วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 444

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 444 พลังไร้ต้านของเต่าดำ (2)

ขณะต่อมา เหยียนเทียนเว่ยและเหยียนต้วนชางหันศีรษะมองมาที่เย่หวูเฉิน แววตาของทั้งคู่ตื่นเต้นราวกับเห็นเทวา.... เทิดทูนและยอมรับ พวกเขาเชื่อว่าวัตถุน่ากลัวที่เย่หวูเฉินขว้างใส่อสูรมังกรม่วงจนปลิวกระเด็น.... คือบางอย่างที่คล้ายระเบิด

เย่หวูเฉินระเบิดเสียงหัวเราะ หัวใจผ่อนคลายเต็มที่และยิ้มกล่าว “นั่นคือสหายใหม่ของข้าเอง”

สหาย?

อสูรมังกรม่วงถูกกระแทกจนปลิว เต่าดำน้อยกระเด็นด้วยแรงสะท้อนเช่นกัน เวลานี้มันร่วงลงจากอากาศ ตกลงมาอยู่ใกล้ๆเท้าของเย่หวูเฉิน หลังกระดองคว่ำลงพื้นดิน เท้าทั้งสี่ชี้ขึ้นฟ้า เป็นเวลาครู่หนึ่งที่แน่นึ่งไม่ไหวติง.... การกระแทกคือการโจมตีที่น่ากลัวสุดของเต่าดำ แรงกระแทกของเต่าดำตัวเต็มวัยสามารถถล่มทั้งเมืองได้ เต่าดำน้อยถูกขว้างออกไปกะทันหัน มันจึงไม่ทันได้ปรับท่าทาง หัวของมันพุ่งกระแทกโดยตรง ถึงตอนนี้มันยังคงมึนงงเห็นดาวระยิบระยับ

“ทำได้ดีมาก เต่าดำน้อย” เย่หวูเฉินชื่นชมด้วยความประทับใจ ภาพเมื่อครู่ทำให้เขาตกตะลึงและดีใจเป็นอย่างยิ่ง เขาคิดไม่ถึงว่าการโจมตีจนตรอกนี้กลับให้ผลลัพธ์น่าอัศจรรย์

อย่างไรเสียเต่าดำก็คือเต่าดำ ขอบเขตศักดิ์สิทธิ์อย่างไรก็เหนือกว่าขอบเขตเหนือเทพขั้นสูงสุด!

พอได้ยินเสียงยกย่อง เต่าดำน้อยก็ตื่นขึ้นจากการไปเยี่ยมดาวศุกร์ทันที ขยับขาทั้งสี่กระดุกกระดิกอย่างตื่นเต้น แต่ทว่า.... มันหงายท้องอยู่ ต่อให้ตะกายขาครึ่งวันก็ไม่อาจพลิกร่างได้

“นี่มัน.... นายท่าน เมื่อครู่นี้.... เป็นมันหรือ?” เหยียนเทียนเว่ยและเหยีนต้วนชางมองดูเต่าตัวเล็กๆที่อยู่บนพื้นเพียงตัวเดียว.... หากมันไม่ยื่นคอออกมา ลักษณะของมันก็แทบไม่ต่างจากเต่าทั่วไป

พวกเขาไม่อาจเชื่อลง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจเชื่อลงได้

สิ่งมีชีวิตขนาดตัวเท่าฝ่ามือ กลับสามารถกระแทกอสูรเหนือเทพตัวเท่าภูเขาให้ปลิวไปได้!?

จะเป็นไปได้ยังไง!

ยิ่งกว่านั้น จากสภาพของมันที่หงายท้องตะกายขา มีส่วนไหนของมันที่ดูน่าเกรงขาม

“ปาตู้ว.... ปาตู้ว....” เต่าดำน้อยดิ้นขาสักครึ่งวันก็คงไม่อาจพลิกร่างตัวเอง มันจึงส่งเสียงกระวนกระวายอย่างน่าสงสารขอความช่วยเหลือ

เย่หวูเฉินใช้เท้าสะกิดมันนิดหนึ่งให้พลิกตัวกลับ ฉับพลันนั้น ที่ระยะไกลๆมีเสียงคำรามลั่น พร้อมกับสายฟ้าลำใหญ่ขนาดหลายเมตรโจมตีมาทางอากาศ.... เหยียนเทียนเว่ยและเหยียนต้วนชางหัวใจหดวูบ ทว่าพวกเขาไม่ได้ตั้งท่าเข้าต้านรับ เวลานั้นเองเต่าดำน้อยดีดขาทั้งสี่ข้าง ร่างเล็กๆกระโดดขึ้นสูงเหนือพื้นนับสิบเมตร แสงรัศมีสีน้ำตาลขยายออกอย่างรวดเร็ว ร่างไม่กี่เซนฯกลายเป็นร่างขนาดหลายเมตร

เปรี้ยง!!

สายฟ้าขนาดใหญ่ฟาดเข้าใส่กระดองของเต่าดำน้อย สายฟ้าสีม่วงแตกกระจัดกระจายในคราเดียว เต่าดำน้อยถูกแรงกระแทกปลิวกลับลงพื้น คราวนี้มันยืนอย่างมั่นคงและไร้บาดแผลใดๆ

พลังป้องกันของเต่าดำน้อยคู่ควรเรียกได้ว่าไร้ต้าน ในหมู่อสูรเซียนไร้เทียมทานทั้งห้า มันมีพลังป้องกันสูงสุด

แต่นี่ไม่ได้หมายถึงการโจมตีของมันจะอ่อนด้อย

หลังจากส่งสายฟ้าฟาด อสูรมังกรม่วงกลับมาปรากฎในเส้นสายตาอีกครั้ง ตามร่างกายของมัน เป็นเกล็ดพลอยม่วงที่ลุกชูชัน ยามนี้มังกรลดความกราดเกรี้ยวลงไปหลายส่วน แทนที่หลายส่วนด้วยความตื่นตกใจและหวาดกลัว

เต่าดำน้อยหันร่างและวิ่งไปที่อสูรมังกรม่วงทันที ธรรมดาเต่ามีความเร็วที่เชื่องช้า ทว่าตัวนี้กลับรวดเร็วดุจสายฟ้า พริบตาเดียวก็วิ่งไปถึงอสูรมังกรม่วง เผชิญหน้าภัยคุกคามจากเต่าดำน้อย อสูรมังกรม่วงต้องชะงักเท้าทันที จากหยุดชะงักกลายเป็นถอยไปครึ่งก้าว เห็นได้ชัดว่ามันตกใจและหวาดกลัว

เต่าดำน้อยกระโดดขึ้นสูงเหนืออากาศกว่าร้อยเมตร การที่บินไม่ได้คือจุดด้อยข้อใหญ่ของเต่าดำ ทว่าพลังกระโดดของมันสามารถทดแทนได้ เมื่อมันลอยขึ้นไปถึงจุดสูงสุด มันอยู่เหนืออสูรมังกรม่วงพอดี มันเก็บขาทั้งสี่และหัวเข้ากระดอง ร่างกายหมุนเร็วจี๋ ร่วงตรงลงมาจากท้องฟ้า ขณะร่วงลงมันยังหมุนเร็วขึ้น เกิดเป็นพายุทอร์นาโดตรงใส่หน้าผากของอสูรมังกรม่วง รัศมีสีน้ำตาลแผ่รอบร่าง ทำให้พายุทอร์นาโดดูใหญ่ขึ้นกว่าเดิมสองเท่า....

อสูรมังกรม่วงไม่ได้ขยับ กระทั่งหัวของมันก็ไม่ได้เงยขึ้น ทว่าไม่ใช่เพราะมันไม่อยากทำ แต่เพราะมันทำไม่ได้ ร่างของมันถูกพลังไร้ต้านล็อคตรึงไว้ จนทำให้มันไม่อาจขยับตัว

นี่คือท่ากระแทกแรงสุดของเต่าดำ ซึ่งไม่ใช่เพียงการกระแทกธรรมดา แต่ยังแฝงพลังตรึงที่ว่างน่าหวาดหวั่นตามมาด้วย เมื่อเป้าหมายถูกติดตรึง มีเพียงทำลายพลังตรึงที่ว่างนี้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็หมดหวังหลบเลี่ยง

การโจมตีครั้งนี้ บรรจุพลังปฐพีของเต่าดำ อสูรมังกรม่วงถูกกระแทกเข้าโดยตรง.....

ตูม!!!!!

นับจากก่อนหน้าจนถึงตอนนี้ นี่คือเสียงโหยหวนที่ดังสุดที่พวกเขาได้ยิน แผ่นดินถึงขีดจำกัดของมันในยามนี้ ผืนดินยกขึ้นสูงไม่ใช่แค่เพียงไม่กี่เมตร แต่เป็นสิบเมตร จนถึงร้อยเมตร และรัศมีแผ่ออกไปอีกหลายกิโลเมตร

ความรู้สึกที่เหยียนเทียนเว่ยและเหยียนต้วนชางสัมผัสได้ ก่อนหน้าตอนที่เย่หวูเฉินขว้างเต่าดำน้อยให้บินไปในอากาศยังไม่ได้น่าหวั่นเกรงถึงเพียงนี้ ทว่าเวลานี้ธาตุปฐพีมหาศาลได้สร้างแรงระเบิดที่เหนือคำบรรยาย ภาพตรงหน้ากลายเป็นแผ่นผืนดำ ทรวงอกรู้สึกอัดอัด คลื่นพลังที่แผ่มาถึงทำให้พวกเขาที่ลอยร่างขึ้นกลางอากาศแทบไม่อาจทรงตัว

สายตามองไปยังพื้นดินอันห่างไกล ที่นอนหมอบอยู่บนพื้นไกลๆคือเต่าดำ รัศมีสีน้ำตาลยังคงอยู่ ร่างอันเทอะทะเหมือนจะบอกว่าข้าเก่งกาจเพียงใด ขณะที่อสูรมังกรม่วงกลับหายไป.... ด้วยพลังจิตสัมผัส เย่หวูเฉินต้องตื่นตกใจ เนื่องจากพบว่าอสูรมังกรม่วงอยู่ที่พื้นใต้ร่างของเต่าดำน้อย เพียงการกระแทกทีเดียว มังกรมหึมากลับถูกอัดจมอยู่ใต้ดิน

“มังกรตัวนั้นล่ะ?” เหยียนเทียนเว่ยถาม

“อยู่ใต้พื้นดิน”

“.....เต่าตัวนั้น มันคืออะไรกัน?” หลังจากทำผืนโลกพังทลาย ไหนเลยพวกเขาจะสงสัยในพลังของเต่าดำน้อยอีก ขณะที่ตื่นตะลึงพวกเขาได้แต่อุทาน : ข้างกายนายท่านไม่เพียงมีคนแกร่งกล้าหลายคน กระทั่งสัตว์อสูรยังทรงพลังเหนือคาด ไม่เพียงจิ้งจอกน้อยที่สามารถกลายร่างเป็นสาวน้อยตัวเล็กๆ จะมีพลังมิติอันน่าเหลือเชื่อ แต่เต่าเล็กๆตัวนี้ยัง.... พลังของมันกลับเหนือกว่าอสูรมังกรม่วง!

มันมีต้นกำเนิดมาจากไหน!

“มันเรียกว่าเต่าดำน้อย เป็นสหายใหม่ที่ข้าเพิ่งพบ” เย่หวูเฉินกล่าวตอบ

การโจมตีของเต่าดำน้อย แท้จริงแล้วมันต้องการโอ้อวดให้กับเจ้านายน้อยที่พลัดพรากจากมันไปนาน เพื่อสร้างความดีความชอบ ผลลัพธ์คือมันสร้างแรงกระทบไม่ธรรมดา เมืองซื่อชุยที่อยู่ห่างออกไปนับสิบๆลี้ สถานที่ตั้งของสำนักมารสั่นสะเทือนอย่างหนัก เสียงโหยหวนของสัตว์อสูรมหึมายังดังก้องมาถึง ทำให้ผู้คนทั้งเมืองแตกตื่นโกลาหล ทว่ายังไม่ทันได้สงบลง แผ่นดินก็ไหวขึ้นอีกครั้ง บ้านเรือนบางหลังที่ชำรุดมาหลายปีได้ถล่มลง

อสูรมังกรม่วงที่จมอยู่ใต้พื้นดินพุ่งขึ้นมาด้วยความโกรธ เต่าดำน้อยที่อยู่บนตัวมันปลิวขึ้นฟ้า เมื่ออสูรมังกรม่วงตั้งกายยืนบนพื้น ตัวมันคล้ายไหวเอนโซเซ คอยาวที่เคยชูเชิดยามนี้ตกลง มันเขย่าหัว ยื่นกรงเล็บมังกรออกมา ฟาดสายฟ้าแลบลั่นใส่เต่าดำ เมื่อเต่าดำร่วงลงมาถึงพื้น มันก็กระทืบเท้าเข้าซ้ำ ย่ำลงบนกระดองแกร่งกล้าของเต่าดำ

เวลานี้เต่าดำน้อยถูกเหยียบย่ำอยู่บนพื้น ทว่าทันใดนั้น อสูรมังกรม่วงพลันคำรามลั่นด้วยความเจ็บปวด ผืนดินใต้ร่างมีหอกดินสีเทาพุ่งขึ้นมา ทลายเกราะป้องกันของอสูรมังกรม่วงปักสู่ร่างมัน ผืนดินถูกยกขึ้นด้วยพลังแห่งธาตุปฐพี ก้อนหินทุกแห่งถูกควบคุมให้พุ่งมายังอสูรมังกรม่วง....

ตูม....

ตูม....

ตูม....

การแสดงโชว์ของเจ้าตัวนี้ทำให้อสูรเหนือเทพแห่งทวีปเทียนเฉินไม่อาจทนรับได้ มันคืออสูรผู้บรรลุพลังเหนือเทพขั้นสูงสุด ทว่าอย่างไรมันย่อมไม่อาจต้านทานอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในวัยเด็กได้

พลังแกร่งกล้าของศัตรูทำให้อสูรมังกรม่วงต้องใช้พลังทั้งหมดออกมา ซึ่งเต่าดำน้อยก็มิได้เก็บยั้งพลังเช่นกัน การโจมตีของพวกมันสร้างหายนะแผ่วงกว้าง เย่หวูเฉินกับพวกสามคนที่ลอยอยู่กลางอากาศถูกคลื่นพลังผลักดันให้ล่าถอยไกลขึ้นเรื่อยๆ....

เย่หวูเฉินพลันสัมผัสได้ เขาหันศีรษะมองกลับไปยังทางทิศเหนือ มองจากอากาศไปยังทางนั้นหลายสิบลี้ นั่นคือที่ตั้งของเมืองซื่อชุยและเมืองชิงชุย ทั้งสองเมืองกำลังสั่นไหวเพราะการต่อสู้ของสัตว์อสูรสองตัว เขากดเสียงลง ตะโกนไปยังเต่าดำน้อย “อย่าตีกันที่นี่ ไปสู้กันที่ไกลๆ!”

และเพราะถ้อยคำเหล่านี้ของเย่หวูเฉิน ทำให้เมืองซื่อชุยและเมืองชิงชุยที่ควรกลายเป็นซากพังทลายจากการต่อสู้ของสัตว์อสูรสองตัว ได้รอดพ้นจากหายนะ

เต่าดำน้อยรับคำสั่งโดยไม่มีลังเล มันกระแทกอสูรมังกรม่วงปลิวไปไกลกว่าสองกิโลเมตร อสูรมังกรม่วงเพียงกำลังลุกขึ้นยืน เต่าดำน้อยก็วิ่งมากระแทกมันอีกครั้งอย่างรวดเร็ว มันปลิวไปทางใต้ไกลขึ้น....

ภายใต้การลากไปของเต่าดำน้อย เสียงต่อสู้ของสัตว์อสูรสองตัวยิ่งมายิ่งไกลขึ้น เหยียนเทียนเว่ยและเหยียนต้วนชางมองไปยังที่ห่างไกล เป็นเวลาเนิ่นนานที่ไร้คำพูด

“ด้วยพลังของเต่าดำน้อย มันเป็นฝ่ายมีเปรียบอยู่ตลอด ดูเหมือนคงไม่มีการพลิกกลับ” เหยียนต้วนชางกล่าวคำทำลายความเงียบ

“ไม่เสมอไป” เหยียนเทียนเว่ยมุ่นคิ้ว “อสูรมังกรม่วงอยู่มานานไม่รู้กี่ปี ส่วนเต่าดำน้อยมีขนาดร่างที่เล็กจ้อย บางทีมันคงตัวเล็กตั้งแต่เกิดมา แม้ว่าพลังของมันเหนือกว่าอสูรมังกรม่วง แต่ความอดทนของมันสมควรเป็นรอง แม้ว่ายามนี้มันเป็นฝ่ายมีเปรียบ แต่หากในระยะยาว....”

“วางใจเถอะ ความอดทนของเต่าดำน้อย สูงกว่าอสูรมังกรม่วงเช่นกัน” เย่หวูเฉินเสริมบทสนทนา เหยียนเทียนเว่ยมิได้กล่าวผิด ทว่าคำกล่าวนี้ไม่อาจใช้ได้กับเต่าดำน้อย เนื่องจากมันไม่ใช่สัตว์อสูรทั่วไป แต่เป็นอสูรเซียนผู้ครองพลังแห่งธาตุปฐพีขั้นสูงสุด

“ในเมื่อนายท่านกล่าวถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็ไม่น่าเป็นห่วงแล้ว” เหยียนเทียนเว่ยยิ้มพลางพยักหน้า

พลังปฐพีของเต่าดำน้อยและพลังสายฟ้าของอสูรมังกรม่วงประทะกันทุกกระบวน แรงกระแทกของเต่าดำน้อยทำให้ผืนดินในดินแดนสาบสูญสั่นไหว นำพาหายนะมาสู่ตอนเหนือของดินแดนสาบสูญ พฤกษาสวรรค์ต้นใหญ่นับไม่ถ้วนปลิวกระจัดกระจาย ไม่ทราบว่าสัตว์อสูรมากเพียงใดที่ตกตายจากลูกหลง พลังโจมตีของเต่าดำน้อยรุนแรงกว่าอสูรมังกรม่วงอย่างเห็นได้ชัด รูปแบบการโจมตียังมีหลากหลายกว่า ในด้านของการป้องกัน.... เต่าดำน้อยกินขาดหลายช่วงตัว หลังจากต่อสู้กันยาวนาน บาดแผลมากมายได้ปรากฎบนร่างของอสูรมังกรม่วง ทว่าเต่าดำน้อยยังคงไร้บาดแผล มีเพียงกระดองดำที่มีรอยเล็กน้อย และรอยนี้จางอย่างมาก

“พวกกงลั่วกำลังมาที่นี่.... พวกท่านรีบกลับไปก่อน บอกพวกเขาว่าอย่าเข้ามาใกล้ที่นี่” เย่หวูเฉินลอยร่างลง นำพวกเขามาส่งที่พื้นและกล่าว

“นายท่านคิดที่จะ....”

“ข้ายังมีเรื่องต้องทำอยู่ที่นี่ สาเหตุที่อสูรมังกรม่วงออกมาจากดินแดนสาบสูญ ข้าพอนึกบางอย่างออกแล้ว” เย่หวูเฉินกล่าว

“ตกลง นายท่านโปรดระวังตัวด้วย” เหยียนเทียนเว่ยและเหยียนต้วนชางไม่ประวิงเวลาอีก พวกเขาหันกายและตรงไปยังทางเหนือ



<<<PREV    .    NEXT>>>