วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 356

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 356 คำสาปแห่งมิติและเวลา

“....พี่ชาย ข้าจับตาดูท่านมานานมากแล้ว ท่านเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม ข้าจึงไม่ควรเก็บท่านไว้ และควรจำกัดทิ้งทันที” เสี่ยวโม่ยังคงยิ้มบางอย่างเยียบเย็น คิ้วบางดุจพระจันทร์เสี้ยวยกขึ้นอย่างอ่อนโยน ด้วยพลังวิญญาณของนางที่ปลดปล่อยออกมา เวลานี้โลกสีขาวจึงเริ่มสั่นสะเทือน

“งั้นเจ้าพอบอกข้าได้หรือไม่ ว่าเหตุใดถึงต้องสังหารข้า?” สัมผัสได้ถึงมิติวิญญาณที่สั่นสะเทือน เย่หวูเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นกลับสู่ความสงบทันที แล้วถามอย่างอ่อนโยน

“ข้าบอกไปแล้ว.... เพราะพี่ชายเห็นสิ่งที่ไม่สมควรเห็น ดังนั้นข้าจึงต้องกำจัดท่าน” เสี่ยวโม่หัวเราะขณะตอบ

“ต้องกำจัดข้า? แต่ว่าน้องหญิง ด้วยพลังของเจ้า เห็นได้ชัดว่าเจ้าสามารถออกไปได้ทันที เหตุใดยังต้องเสียเวลากล่าวคำกับข้าอีก.... ที่จริงเจ้าไม่ได้อยากสังหารข้าใช่หรือไม่?” เย่หวูเฉินกล่าวบางเบา ด้วยพลังของเซียงเซียงในยามนี้ แม้ว่านางสามารถพาวิญญาณของเสี่ยวโม่เข้ามาในมิติวิญญาณได้โดยง่าย ทว่าเสี่ยวโม่มีพลังเหนือล้ำกว่าเซียงเซียงในตอนนี้อย่างมาก หากนางต้องการออกไป ย่อมเป็นเรื่องง่ายเหมือนปอกกล้วย

โลกสีขาวหยุดสั่นสะเทือน เสี่ยวโม่ลดคิ้วบางลง “พี่ชาย ท่านฉลาดจริงๆ เป็นความจริงที่ว่าข้าลังเลเล็กน้อยที่จะฆ่าท่าน.... รู้หรือไม่ว่าทำไม? เพราะท่านเป็นคนที่น่าสนใจอย่างยิ่ง สองคนนั้นติดตามอยู่ข้างกายท่าน ดังนั้นท่านต้องมีความลับมากมายซ่อนอยู่ในตัวแน่”

“เจ้าอยากรู้ความลับของข้าหรือไม่?” เย่หวูเฉินถาม

“ไม่อยากรู้”

“ถ้าอย่างนั้นน้องหญิง เจ้าบอกความลับของเจ้าให้ข้าได้หรือไม่?”

“ไม่ได้ ความลับของข้าห้ามผู้ใดรู้ พี่ชายรู้ความลับเล็กน้อยของข้าไปแล้ว ดังนั้นท่านจะต้องตาย” เสี่ยวโม่ยังคงยิ้มบาง น้ำเสียงยังคงเย็นเยียบไม่เปลี่ยน

“ความลับของเจ้า? ความลับที่ว่าเจ้าฆ่าพ่อแม่ตัวเองสินะ แล้วทำไมเจ้าต้องฆ่าพ่อแม่ตัวเองด้วยล่ะ?”

“เพราะว่าเมื่อฆ่าพวกเขาแล้ว ข้าจะได้หาพ่อแม่ใหม่”

“พ่อแม่ใหม่? ทำไมเจ้าถึงอยากหาพ่อแม่ใหม่?”

“ฮี่ ฮี่ ฮี่ ฮี่ เพราะว่าหากมีพ่อแม่ใหม่ ข้าจะสามารถสังหารพวกเขาได้อีกครั้ง” เสี่ยวโม่แหงนหน้าน้อยๆขึ้นกึ่งหนึ่ง ตอบกลับด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า ภายใต้รอยยิ้มดุจนางฟ้า วาจาที่กล่าวกลับเย็นเยียบน่าสะพรึง

เย่หวูเฉิน “......”

เขาเงียบงันและไม่จำเป็นต้องถามอีก สิ่งที่เขาอยากรู้ ตอนนี้เขาคาดเดาได้แล้วเกือบทั้งหมด ถ้อยคำเหล่านี้ที่เขาเอ่ยถาม คือเพียงเพื่อยืนยันข้อสงสัยของตัวเอง

“เจ้าเกลียดพ่อแม่ของตัวเอง.... เพราะเมื่อร้อยปีก่อนเจ้าต้องออกจากบ้านมาที่นี่ ตามหาบางสิ่งที่พ่อแม่เจ้าต้องการ เจ้าได้พบมันแล้วแต่ไม่มีพลังพอที่จะเอามันมา และยิ่งหลังจากนั้น เจ้าไร้หนทางแม้กระทั่งจะกลับบ้าน เจ้าจึงทำได้เพียงอยู่ที่นี่ต่อ ท่องไปอย่างโดดเดี่ยวและซ่อนตัว รอคอยว่าวันหนึ่งพ่อแม่จะมาพาเจ้ากลับบ้าน”

เสี่ยวโม่ “!!”

เห็นสายตาที่ชะงักนิ่งของเสี่ยวโม่ เย่หวูเฉินจึงกล่าวต่อช้าๆ “หนึ่งปี สองปี.... สิบปี.... หลายสิบปี.... ร้อยปี ที่เจ้ารอ รอคอยว่าเมื่อไหร่พ่อแม่จะมาพาเจ้ากลับบ้าน ทว่าร้อยกว่าปีผ่านไปก็แล้ว พวกเขาก็ยังไม่มา เจ้าไม่ใช่คนของทวีปนี้ ผู้คนที่นี่ทั้งหมดเป็นได้เพียงศัตรูเจ้าเท่านั้น เจ้าทำได้เพียงอยู่ที่นี่อย่างโดดเดี่ยวตลอดกาล คอยหลบเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นตลอดไป ทว่าระหว่างที่เจ้ารอคอยอย่างทรมานนานกว่าร้อยปี ความหวังจึงกลายเป็นความผิดหวัง จากนั้นแปรเปลี่ยนเป็นความสิ้นหวัง กลายเป็นความชิงชังที่สั่งสม สุดท้ายจึงเกลียดชังอย่างลึกล้ำ.... เจ้ารู้ตัวว่าถูกพ่อแม่ของตนทอดทิ้ง พวกเขาไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นตายร้ายดียังไงหลังจากที่ส่งเจ้ามา กระทั่งคงลืมไปแล้วว่าเจ้ายังมีตัวตน ทำให้เจ้าต้องอาศัยบนทวีปที่ไม่ใช่ของตัวเองตลอดไป ดังนั้น ตัวเจ้าที่เคยตั้งตารอคอยทุกวัน จึงเปลี่ยนมาเริ่มหาทางระบายความชิงชังออก.... หนึ่งในนั้นคือการหาคนที่หน้าตาเหมือนพ่อแม่เจ้า ทำให้พวกเขากลายเป็นหุ่นเชิด เป็นตัวแทนของ ‘พ่อแม่’ ที่เจ้ารอคอย เป็นตัวแทนของ ‘พ่อแม่’ ที่เจ้าเคยได้รับความอบอุ่น หลังจากนั้น เจ้าก็สังหารพวกเขาทิ้งอย่างไร้ปราณี”

เสี่ยวโม่ฟังอย่างนิ่งงัน ไม่มีขัดจังหวะแทรก รอยยิ้มไร้เดียงสาบนใบหน้าสลายไป เหลือแต่เพียงความหม่นหมองอันเยียบเย็น

เย่หวูเฉินถอนหายใจบาง “น้องหญิง ข้ากล่าวถูกหรือไม่?”

เสี่ยวโม่เงยมองที่เขา หางตาขยับไหวเล็กน้อย ริมฝีปากสีชมพูโค้งอย่างนุ่มนวล “พี่ชาย ดูเหมือนท่านจะรู้ความลับของข้ามากกว่าที่คิดไว้ ตอนนี้ข้าอยากจริงๆ~~ อยากกำจัดท่านมาก”

เย่หวูเฉินไม่สนใจจิตสังหารที่แผ่มากับน้ำเสียงนางอย่างไม่ปิดบัง เขากล่าว “เจ้าชอบพ่อแม่ของเจ้ามาก ถูกต้องมั้ย?”

“ชอบ? เฮอะ.... ข้าเกลียดพวกเขาที่สุด....” เสี่ยวโม่ขบฟันซี่ขาวกล่าว

เย่หวูเฉินยิ้มบางอย่างอดไม่ได้ เขากล่าว “หากไม่ได้ชอบ แล้วความชิงชังจะมาจากไหน ยิ่งรักลึกล้ำ ยิ่งชังบาดใจ มีแต่ว่าครั้งหนึ่งเจ้ารักพวกเขามาก แล้วต่อพวกเขาทำต่อเจ้าอย่างไม่ยุติธรรม ทอดทิ้งเจ้าไว้เนิ่นนานจนสร้างความเกลียดชังฝังลึก หากเจ้าไม่ได้รักพวกเขา เหตุใดจึงไม่ฆ่าคนเหล่านั้นทันที แต่ปล่อยให้พวกเขาทำทีเป็น ‘พ่อแม่’ นั่นก็เพราะว่าเจ้ายังคิดถึงยามที่ได้อยู่เคียงข้างพวกเขา คิดถึงพ่อแม่ของตัวเองอย่างมาก”

“เจ้าพูดจาไร้สาระ.... ข้าไม่ได้คิดถึงพวกเขา! ก็ในเมื่อพวกเขาไม่ยุติธรรมต่อข้า!”

เย่หวูเฉินส่ายศีรษะ “ถ้าโกหกจะเป็นเด็กไม่ดีนะ”

เสี่ยวโม่ออกอาการสับสนอย่างเห็นได้ชัด ถ้อยคำของเย่หวูเฉินปักลงตรงส่วนลึกของหัวใจนาง ภายใต้ใบหน้าหม่นหมอง นางเอ่ยเสียงบาง “พี่ชาย ท่านรู้เรื่องของข้ามากเกินไป ข้าต้องฆ่าท่านแล้ว”

“ข้ารู้มากอย่างนั้นเหรอ? เจ้าเชื่อหรือไม่ว่านี่ยังไม่ใช่ความลับทั้งหมดของเจ้าที่ข้ารู้”

เสี่ยวโม่ “......”

แววตาของเย่หวูเฉินพร่ามัว เขากล่าวอย่างสงบขณะครุ่นคิด “ร้อยกว่าปีก่อน สิ่งที่พ่อแม่ของเจ้าต้องการตามหา จนส่งเจ้ามายังทวีปเทียนเฉินด้วยวิธีอัศจรรย์ พวกเจ้าเป็นกลุ่มคนที่แข็งแกร่ง แข็งแกร่งกว่าชาวทวีปเทียนเฉินเป็นอย่างมาก กระทั่งคนที่ทรงพลังสูงสุดของทวีปเทียนเฉินยังไม่ใช่คู่มือเจ้า ระหว่างที่ท่องไป ในที่สุดเจ้าก็พบที่สิ่งที่ตามหา ทางตอนใต้ของอาณาจักรเทียนหลง เจ้าต้องการเอาชนะมังกรเพลิงฟ้าเพื่อเอามุกมังกรอัคคีจากมัน แต่เจ้าไม่คิดฝันเลยว่า หลังจากที่พบมังกรเพลิงฟ้าแล้ว กลับมีสองเทพธิดาแห่งทวีปเทวะลงมายังทวีปเทียนเฉินเพื่อหยุดยั้งเจ้าโดยเฉพาะ พวกนางใช้เวลาหลายวันจนสังหารคนของเจ้าจนหมดสิ้น สุดท้าย พวกนางตามหาจนพบเจ้า และเข้าจัดการกับเจ้าทันที”

เสี่ยวโม่ “.......”

“สองเทพธิดาชาวเทวะ เทพธิดาปีกขาวและเทพธิดาปีกดำ ล้วนทรงพลังแกร่งกล้า เพียงพวกนางคนหนึ่งคนใดก็มีโอกาสเอาชนะเจ้าได้ ไม่ต้องกล่าวถึงหากทั้งสองร่วมมือกัน และยังรวมถึงมังกรเพลิงฟ้าอีกหนึ่งตัว ดังนั้น เจ้าจึงเหลือทางเดียวคือต้องหนี เจ้าดิ้นรนหลบหนีมาตั้งแต่ตอนใต้ของอาณาจักรเทียนหลงจนถึงตอนเหนือ เมื่อไร้หนทางหลบหนีต่อ เจ้าก็ระเบิดศึกรุนแรงกับสองเทพธิดา ทว่าในท้ายที่สุด พวกนางทั้งสองก็ไม่ได้เอาชนะเจ้า เนื่องจากเจ้าใช้วิธีการพิเศษเฉพาะบางอย่าง....” ในสมองของเย่หวูเฉินปรากฎภาพของหนิงเสวี่ยและทงซิน จากนั้นกล่าว “ซึ่งผลลัพธ์ก็คือการสร้างความสูญเสียทั้งสองฝ่าย”

เสี่ยวโม่คือผู้นำทัพปีศาจของอาณาจักรปีศาจเข้ารุกรานทวีปเทียนเฉิน เป็นหัวหน้าปีศาจที่ตามหามุกเซียนทั้งสี่โดยเฉพาะ มุกวารี และ มุกอัคคี!

เย่หวูเฉินคาดเดาโดยอาศัยข้อความสั้นๆของมังกรเพลิงฟ้าที่ส่งผ่านมาก่อนตาย รวมถึงตำนานเมื่อร้อยปีก่อนที่ฉู่ชางหมิงเล่าให้ฟัง ในตอนนั้น เทพธิดาปีกขาวและปีกดำใช้เวลาหนึ่งเดือนในการกำจัดกองทัพปีศาจ ทว่าในช่วงต้น หัวหน้าปีศาจได้พบมุกมังกรอัคคีที่อยู่ทางใต้ของอาณาจักรเทียนหลงก่อนแล้ว แต่ด้วยมุกมังกรอัคคีซึ่งเป็นหนึ่งในสิบมุกเซียน มังกรเพลิงฟ้าจึงทรงพลังอย่างมาก มันสามารถต้านทานอยู่รอดได้ตลอดหนึ่งเดือน หัวหน้าปีศาจไม่อาจสังหารมังกรเพลิงฟ้าเพื่อเอามุกมังกรอัคคีจากมันได้ ในขณะเดียวกัน ทงซินที่ตอนนั้นคือเทพธิดาปีกดำย่อมแข็งแกร่งกว่าปัจจุบันอย่างมาก มังกรเพลิงฟ้าที่มีสภาพสมบูรณ์ย่อมมีพลังไม่ห่างจากนาง ดังนั้นหากเทพธิดาปีกขาวและเทพธิดาปีกดำมีพลังเท่าเทียมกัน ไม่ว่านางคนใดก็ย่อมมีพลังไม่ด้อยไปกว่าหัวหน้าปีศาจ

ทว่าผลลัพธ์จากการต่อสู้ของพวกนางกลับ....

จากสีหน้าของเสี่ยวโม่ เป็นอันยืนยันว่าที่เขาคาดเดานั้นไม่ผิดพลาด มังกรเพลิงฟ้าส่งข้อความสุดท้ายในชีวิตมัน ส่งผ่านพันลี้เพื่อบอกเขาเพียงคำเดียวว่า “ปีศาจ!”

พลังทมิฬอันแกร่งกล้า รวมถึงมุกมังกรอัคคีที่อยู่ในมือเสี่ยวโม่ คือสิ่งยืนยันว่านางคือ ‘ปีศาจ’ ตนนั้น

ปีศาจ เป็นสัญลักษณ์แห่งความชั่วร้าย , น่าเกลียด , น่ากลัว และโหดเหี้ยม เช่นเดียวกับอารมณ์ทางลบต่างๆนาๆ ผู้ใดจะคิดว่าสาวน้อยน่ารักผู้นี้จะเป็นปีศาจ.... เป็นหัวหน้าทัพปีศาจในอดีต

“ท่านรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง....หรือว่าพวกนางบอกกับท่าน? ไม่สิ.... เห็นได้ชัดว่าพวกนางต้องคำสาปอยู่ จนลืมอดีตไปหมดสิ้น!” เสี่ยวโม่ยิ้มและกล่าวเสียงต่ำ สีหน้ายินดีของนางยามนี้ ไม่สมควรเป็นของสาวน้อยอย่างสิ้นเชิง

“ไม่มีผู้ใดบอกข้า เป็นข้าที่คาดเดาเอาเอง” เย่หวูเฉินกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย “ตอนนี้เจ้าตอบข้าได้แล้ว ว่าเจ้ารอดพ้นจากเงื้อมมือของสองเทพธิดาปีกขาวและปีกดำได้อย่างไร?.... หรือว่าเจ้าใช้ศาสตราปีศาจต้องห้ามอะไรพวกนั้น?”

เสี่ยวโม่พูดไม่ออก นางมองเขาเป็นเวลาเนิ่นนาน สุดท้ายหรี่ตาลง และกล่าวเสียงเย็น “พี่ชาย ท่านเดาได้ถูกต้อง พวกนางทั้งสองแข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะพี่สาวปีกขาวที่งดงามผู้นั้น นางมีพลังแห่งแสงและชีวิตทีข้าเกลียดที่สุด ต่อให้มีนางเพียงคนเดียว ก็เพียงพอเอาชนะข้าได้แล้ว ตอนที่พวกนางกำลังจะล้มข้านั้น ข้าได้ใช้ศาตราปีศาจต้องห้ามที่ท่านแม่มอบไว้ให้.... ทำให้พวกเราทั้งสามคน ล่วงเข้าสู่คำสาปแห่งมิติและเวลาพร้อมกัน”

“คำสาปแห่งมิติและเวลา?” เย่หวูเฉินทวนซ้ำเสียงเบา หัวคิ้วขมวดมุ่น

“ฮี่ ฮี่ แม้ว่าศาสตราปีศาจจะสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว แต่เมื่อใช้ออกกระทั่งตนเองยังไม่อาจหลีกเลี่ยง ทว่ามันเป็นศาสตราปีศาจที่น่าขันอย่างยิ่ง มันสามารถบิดผันกาลเวลา ทำให้ร่างกายของพวกเรากลับไปสู่วัยเยาว์ พลังก็ถดถอยกลับไปสู่วัยนั้นเช่นกัน มีเพียงสิ่งเดียวที่คงอยู่คือความทรงจำ ในห้วงมิติที่บิดผัน พวกเราทั้งสามถูกส่งไปยังสถานที่แตกต่างกัน เมื่อข้าตื่นขึ้นมา ข้าก็อยู่ในที่แห่งนี้แล้ว จากนั้นคนอื่นที่อาศัยอยู่ที่นี่ก็ตกตายลง ที่แห่งนี้จึงกลายเป็นบ้านของข้า”

เย่หวูเฉิน “......”



<<<PREV    .    NEXT>>>