วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 119

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 119 ฮวงเอ๋อร์ผู้น่าสงสาร

เย่หวูเฉินไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาเป็น “พี่เลี้ยง” พาเด็กไปโรงเรียน ทั้งยังต้องคอยคุ้มกันและสอนวิชา ใครบอกให้นางมาเป็นว่าที่ภรรยาของเขา?....แม้ว่าเขาไม่อยากรับรู้ แต่ใครจะทราบว่าองค์หญิงเฟยฮวงคิดอะไรจึงยอมรับการแต่งงาน

เมื่อเย่หวูเฉินมาถึงวังหงส์เหิน นางกำนัลที่อยู่เบื้องหน้าเขารีบก้าวเข้าไปใกล้วังและตะโกนเสียงต่ำ “องค์หญิง เขามาแล้ว”

น้ำเสียงตื่นเต้นของหลงฮวงเอ๋อร์ดังมาจากข้างใน “พวกเจ้าทั้งหมดออกไปเดี๋ยวนี้ ห้ามใครอยู่ใกล้รอบบริเวณ ไม่ว่าพวกเจ้าได้ยินเสียงอะไรก็ห้ามเข้ามา!”

นางกำนัลรีบตอบคำ ในใจนางลอบยกย่องความกล้าหาญของว่าที่ราชบุตรเขยขององค์จักรพรรดิ ทุกๆครั้งที่องค์หญิงเฟยฮวงมีคำสั่งเช่นนี้ จะต้องมีบางคนโชคร้ายอย่างแน่นอน เมื่อไม่นานมานี้ องค์จักรพรรดิเชิญอาจารย์หลายคนมาให้สอนนาง พวกท่านเหล่านั้นต้องหมดสภาพน่าอนาถไปทีละคน องค์จักรพรรดิทำได้เพียงหัวเราะขื่น ทั้งยังไม่อาจดุด่านาง

นางกำนัลก้มศีรษะต่ำตลอดเวลา ไม่กล้ามองที่เย่หวูเฉิน เสียงฝีเท้าเร่งรีบอย่างเห็นได้ชัด เมื่อนางนำเย่หวูเฉินมาถึงประตูวังหงส์เหิน นางโค้งคำนับและกล่าวเสียงเบา “คุณชาย องค์หญิงรอท่านอยู่ด้านใน บ่าวขอตัว”

พูดจบนางก็รีบจากไปโดยไม่รอคำตอบจากเย่หวูเฉิน เห็นได้ชัดว่าเป็นการรีบหนี

เย่หวูเฉินส่ายศีรษะรู้สึกขบขัน เขาตรงไปที่ประตูแล้วเคาะ “องค์หญิง หวูเฉินมาถึงแล้ว”

“เข้ามา รีบเข้ามาเร็ว!” องค์หญิงเฟยฮวงตอบกลับทันที น้ำเสียงราวกับไม่อาจอดใจรอ

เมื่อมือของเย่หวูเฉินสัมผัสประตู เขาสัมผัสได้ถึงความเข้มข้นของธาตุน้ำอยู่ด้านบนศีรษะ มุมปากเขายกยิ้ม หลังจากระบุตำแหน่งที่ชัดเจน เขาเปิดปิดประตูอย่างรวดเร็ว จากนั้นผลักประตูอีกครั้ง เขาเคลื่อนไหวต่อเนื่องในเวลาสั้นๆ จากนั้นก้าวช้าๆเข้าไปข้างใน

ถังน้ำที่วางอยู่ด้านบน ตอนแรกมันตกลงมา แต่จากนั้นถูกประตูกระแทกปลิวเป็นวงโค้งสวย โชคร้ายที่มันบินไปทางองค์หญิงผู้กำลังตื่นเต้นและมีความสุข ยิ่งแย่หนักขณะที่มันบินมาอยู่ตรงศีรษะองค์หญิง มันเอียงเล็กน้อยทำให้น้ำเย็นรดราดองค์หญิงน้อยทั่วทั้งตัว หงส์เหินนางนี้กลายเป็นหงส์เปียกน้ำตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
[โน๊ต: เฟยฮวง แปลว่า หงส์เหิน นอกจากนั้นคำว่าฮวงยังมีคำพ้องเสียงที่หมายถึงจักรพรรดิ]

เย่หวูเฉินมีสีหน้าแปลกใจ เดินผ่านพื้นที่มีลูกปัดแก้วโปรยไว้อย่างสบายใจ ราวกับเดินบนพื้นราบธรรมดา วิ่งไปหาองค์หญิงเฟยฮวงแล้วถามอย่างกังวล “องค์หญิง ทำไมท่านถึงตัวเปียกอย่างนี้? พวกเราจะทำอย่างไรหากท่านเป็นหวัด?”

องค์หญิงเฟยฮวงตัวสั่นเพราะน้ำเย็น พอได้ยินคำ นางกระพริบตาเจ็บใจแล้วร้องไห้ ในตอนนี้เอง มีลมเย็นเยียบพุ่งเข้าใส่เย่หวูเฉิน

เป็นงูลายพร้อยตัวยาวไม่เกินหนึ่งเมตร มันเป็นสัตว์เลี้ยงพิเศษขององค์หญิงเฟยฮวงชื่อว่าเสี่ยวหัว งูลายตัวนี้ถูกฝึกให้เชื่องด้วยผู้ฝึกสัตว์ที่ดีที่สุดของราชวัง และมันไม่กัดใคร เมื่อมันตกอยู่ในมือขององค์หญิงเฟยฮวง มันเรียนรู้วิธีแกล้งคนให้กลัวด้วยหลากหลายวิธี มันพุ่งตรงเข้าหาเย่หวูเฉินราวลูกศร อ้าปากกว้างเผยสองคมเขี้ยวที่เต็มไปด้วยพิษ เมื่อมันใช้วิชานี้แกล้งคน ผู้คนต่างเผ่นกระเจิง ขณะที่คนขวัญอ่อนเกือบสลบเพราะความกลัว

แต่เมื่อมันมาเจอกับเย่หวูเฉิน ความโชคร้ายได้มาเยือนมันพร้อมกับเจ้าของของมัน-หลงฮวงเอ๋อร์

เย่หวูเฉินสงบใจไม่เร่งรีบ ยื่นสองนิ้วออกคีบจับตรงจุดอ่อนของงูผู้โชคร้าย ร่างของงูลายชะงักค้าง ราวกับมันตกตายอย่างเฉียบพลัน จากนั้นร่างของมันอ่อนปวกเปียกลง เย่หวูเฉินยิ้มแฉ่งขณะหันหน้าเข้าหาองค์หญิงน้อยที่กำลังร้องไห้ เขากล่าว “ดูเหมือนองค์หญิงจะชอบเล่นกับงู เจ้างูลายตัวนี้มันมีชื่อหรือไม่?”

ขณะที่พูด เขาจับงูไว้โดยไม่ระวัง ขณะเดียวกันก็ก้าวเข้าหานาง งูที่ตัวอ่อนปวกเปียกจู่ๆก็ดิ้นพล่านโดยไม่ทราบสาเหตุ ปากมันอ้ากว้างอยู่มือของเย่หวูเฉิน เวลานี้มันเข้ามาใกล้ใบหน้าของหลงฮวงเอ๋อร์

ใบหน้าเล็กๆของหลงฮวงเอ๋อร์ซีดเผือด นางกลัวมากจนหยุดร้องไห้ แม้นางจะใช้งูตัวนี้แกล้งขู่ขวัญผู้คน แต่โดยปกติ นางจะให้นางกำนัลเป็นคนลงมือ นางไม่เคยกล้ามองไปที่มัน งูพิษเช่นนี้ไม่ถูกกับสตรี คมเขี้ยวพิษที่เข้ามาใกล้ทำให้นางหวาดกลัว และแล้วนางก็กรีดร้องเสียงดัง จากนั้นวิ่งออกไปด้วยชุดที่เปียก นางเหยียบลูกปัดแก้วตรงหน้าประตู แล้วลื่นล้มก้นน้อยๆจ้ำเบ้าลงกับพื้น ความเจ็บปวดทำให้นางร้องไห้เสียงดังอีกครั้ง

หากเป็นก่อนหน้า เสียงร้องไห้ขององค์หญิงน้อยย่อมทำให้องครักษ์ที่อยู่ใกล้ๆตกใจและวิ่งเข้ามา โชคร้ายที่นางสั่งไว้ก่อน ว่าต่อให้มีเสียงใดๆก็ห้ามให้ใครเข้ามา ดังนั้นนางจึงได้แต่ร้องไห้โดยไร้คนช่วย

เย่หวูเฉินรีบเข้าไปหานาง ประคองนางขึ้นและถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล “องค์หญิง เกิดอะไรขึ้น? ทำไมท่านถึงวิ่งหนีข้า? อย่างไรเสีย พระบิดาของท่านก็ยกท่านให้ข้าแล้ว”

ก่อนที่หลงฮวงเอ๋อร์จะได้พูด นางรู้สึกถึงบางสิ่งที่ลื่นอยู่บนมือ นางหันไปมองและหวาดผวาทันที นางกรีดร้องเพราะสิ่งที่เห็น งูลายตัวนั้นกำลังดิ้นรนพันรอบมือนาง

“รีบโยนมันออกไปที... ข้ากลัวงู ข้ากลัวงู... ฮือ....”

นอกจากตกใจและหวาดกลัว หลงฮวงเอ๋อร์ไม่อาจรับมือและทำสิ่งใด ใบหน้านางนองไปด้วยน้ำตา ราวกับคนเพิ่งอกหักมา ผมเผ้าและร่างกายเปียกปอนไปด้วยน้ำ สภาพนางตอนนี้ดูน่าอนาถ

เย่หวูเฉินเหลือบแลดูงูลายในมือ และถามอย่างงุนงง “โอ้? นี่ไม่ใช่งูสัตว์เลี้ยงของท่านหรอกหรือ? อย่าบอกนะว่างูตัวนี้ไม่ใช่ของท่าน?”

“ไม่...ไม่... รีบโยนมันออกไปเร็ว!” หลงฮวงเอ๋อร์ตะโกนด้วยความตระหนก  นางซุกร่างอยู่ในอกของเย่หวูเฉิน เพื่อขับไล่ความหนาวเย็นจากร่างกาย และขับไล่ความหวาดกลัวออกจากจิตใจ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งแรกที่นางต้องทุกข์ระทมเช่นนี้

เย่หวูเฉินขยับมือโยนงูผู้โชคร้ายลงบนพื้น จากนั้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม “องค์หญิง จริงๆแล้วงูไม่ใช่สัตว์น่ากลัว นอกจากนั้น มันยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าเพลิดเพลิน”

“เจ้า...เจ้าโกหก!”

“เอาละ ถ้าอย่างนั้นข้าจะเล่นกับมัน ท่านดูให้ดี” เย่หวูเฉินจับนางหมุนตัว หันหน้าไปดูงูลายที่กำลังพยายามเลื้อยหนี เขายิ้มและพูดประหลาด “เอาละ จงขดตัวเป็นวงกลม”

ราวกับเสียงของเขามีพลังเวทย์มนต์ งูเริ่มขดเลื้อยเป็นวงกว้างขึ้น จนหัวมันกัดหาง จากนั้นขยับร่างจนกลายเป็นวงกลมสมบูรณ์ ปรากฎอยู่เบื้องหน้าองค์หญิงน้อย

“ท่านเห็นหรือยัง?”

หลงฮวงเอ๋อร์อ้าปากน้อยๆออกกว้าง จ้องมองตาโต นางประหลาดใจจนหยุดร้องไห้ และลืมความหนาวเย็นบนร่างกาย

“จงขดเป็นวงกลมสองวง”

มีแสงบางวาบผ่านดวงตาของเย่หวูเฉิน พลังวิญญาณของเขาสามารถชี้นำจิตใจของสิ่งมีชีวิตเรียบง่ายหรือของคนธรรมดาได้ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมบุคคลได้ทั้งร่างกาย แต่ควบคุมงูตัวเล็กๆนับว่าเป็นเรื่องที่ง่ายดาย

ร่างของงูลายขยับทันทีราวกับถูกควบคุม มันขดตัวเป็นรูปเลข 8

“เอาละ... จงขดเป็นรูปเรือ” เย่หวูเฉินยิ้มพึงใจ เมื่อเห็นสีหน้าตะลึงค้างของหลงฮวงเอ๋อร์

งูคลายตัวออก เหยียดหางชี้ตรง ลำตัวมันขยับเป็นรูปท้องเรือ

“เอาละ มาทำอะไรที่ยากกว่านี้กัน... จงขดเป็นรูปสี่เหลี่ยม”

“อืม เอาที่ยากกว่านี้อีก จงขดเป็นรูปห้าเหลี่ยม”

................

“ครั้งสุดท้าย จงขดเป็นรูปหัวใจ”

เมื่องูขดตัวเป็นรูปหัวใจ มันทรมานจนถึงจุดที่ว่า ขอตายดีกว่ามีชีวิตบัดซบ แววตาของหลงฮวงเอ๋อร์เปล่งประกายเจิดจ้า ราวกับดวงตาคู่นั้นคือสองดวงดารา สาวน้อยเช่นนางยังไม่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว จึงมักหลงใหลกับสิ่งแปลกใหม่ การแสดงของงูลายตัวนี้ช่างน่าสนใจสำหรับนาง และตอนนี้นางมองมันโดยไร้ความกลัว

“เป็นอย่างไร? สนุกหรือไม่?”

“มหัศจรรย์มาก แต่ว่า... เจ้าทำได้ยังไง? มันเข้าใจคำพูดของเจ้าได้อย่างไร?”

นางหันกลับมา และรู้สึกถึงความหนาวเย็นของร่างกายอีกครัง หนาวจนจามออกมา น้ำตาแทบจะไหล นางซุกร่างอยู่ในอกของเย่หวูเฉิน นางต้องการไออุ่นจากอกเขาอย่างไม่คิดชีวิต เพราะมันไม่ใช่แค่ความอบอุ่นธรรมดา เย่หวูเฉินใช้พลังแห่งธาตุไฟสร้างความอบอุ่นของอากาศทั่วร่างกาย ราวกับอากาศในฤดูร้อน

“ข้า...ไม่บอกท่านหรอก”

หลงฮวงเอ๋อร์เม้มปาก ดวงตาเริ่มพร่าไปด้วยน้ำ นางลืมไปแล้วว่าตนเองเป็นผู้ใช้งูลายแกล้งเย่หวูเฉิน นางใช้สองมือเกาะอกเขาไว้แน่นเพื่อไล่ความหนาวเย็นออกจากร่างกาย

เย่หวูเฉินใช้มือลูบเส้นผมนาง ใช้พลังของธาตุน้ำไล่น้ำทั้งหมดออกผม จากนั้นใช้กระแสลมอุ่นขับไล่ความหนาวเย็น มือของเขาเคลื่อนลงช้าๆ ค่อยๆไล่น้ำรวมทั้งความหนาวเย็นออกจากร่างกาย พร้อมกับดุนาง “องค์หญิง เรื่องน่าสนใจมีตั้งหลายอย่าง เหตุใดท่านถึงเลือกเล่นน้ำ? จะเป็นอย่างไรหากท่านเป็นหวัด?”

หลงฮวงเอ๋อร์จ้องมองสีหน้าว่างเปล่าขณะที่ถูกมือลูบร่างอันล้ำค่า นางลืมวิธีขัดขืนไปสิ้น นางอยากบอกว่าตนไม่ได้เล่นน้ำ แต่พอคิดอีกทีนางได้แต่ย่นจมูกลง นางสลัดความรู้สึกหดหู่ออกไปและกล่าวปากแข็ง “ข้า...ข้าชอบเล่นน้ำ เพราะว่าในวังไม่มีอะไรสนุกๆให้ทำ...”

“เป็นไปได้อย่างไร? ที่นี่มีเรื่องสนุกมากมาย ท่านแค่ยังไม่ค้นพบมัน ดูนี่”

เย่หวูเฉินยื่นมือซ้ายแล้วแบออกต่อหน้าหลงฮวงเอ๋อร์ มือของเขาว่างเปล่า เขากำมือช้าๆ จากนั้นเปิดออกอย่างรวดเร็ว บนฝ่ามือมีดอกไม้บาน ดอกไม้สีแดงเล็กๆที่พรมไปด้วยน้ำค้าง

ก่อนที่หลงฮวงเอ๋อร์จะทันได้แสดงความแปลกใจ เย่หวูเฉินก็กำมือแล้วเปิดออก มันกลับมาว่างเปล่าอีกครั้ง ดอกไม้บานงามกลับมาอีกคราเมื่อเขาปิดเปิดฝ่ามือ หลงฮวงเอ๋อร์ตาเป็นประกายราวกับดารา นางอดไม่ได้และยื่นมือออกไปจับมัน “นี่คือดอกเฟยฮวงที่อยู่ในสวนของข้าไม่ใช่หรือ?”

‘ดอกเฟยฮวง?’ องค์หญิงน้อยผู้นี้สมควรตั้งชื่อดอกไม้ตามชื่อของตน เย่หวูเฉินคิด

ตอนที่เขาผ่านสวนด้านหน้า เขาเด็ดมันออกมาแล้วเก็บไว้ในแหวนเทพกระบี่ เขาใช้คุณสมบัติง่ายๆของแหวนเทพกระบี่โดยไม่ต้องอาศัยกลอื่นใด แต่ ‘มายากล’ ธรรมดานี้ดึงดูดสายตาขององค์หญิงน้อยได้อย่างง่ายดาย



<<<PREV    .    NEXT>>>