วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 92

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 92 ดื่มอย่างเดียว

สำเร็จภารกิจ ทุกสิ่งเป็นไปอย่างราบลื่นเหมือนที่คาดการณ์ไว้ และหากมันไม่เป็นไปอย่างที่คิดก็แสดงว่าพลังล่วงรู้ของเขามีปัญหา ในวันที่หลงหยินให้เขาและหลินเสี่ยวแข่งวาดภาพ เขาทำให้ภาพวาดกลายเป็นของขวัญ เมื่อหลงหยินให้พวกเขาประชันขลุ่ยกัน เขาก็ถามหาขลุ่ย หากต้องแข่งร่ายบทกวี เขาจะทำให้ฮั่วฉุ่ยโหรวเป็นส่วนหนึ่งของบทกลอน ผลในวันนี้ล้วนมาจากการหว่านเมล็ดในวันวาน

เย่หวูเฉินดอดเข้าไปในห้องโถงหลักของตระกูลฮั่ว จากนั้นชงชาใส่กาและรอให้ฮั่วเจิ้นเทียนเทียนกลับมาอย่างสบายใจ

ฮั่วเจิ้นเทียนไม่ทำให้เขาต้องรอนาน หลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง ก็มีเสียงยามเฝ้าประตูตะโกนขึ้นมาว่า “นายท่าน” จากนั้นก็มีเสียงย่ำเท้าดังชัดตามมา เย่หวูเฉินวางถ้วยน้ำชาในมือลงแล้วเดินไปที่ประตู จากนั้นตะโกนใส่ฮั่วเจิ้นเทียนที่กำลังเดินมาทางนี้ “ผู้อาวุโสฮั่ว ผู้เยาว์มาหาท่านเพื่อทวงถามสุรา”

ฮั่วเจิ้นเทียนเบิกตาวัวดวงกว้าง ทั้งแปลกใจและไม่ทันตั้งตัวที่เย่หวูเฉินปรากฎตัวกะทันหัน เขาหัวเราะคำรามลั่นฟ้าทันที “ประเสริฐ! สหายน้อย! บิดากำลังกลัวว่าเจ้าจะลืมเรื่องที่รับปากไว้ก่อนหน้านี้ ข้าเกือบจะทนไม่ได้บุกไปลักพาตัวเจ้ามาจากบ้าน เป็นเวลานานหนักหนาที่ไม่มีใครร่วมดื่มสุราเปิดอกกับบิดาผู้นี้ ในเมื่อเจ้ามาถึงที่นี่แล้วด้วยตนเอง เช่นนั้นจงมาดื่มร่วมกับบิดาจนกว่าเจ้าจะจำมารดาของตนไม่ได้ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า....”

การมาของเย่หวูเฉินทำให้ฮั่วเจิ้นเทียนตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด จากที่เขากล่าวไม่มีผู้ใดกล้าดื่มกับเขา ฮั่วเจิ้นเทียนคอแข็งจนอยู่ในระดับที่น่าตะลึง ร่ำลือกันว่าเขาสามารถซดสุราราวกับหลุมไร้ก้น เหล่าคนที่ร่ำสุรากับเขาล้วนจบลงที่ความเมามาย เขาต้องผิดหวังเมื่อพวกเขาปฏิเสธสุราที่เขายื่นให้ ในเวลาต่อมา ผู้คนจึงเลิกดื่มกับเขา สำหรับคนที่รักสุราเป็นชีวิตจิตใจ เขาทำได้เพียงดื่มเพื่อตัวเอง

ยามเฝ้าประตูสองคนและคนรับใช้อีกหลายคนที่กำลังยุ่งอยู่หน้าลานต่างต้องตกตะลึงราวกับเห็นผี ไม่ว่าพวกเขาจะมองยังไง ก็ไม่อาจเห็นได้เลยว่าเย่หวูเฉินเข้ามาทางไหน...หรือว่าเขาโผล่ออกมาจากพื้นดิน?

เสียงกระทบดังขึ้นเมื่อฮั่วเจิ้นเทียนถือไหสุราใบใหญ่สองไหมาด้วยตนเอง เขาวางมันลงกับพื้นอย่างรุนแรง มุมปากเขาดึงรั้งยามที่ระเบิดเสียงหัวเราะ “เจ้าหนูตระกูลเย่ เจ้าชอบดื่มสุราชนิดใด?”

ท่านเอามาแล้วถึงค่อยถาม มันจะไม่สายไปหน่อยหรือ? เย่หวูเฉินลอบยักไหล่ จากนั้นยิ้มตอบ “ดื่มเปิดใจกับคนตรงไปตรงมาอย่างผู้อาวุโสฮั่ว แน่นอนว่าต้องใช้สุราที่แรงที่สุด”

ฮั่วเจิ้นเทียนหัวเราะลั่นเมื่อได้ฟังคำ เสียงหัวเราะดังจนเย่หวูเฉินที่อยู่ใกล้ๆรู้สึกสะเทือนจากแก้วหูถึงหัวกระโหลก เขาถึงกับนึกสงสารแก้วหูของ เสี่ยวโหรวโหรว ผู้น่ารักที่เขาพึ่งพิชิตมา “สหายน้อย รู้สึกว่าข้าเริ่มจะชอบเจ้ามากขึ้นแล้ว สองไหนี้คือสุรารสแรงที่สุดที่ข้ามี ‘ผู้กล้าเมามาย’ เจ้าถูกใจหรือไม่!?”

ฮั่วเจิ้นเทียนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อพบว่าเย่หวูเฉินพยักหน้ายิ้มอย่างง่ายดายยามที่เขาเห็นมัน เขาไม่กังวลกับไหสุราทั้งสอง ไม่มีแม้กระทั่งความหวาดกลัวใดๆ หลังจากความผิดหวัง เขาปรับอารมณ์เป็นร่าเริง ยิ้มร่าจนเห็นฟันทุกซี่ สายตาเร่าร้อนมองไปยังเย่หวูเฉิน ราวกับกำลังจ้องเหยื่อของตน หรือว่าสหายน้อยผู้นี้จะไม่ได้มีดีเพียงแค่หน้าตา , ความสามารถ , พรสวรรค์... แต่เก่งกาจในทุกด้านรวมถึงดื่มสุราด้วย? บัดซบ นี่มันเรียกว่าครอบจักรวาลแล้ว! แทบไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับเจ้าหนุ่มตระกูลหลินที่ล้มฟุบด้วยสุราแค่สองถ้วย!

เย่หวูเฉินได้กลิ่นสุราโดยไม่ทันตั้งใจ เขาพลันตระหนักในทันทีว่า “ผู้กล้าเมามาย” นั้นแรงกว่าสุราขาวที่เขารู้จักอยู่เล็กน้อย

สองบุรุษนั่งอยู่ตรงข้ามกัน ถ้วยสุราขนาดใหญ่สองใบกระแทกเสียงดังลงบนโต๊ะ นอกจากถ้วยสุราแล้วบนโต๊ะก็ไม่มีสิ่งอื่นใด ฮั่วเจิ้นเทียนต้องการดื่มสุรากับเขาอย่างเดียว กับแกล้มไม่ต้อง

ดื่มสุราถ้วยใหญ่ขนาดนี้ เย่หวูเฉินเคยเห็นแต่ในโทรทัศน์หรือจากนิยาย กระทั่งในอาณาจักรเทียนหลง ผู้ที่กล้าดื่มสุราถ้วยใหญ่ขนาดนี้ยังมีเพียงไม่กี่คน ประการแรกมีคนจำนวนน้อยที่สามารถดื่มสุราที่แรงและมากขนาดนี้ ประการที่สอง... ใช้สุราเช่นนี้ย่อมทำให้เสียอรรถรสและอารมณ์ อย่างไรก็ตาม สำหรับฮั่วเจิ้นเทียนแล้ว เขาเพียงแค่ดื่มมันไม่ได้ต้องการลิ้มรส

ฮั่วเจิ้นเทียนฉีกฝาครอบไหออก กลิ่นสุราถาโถมเข้าใส่จมูกทันที ก่อนที่จะรินสุรา เสียงฝีเท้าเบาและนุ่มนวลก้าวผ่านประตูเข้ามา ฮั่วฉุ่ยโหรวได้ยินเสียงบิดาที่กลับมา หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นางก็รำงับจิตใจแล้วออกจากห้อง เพียงพบว่าบิดากับเย่หวูเฉินกำลังจะเริ่มดวลสุรากัน

เมื่อเห็นเย่หวูเฉิน ฮั่วฉุ่ยโหรวพลันนึกถึงเรื่องที่เขารังแกนางอย่างทารุณ ทำให้ใบหน้าของนางพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงลามเลียไปถึงคอหิมะขาว ความเหนียมอายของนางยิ่งทำให้นางมองดูน่ารัก เย่หวูเฉินไม่อาจห้ามตนเองให้ถอนหายใจเบา หากเขาปล่อยให้สตรีเช่นนี้หลุดมือไป ย่อมต้องกลายเป็นเรื่องน่าเสียใจที่สุดของเขา

“ท่านพ่อ ท่านกลับมาแล้ว” ธิดาผู้เรียบร้อยก้มหน้ากล่าวคำด้วยความรู้สึกอายและกังวล นางยังไม่ทันรู้จักชายหนุ่มผู้นี้ คนที่ก้าวเข้ามาในหัวใจและขอนางแต่งไปเรียบร้อย

“ฮ่าฮ่า ยอดยาหยี เจ้ามาได้เวลา บิดาของเจ้าในที่สุดก็พบกับคนหนุ่มไม่กลัวตาย มาเร็ว มารินสุราให้พวกเรา ไม่ว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น ข้าก็จะต้องดื่มสุราเปิดใจ”

มองเห็นถ้วยสุราขนาดใหญ่สองใบวางอยู่บนโต๊ะว่างเปล่า ฮั่วฉุ่ยโหรวกระพริบตาปริบแล้วกล่าว “ท่านพ่อ ท่านจะเริ่มดื่มเลยหรือ?”

“แน่นอน!” ฮั่วเจิ้นเทียนกล่าวพร้อมกับตบหน้าท้องอย่างไม่อาจอดทนรอ

“แต่ว่า ถ้วยสุราใบใหญ่ขนาดนี้ เขา... เขา...” ฮั่วฉุ่ยโหรวกล่าวตะกุกตะกัก สายตาลอบมองเย่หวูเฉินครั้งแล้วครั้งเล่า นางรู้ถึงความสามารถในการดื่มสุราของบิดาตนและเริ่มเป็นห่วงเย่หวูเฉิน ยิ่งกว่านั้น เห็นได้ชัดว่าบิดาของนางคิดแต่จะดื่มอย่างเดียว แม้บิดานางจะดื่มไหว แต่คนทั่วไปย่อมไม่อาจทานทน...ร่างกายเขาจะต้องบาดเจ็บอย่างแน่นอน

ฮั่วเจิ้นเทียนหรี่ตาลง หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ “ยอดยาหยีของข้า หลายปีมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าเป็นกังวลแทนคนอื่น อย่าห่วงไปเลย ข้ารู้ว่าสหายน้อยผู้นี้ย่อมไม่ใช่พวกขี้แพ้ ฟังจากเสียงหัวเราะเหลี่ยมจัด เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่พวกคออ่อน บางทีเขาอาจวางแผนมอมสุราให้ข้าเมา...ฮี่ฮี่! ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะทำได้หรอก”

“ผู้อาวุโสฮั่ว ท่านกล่าววาจาหนักเกินไปแล้ว ความสามารถในการดื่มสุราของข้านับว่าต่ำต้อย ข้าจะเทียบกับผู้อาวุโสฮั่วได้อย่างไร? ข้ามาที่นี่เพราะข้อตกลงของพวกเรา ข้าเกรงว่าจะต้องกลับบ้านขณะที่ยังหลับหมดสติ” เย่หวูเฉินหัวเราะ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มทำให้ฮั่วเจิ้นเทียนรู้สึกอยากทุบให้ร่วง... นี่มันใช่ใบหน้าของคนที่กำลังกลัวว่าจะเมากลับบ้านไม่ได้สติหรือ?!

ฮั่วฉุ่ยโหรวลอบมองเย่หวูเฉินอีกครา เขายิ้มตรงมุมปากให้นางเล็กน้อยเพื่อที่นางจะได้ผ่อนคลายลงบ้าง ฮั่วฉุ่ยโหรวเบือนศีรษะหนีราวกับถูกไฟดูด จากนั้นลอบมองสีหน้าของบิดาลับๆล่อๆ กลัวว่าเขาจะเห็นความผิดปรกติระหว่างนางกับเย่หวูเฉิน แม้ว่านางได้ตัดสินใจมอบร่างกายและหัวใจให้เป็นของเขา แต่นางผู้เป็นสตรีที่รักจารีตนิยม ก็ยังคงมีเศษความรู้สึกผิดอยู่ ราวกับว่านางได้กลืนกินผลไม้ต้องห้ามลงไป



<<<PREV    .    NEXT>>>