนะผู้อาวุโสฮั่ว ความรู้สึกผิดรบกวนข้าอยู่ข้างใน ดังนั้นข้าขอใช้สุราถ้วยนี้เพื่อขอขมาท่าน ผู้อาวุโสฮั่วโปรดอย่าได้ถือสา”

ฮั่วเจิ้นเทียนลูบหนวดของตน ดูรำคาญเล็กน้อย “ไม่เหมาะสมอย่างไร? เป็นความสามารถของเจ้าที่เอาชนะข้าได้ ข้าได้ยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว หากเจ้ายังพูดถึงมันอีก ข้าจะไม่สบอารมณ์! ข้าจะลงโทษเจ้าด้วยสุราถ้วยนี้ มา, ดื่ม!”

ยกถ้วยขึ้นแล้ววางลง จากนั้นเติมลงไปอีกครั้ง

“....ในวันนั้น ข้าโชคดีอย่างยิ่งที่ได้ผู้อาวุโสฮั่วช่วยไว้ ทำให้ข้าวาดภาพ ‘ดอกบัวคู่บนก้านเดียว’ ได้สำเร็จและเอาชนะหลินเสี่ยวแห่งตระกูลหลิน ข้าขอดื่มสุราถ้วยนี้ให้กับท่านเพื่อแสดงความขอบคุณ”

จากนั้น พวกเขาก็ดื่มลงไปอีกถ้วย

สี่ถ้วยผ่านไป ฮั่วเจิ้นเทียนเริ่มรู้สึกมึนงง สุราที่ฤทธิ์แรงและถ้วยใหญ่ถึงเพียงนี้ สำหรับคนธรรมดาเพียงสามารถดื่มได้ถ้วยเดียวก็นับว่าเป็นความสำเร็จอย่างยิ่ง ฮั่วเจิ้นเทียนสามารถใช้มือเดียวนับจำนวนคนที่ดื่มกับเขาได้สองถ้วย ไม่มีผู้ใดที่สามารถดื่มได้ถึงสามถ้วย ยกเว้นเย่หวูเฉินผู้นี้ที่ซัดไปแล้วสี่ถ้วย ยิ่งกว่านั้น เขายังดื่มต่อเนื่อง และทุกถ้วยล้วนยกดื่มในคราเดียว ด้วยวิธีการดื่มเช่นนี้ ถึงแม้เขาจะยังมีสติอยู่ได้ แต่ลำคอและกระเพาะของเขาย่อมถูกแผดเผา และไม่อาจทนอยู่ได้อย่างสบาย

แต่เย่หวูเฉินยังคงสงบเยือกเย็น เสียงหัวเราะยิ่งมายิ่งคล้ายจิ้งจอกน้อย ฮั่วเจิ้นเทียนถึงกับมองอย่างสงสัยว่าสุราลงถึงกระเพาะเขาหรือไม่

“ผู้อาวุโสฮั่วทุ่มเทความพยายามปกป้องอาณาจักรเทียนหลงของพวกเรา ทุกคนต่างทราบและนับถือเรื่องนี้ ข้าขอดื่มสุราถ้วยนี้ให้กับท่านเพื่อแสดงความนับถือ”

“ข้าขอดื่มสุราถ้วยนี้ให้กับท่าน แทนท่านปู่ของข้า....”

“ข้าขอดื่มสุราถ้วยนี้ให้กับท่าน แทนบิดาของข้า....”

“ข้าขอดื่มสุราถ้วยนี้ให้กับท่าน แทนมารดาของข้า....”

“ข้าขอดื่มสุราถ้วยนี้ให้กับท่าน แทนเย่ซี....”

.....................

“ผู้อาวุโสฮั่ว ความสามารถในการดื่มสุราของท่านช่างน่าอัศจรรย์นัก ข้ายิ่งนับถือท่านมากขึ้น ข้าขอดื่มสุราถ้วยนี้ให้กับท่านเพื่อแสดงความชื่นชม”

“.....อากาศวันนี้ช่างดีนัก ดังนั้นข้าขอดื่มสุราถ้วยนี้เพื่อแสดงความเคารพต่อมัน”

.....................

ลำดับอารมณ์ของฮั่วเจิ้นเทียน แรกสุดตื่นเต้น , ต่อมาตระหนก , จากนั้นสะพรึง ทั่วร่างของเขารู้สึกราวกับมีไฟลุกท่วม ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ศีรษะของเขามึนงงจนไม่อาจจำแนกทิศทาง ยามที่เย่หวูเฉินยกถ้วยถัดมา ร่างของเขาสั่นสะท้านตาเหลือกกลับหลัง เขาหมดสติล้มลงกับพื้นเสียงดัง

“ท่านพ่อ!” ฮั่วฉุ่ยโหรวส่งเสียงร้องอย่างตื่นตระหนก รีบเข้ามาช่วยพยุงเขา แต่น้ำหนักของฮั่วเจิ้นเทียนนั้นเหมือนกับแผ่นโลหะหนัก แม้ฮั่วฉุ่ยโหรวจะพยายามเท่าไหร่ก็ไม่สามารถขยับร่างเขาได้แม้แต่เพียงนิดเดียว เย่หวูเฉินหัวเราะและเดินไปอยู่เบื้องหน้าปลอบใจนาง “อย่าห่วงเลย ร่างกายของพ่อเจ้าไม่เหมือนกับคนทั่วไป สุรานี้อาจทำให้เขาหมดสติ แต่มันไม่อาจทำอันตรายใดๆต่อร่างกายเขาได้”

เย่หวูเฉินยื่นมือออกบังบนท้องของฮั่วเจิ้นเทียน ค่อยๆเคลื่อนฝ่ามือเป็นวง สลายฤทธิ์สุราในท้องลงครึ่งหนึ่ง ฮั่วฉุ่ยโหรวมองดูอย่างงุนงง เขาสลายความมึนเมาให้อย่างง่ายดายจากนั้นเดินกลับที่ นั่งยิ้มรอ

ตามที่คาดไว้ ฮั่วเจิ้นเทียนที่สลบหมดสติอยู่ฉับพลันก็ลืมตาตื่นยืนขึ้นพรวดตัวตรง ทำให้ฮั่วฉุ่ยโหรวที่ไม่ทันตั้งตัวต้องตกใจ นางตะโกนกล่าวอย่างกังวล “ท่านพ่อ?”

ฮั่วเจิ้นเทียนเหมือนไม่ได้ยินเสียงของนาง เขามองอย่างว่างเปล่าอยู่ชั่วขณะ จากนั้นหมุนตัวพร้อมขย้อนอย่างรุนแรง เขาอาเจียนพุ่งออกมาเลอะพื้นไปทั่ว กลิ่นสุราลอยอบอวลไปทั่วทั้งห้องโถง

หลังจากอาเจียนเสร็จ ฮั่วเจิ้นเทียนดูราวกับชายชราป่วย เขานั่งหมดสภาพบนเก้าอี้รอให้สมองโล่งขึ้น เขาหันมามองเย่หวูเฉินที่กำลังยิ้มแป้น ราวกับว่ากำลังมองตัววิตถาร

เย่หวูเฉินจับไหสุราที่ใกล้หมด แกว่งเล็กน้อยแล้วกล่าว “ยังพอมีเหลืออีกสองถ้วย ท่านอยากให้ข้าดื่มให้ท่านอีกสักถ้วยหรือไม่?”

ฮั่วเจิ้นเทียนแทบร่วงจากเก้าอี้ ไม่ว่าเขาจะชอบสุรามากเพียงใด หลังจากดื่มเกินขนาดถึงเพียงนี้ เขายังต้องใช้เวลาย่อยและอยู่ให้ห่างจากสุรา เขามาถึงจุดที่ว่า แค่คิดถึงคำว่า ‘สุรา’ ก็รู้สึกพะอืดพะอม เขารู้สึกเหมือนอยากอาเจียนออกมาอีกรอบ

สำหรับคนที่ไม่เคยเมาหรือพ่ายแพ้จากการดื่มมาตลอดหลายปี และยิ่งฮั่วเจิ้นเทียนชอบบังคับให้คนอื่นดื่ม เขาไม่อาจยอมรับความแพ้นี้ได้ง่ายๆ รวมทั้งไม่ยอมปฏิเสธ เขากัดฟันกล่าวคำลอดไรฟัน “เจ้าสัตว์ประหลาดน้อย ข้าจะดื่มกับเจ้าอีกครั้งหลังจากนี้อีกสิบปี”

“โอ้? เหตุใดจึงต้องเป็นอีกสิบปี?” เย่หวูเฉินถามด้วยความสงสัย

ฮั่วเจิ้นเทียนหน้าแดงก่ำและฝืนกระแอมไอ “สุราที่พวกเราดื่มใกล้หมดแล้ว นี่เป็นวันแรกที่เอามันออกมาดื่ม ความสามารถในการดื่มสุราของเจ้านับว่า....ดีทีเดียว บัดซบเจ้าฝึกฝนมาอย่างไร? อย่าบอกข้านะว่าเจ้าเริ่มดื่มสุราตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา?”

“........”

เปลี่ยนหัวข้อออกจากเรื่องดื่ม ฮั่วเจิ้นเทียนฉีกยิ้มหัวเราะ “สหายน้อยแห่งตระกูลเย่ เจ้าคงไม่ได้มาที่นี่แค่เพื่อดื่มกับข้าใช่หรือไม่?”

เย่หวูเฉินวางไหสุราลงกับพื้น “ผู้อาวุโสฮั่วสายตาเฉียบแหลมยิ่งนัก ข้าจะไม่ปิดบังอีกต่อไป ข้าไม่ได้มาที่นี่แค่เพียงเพื่อดื่มสุรากับท่าน แต่ยัง...” เขาหยุดชั่วขณะแล้วยิ้มให้ฮั่วฉุ่ยโหรวอย่างรักใคร่ นางก้มหน้าอายและหัวใจเริ่มเต้นแรง “มาหาท่านเพื่อเสนอการแต่งงาน”

“เสนอการแต่งงาน” ฮั่วเจิ้นเทียนเบิกตากว้าง ไม่อาจตอบสนองอยู่ชั่วขณะ หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ เขาตบโต๊ะแล้วยืนขึ้นตะโกน “ไม่มีทาง!”

“ทำไม?” เย่หวูเฉินเงยหน้าถาม ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มยิ่งทำให้ฮั่วเจิ้นเทียนอยากทุบเขาให้ร่วง ฮั่วเจิ้นเทียนถึงขนาดคำราม ทำให้ฮั่วฉุ่ยโหรวตัวสั่นรู้สึกเจ็บปวดไปถึงหัวใจ น้ำตานางเริ่มปริ่มออกมา

ฮั่วเจิ้นเทียนชี้หน้าเย่หวูเฉิน “แม้ว่าข้าจะแพ้พนันเจ้า และยังติดค้างเจ้าอยู่อีกสองเงื่อนไข ข้าเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้น ดังนั้นข้าจะไม่หนีหนี้! แต่ลูกสาวของข้าเป็นข้อยกเว้น! ชั่วชีวิตข้ามีลูกสาวแค่เพียงคนเดียว หากไม่มีนางทุกสิ่งล้วนไร้ความหมาย ข้าจะไม่ยอมให้ใครทำให้ลูกสาวข้าเสียใจ ลูกสาวข้าเห็นชอบเจ้าหนุ่มตระกูลหลินนั่นแล้ว นางบอกกับข้าเอง แม้ว่าข้าจะถูกใจเจ้าแต่หากลูกสาวข้าไม่ได้ชอบเจ้า ต่อให้เทพจักรพรรดิมาเสนองานแต่งข้าก็ไม่อนุญาต”

“ท่านพ่อ...” ฮั่วฉุ่ยโหรวเรียกเสียงเบา ดวงตานางยังเปียกชื้นแต่หัวใจของนางรู้สึกอบอุ่น

“ผู้อาวุโสฮั่ว ท่านหมายความว่าหากฉุ่ยโหรวชอบพอข้า ท่านจะไม่ลังเลยกเลิกงานหมั้นระหว่างตระกูลหลินและส่งเสริมความปรารถนาของพวกเราใช่หรือไม่?” เย่หวูเฉินถาม รอยยิ้มยิ่งหนาขึ้น

“เสียใจด้วยที่ลูกสาวข้าไม่ได้สนใจเจ้า” ฮั่วเจิ้นเทียนโบกมือ หาวและกล่าว “ข้าดื่มไปมากแล้ว ตอนนี้ข้าเริ่มรู้สึกง่วง สหายน้อย,เจ้ากลับบ้านไปซะ เลิกคิดไล่ตามลูกสาวข้าอีก ไม่เช่นนั้น แม้ว่าข้าจะถูกใจเจ้า ข้าก็ไม่ลังเลที่จะทุบตีเจ้าให้ร่วง”

“ท่านพ่อ!” ฮั่วฉุ่ยโหรวเริ่มกังวลมากขึ้นและเรียกออกไป

“โอ้? ยอดยาหยี เจ้ามีอะไรจะบอกบิดาของเจ้าหรือ?” ฮั่วเจินเทียนหันไปถามอย่างห่วงใย

เย่หวูเฉินยังคงยิ้มหากแต่ไม่กล่าวคำใด เขาเพียงแต่นั่งไม่เคลื่อนไหวลอบพอใจกับตนเอง ทำเป็นนิ่งไม่รู้เรื่อง และบังคับให้ เสี่ยวโหรวโหรว พูดด้วยตนเอง

“ข้า....... ข้า.......” ฮั่วฉุ่ยโหรวก้มศีรษะลง เหมือนสาวน้อยผู้ทำผิด นางพึมพำอย่างลังเล

“เกิดอะไรขึ้น ลูกสาว? พูดออกมาสิ? อ้อ....หรือว่าเพราะเขาอยู่ที่นี่เจ้าเลยไม่อายไม่กล้าพูด บิดาจะไล่เขาออกไปเดี๋ยวนี้” ฮั่วเจิ้นเทียนยกแขนแข็งแรงกำยำเตรียมทุบทีบางคนให้ร่วงลง

“อ๊า....อย่านะ!” ฮั่วฉุ่ยโหรวรีบไปยืนบังเขา รวมรวมความกล้ากล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ที่จริง...ที่จริงคนที่ข้าชอบก็คือเขา...”

ฮั่วฉุ่ยโหรวใช้พลังทั้งหมดเปล่งคำพูดออกไป นางหันร่างหนีปิดบังใบหน้าที่แดงก่ำและไม่คิดหันกลับมา เบื้องหลังนาง นางได้ยินเสียงหัวเราะกึ่งพอใจกึ่งร่าเริงดังมาจากฮั่วเจิ้นเทียน



<<<PREV    .    NEXT>>>