วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 368

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 368 วิกฤตการณ์ที่ใกล้มาถึง

ทงซินและหนิงเสวี่ยไม่รู้ว่านางเป็นใคร ทว่าเสี่ยวโม่รู้จักว่าสาวน้อยทั้งสองที่อายุรุ่นราวเดียวกับนางมีสถานะน่าหวาดหวั่นเพียงใด แรกเริ่มเดิมที พวกนางต่อสู้สังหารกันโดยใช้ทุกสิ่งและทุกพลังที่มี ไม่ตกตายไม่ละเว้นความเป็นศัตรู เมื่อพบกับพวกนาง นางจึงเผยอาการปฏิปักษ์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ทว่าอย่างไรเสีย พวกนางเป็นปฏิปักษ์กันเพียงเพราะอยู่ต่างฝ่ายเท่านั้น ไม่มีความ “เกลียดชัง” ใดๆ อีกทั้งพวกนางยังอยู่ฝ่ายเดียวกับ “ท่านพ่อ” ผู้เป็นคนสำคัญ ดังนั้นความเป็นปฏิปักษ์ของนางจึงไม่เข้มข้นนัก

เมื่อพบกับหนิงเสวี่ยที่ยิ้มต้อนรับอย่างอบอุ่น การผลักไสลึกๆในใจจึงหายไปเงียบๆ นางขยับริมฝีปากเล็กน้อยและยิ้มกลับไป แม้ว่านางมีอายุและจิตใจที่ไร้เดียงสาเช่นเดียวกับหนิงเสวี่ยและทงซิน ทว่านางไม่ได้สูญเสียความทรงจำ นางจึงรู้และเข้าใจสิ่งต่างๆมากกว่าพวกนาง นางลอบกล่าวกับตัวเองในใจ “เป็นความบังเอิญที่แสนประหลาดนัก พวกเราทั้งสามไม่ใช่คนของโลกนี้ ทว่าเพราะหนึ่งบุคคล พวกเราจึงกลับมารวมกันในฐานะที่ต่างออกไป แล้วโชคชะตาจะนำพาไปในทางไหนต่อ....” นางไม่อยากคิดอะไรอีก จึงแหงนมองใบหน้าเย่หวูเฉิน เวลานี้นางเพียงต้องการอยู่ข้างกายเขา และรื่นรมณ์กับความรู้สึกที่นางหลงใหล

แต่เสี่ยวโม่ย่อมคิดไม่ถึงว่าไม่ใช่เพียงพวกนางสามคน เย่หวูเฉินเองก็ไม่ใช่คนของโลกนี้ มิติและเวลาที่เขาจากมา ห่างไกลกว่าของพวกนางมากนัก

“ท่านพี่ ท่านกับพี่หญิงเสี่ยวโม่พบกันยังไงเหรอ?” หนิงเสวี่ยกระพริบตาถาม หากสิ่งที่นางอยากถามคือ “ทำไมท่านพี่ถึงพานางมาที่นี่” สถานที่แห่งนี้ควรเป็นโลกเล็กๆของพวกตน เย่หวูเฉินพานางมาที่นี่ย่อมมีเหตุผล นางรู้ว่าเขาจะต้องเข้าใจในความหมายที่นางถาม

เย่หวูเฉินไม่ตอบคำถามนางโดยตรง ทว่ากล่าวอย่างจริงจังด้วยเสียงแผ่วเบาอย่างยิ่ง “เสวี่ยเอ๋อร์ ทงซิน หลังจากนี้นางจะเป็นพี่หญิงเสี่ยวโม่ของพวกเจ้า”

“อื้ม!” หนิงเสวี่ยตอบคำชัดในทันที เคลื่อนสายตามองไปที่เสี่ยวโม่ แล้วเรียกอย่างอ่อนหวานอีกครั้ง “พี่หญิงเสี่ยวโม่”

เสี่ยวโม่ไม่อาจควบคุมตัวเองไม่ให้ยิ้ม ใบหน้าไร้มลทินใดๆจากหัวใจที่ไร้ความขัดเคืองแล้ว แทนที่ด้วยสัมผัสจับใจ บรรยากาศแบบนี้ช่างยอดเยี่ยม บางที นางคงจะเริ่มชอบพวกนางช้าๆ

“แล้วท่านพี่เจอพี่หญิงเมิ่งไหม?” เมื่อถามถึงเรื่องนี้ หนิงเสวี่ยกังวลอย่างเห็นได้ชัด นางคิดถึงพี่หญิงเมิ่งที่ไม่ได้พบกันมานานมากจริงๆ นางกลัวว่าเย่หวูเฉินจะผิดหวังและเสียใจ

“ยังไม่พบ แต่จะต้องพบอย่างแน่นอน ข้ารู้แล้วว่านางอยู่ไหน” เย่หวูเฉินพยักหน้าอย่างร่าเริง ทว่าอารมณ์ในใจของเขายามนี้สับสนและหนักหน่วง ข้อสงสัยใหญ่สุดเขาก็คือ ข่าวเรื่องที่เขาไม่ตกตายได้แพร่ไปนานแล้ว แต่เหตุใดนางถึงยังไม่มาหาเขาหรือบอกข่าว

“จริงเหรอ? เยี่ยมเลย แล้วเมื่อไหร่พวกเราจะไปหาพี่หญิงเมิ่งกัน?” หนิงเสวี่ยคลายความกังวลลง กระโดดหยองๆด้วยความดีใจ จากนั้นจับมือเย่หวูเฉินและถามอย่างร้อนรน

“พรุ่งนี้ วันนี้ค่ำแล้วพวกเราพักกันก่อน พรุ่งนี้เช้าพวกเราค่อยออกไปจากที่นี่” เย่หวูเฉินกล่าวแล้วมองไปยังทางเหนืออย่างเงียบงัน อาณาจักรชางหลานแห่งทวีปเทียนเฉิน เขายังไม่เคยไปเยือนแม้แต่ครั้งเดียว การจะไปที่นั่นเขาจึงไม่อาจอาศัยพลังตัดมิติของเซียงเซียง เพียงทำได้แค่เดินทางไป อาณาจักรชางหลานมีขุมกำลังของสำนักมารแทรกซึมอยู่เช่นเดียวกัน เมื่อออกมาจากหุบเหวปลิดวิญญาณเมื่อหนึ่งปีก่อน เขาก็กระจายกำลังจับตาดูทุกการเคลื่อนไหวในโลก เขาไม่อยากพลาดแม้แต่มุมเดียว

ม่านรัตติกาลลดต่ำลง ทุกเสียงธรรมชาติดังระงมขึ้น เย่หวูเฉินครุ่นคิดอย่างกังวลขณะที่หลับลงช้าๆ ก่อนที่เขาจะหลับไป บนเตียงเบียดเสียดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซ้ายขวามีหนิงเสวี่ยและทงซินนอนกันคนละข้าง และเสี่ยวโม่ที่อยากนอนกับเย่หวูเฉินอีกคน นางจึงเบียดหนิงเสวี่ยเพื่อให้ใกล้กับเย่หวูเฉินที่สุด ในที่สุดจึงหลับกันในท่าลำบาก เพราะนางเป็น “พี่สาว” ดังนั้นจึงต้องยอม “น้องสาว” เพราะนางเป็นผู้มาที่หลังจึงไม่อาจแย่งตำแหน่งของพวกนางได้

ในอีกที่หนึ่ง....

ในโลกภายในของเล่งหยา หลังกำแพงน้ำแข็งที่อยู่ลึกในใจ ฉับพลันมีเสียงลุ่มลึกหัวเราะขึ้น “ชาหลัว บุตรของข้า ในที่สุดพลังของเจ้าก็ตื่นขึ้นแล้ว.... ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า.... ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า....”

........................

........................

ท้องฟ้ายังไม่ทันสว่าง เย่หวูเฉินก็ผุดลุกขึ้นฉับพลัน เขาไม่ได้ฝันร้าย หากสิ่งที่ปลุกเขาขึ้นคือความรู้สึกเจ็บลึกในใจดุจกระบี่เสียบแทง

ทงซินและเสี่ยวโม่ลืมตาขึ้นพร้อมกัน มองเขาด้วยแววตาเดียวกัน เย่หวูเฉินมองไปตรงหน้า สีหน้าค่อยๆสงบลงและภาคภูมิดังเดิม

เขาเคลื่อนไหวอย่างเงียบงัน ไม่ส่งเสียงปลุกหนิงเสวี่ยที่นอนกรนน้อยๆ จัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วเดินออกไปเงียบๆ เขาเงยหน้ามองไปยังทิศใต้ห่างไกล เสี่ยวโม่และทงซินเดินตามเขามา กระพริบตามองที่เขา สาวน้อยทั้งสองคนมีหลายสิ่งที่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น พวกนางมีพลังความมืด ยึดติดในตัวของเย่หวูเฉินอย่างลึกซึ้ง ทงซินยึดติดจากวิญญาณถึงกระดูกดำถึง ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนนางได้ ทว่าเสี่ยวโม่เป็นความสัมพันธ์ที่เรียบง่าย การยึดติดของนางเกิดจากความปรารถนาและสัญชาตญาณของมนุษย์ ภายใต้สายตาและน้ำเสียง เย่หวูเฉินมองทะลุความรู้สึกภายในของนาง นางจึงเลือกเขา ในเวลาไม่กี่วันที่อยู่ด้วยกัน เงาของเขาได้ประทับในใจนางอย่างเงียบงัน และยิ่งมายิ่งแจ่มชัดขึ้น

“มีอะไรเหรอท่านพ่อ?” เสี่ยวโม่ถาม

“มันกำลังมา” เย่หวูเฉินกล่าว มันเริ่มขึ้นเมื่อหนึ่งปีก่อน เขากังวลและรอวันนี้ที่กำลังมาถึงอยู่ตลอด ด้วยพลังล่วงรู้อนาคตของเขา พลังจิตใจของเขาล่วงรู้ได้ในขอบเขตที่เล็กน้อย เวลานี้ พลังจิตใจกระเพื่อมไหวอย่างรุนแรง มันปลุกเตือนเขาด้วยเสียงที่ดังที่สุด เป็นความรู้สึกบีบคั้นรุนแรงถึงวิกฤตการณ์ เขาเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าคนที่เขารออยู่กำลังมายังโลกนี้ แม้เขาไม่รู้ว่าคนผู้นั้นชื่ออะไร

การรอคอยเหตุการณ์ร้ายแรงจากอนาคตนับเป็นเรื่องน่ากลัว ทว่าเวลานี้ หัวใจของเขาราบเรียบอย่างยิ่ง อย่างน้อย มันก็มาตามที่เขาคาดการณ์ หากมันไม่มา หัวใจของเขาคงไม่อาจหยุดพักและกังวลมากกว่านี้หลายเท่า

“ใครเหรอ?” เสี่ยวโม่ได้ยินเขากล่าวด้วยเสียงราบเรียบผิดธรรมดาจึงรีบถาม ทงซินเองก็มองอย่างจริงจังขึ้น

เย่หวูเฉินสั่นศีรษะ เขาไม่กล่าวตอบและเอ่ยเสียงเบา “เสี่ยวโม่ ช่วยพ่ออย่างหนึ่งได้ไหม? พ่อของเจ้ามีเรื่องสำคัญยิ่งต้องไปจัดการ”

“ท่านพ่ออยากให้ข้าทำอะไร?” เสี่ยวโม่เอ่ยถาม จากสีหน้าและถ้อยคำของเขา นางพบว่าตัวเองไม่อาจปฏิเสธได้ มันเป็นความรู้สึกอันอัศจรรย์ เช่นเดียวกับไม่อาจเหี้ยมหาญปฏิเสธลง หลายวันที่ผ่านมานี้ นางได้รับความรู้สึกดีๆมากมายจากเขา แต่นางยังไม่ได้ทำสิ่งใดเพื่อเขาเลยแม้แต่น้อย

“ช่วยข้าอยู่เป็นเพื่อนเสวี่ยเอ๋อร์ คอยดูแลเสวี่ยเอ๋อร์ให้ดี บอกนางว่าข้ากับทงซินจะรีบกลับมา”

เมื่อสิ้นเสียงของเย่หวูเฉิน เขาก็ไม่รอคำตอบจากเสี่ยวโม่ แสงขาวปรากฎขึ้นทันที เพียงพริบตามันก็นำเขาและทงซินหายไป เสี่ยวโม่ที่กำลังจะเอ่ยถามว่าเขาไปไหนจึงต้องหยุดลง ได้แต่มองจุดที่เขาหายไปอย่างเงียบงัน และไม่รู้ว่าเขาหายไปที่ใด

เขากำลังทำบางสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง.... นี่คือสิ่งที่เสี่ยวโม่คิดได้ นางหันกลับมา มองไปที่กระท่อมมุงหลังเล็กที่หนิงเสวี่ยอยู่ข้างใน หลังจากครุ่นคิดเล็กน้อยจึงค่อยๆเดินเข้าไป นั่งนิ่งงันอยู่ในกระท่อม สายตามองยังจุดที่เขาหายไป ไม่ทราบว่ากำลังคิดสิ่งใด ทว่าสิ่งที่เขาต้องการให้นางทำนั้น นางไม่มีเหตุผลใดจะต้องปฏิเสธ

เย่หวูเฉินปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งถัดจากหินสูงใหญ่ หลังจากมาถึงแล้ว เขาก็ดึงทงซินเข้ามาใกล้ๆทันที เขาพิงอยู่ที่กำแพงหิน ขมวดคิ้วคอยฟังเสียงการเคลื่อนไหวโดยรอบ ทงซินกวาดตามองไปรอบๆและจำได้ว่าที่นี่คือ.... สำนักจักรพรรดิใต้ที่นางเพิ่งมาเยือนเมื่อไม่นาน! ตรงนี้คือทิศตะวันตกของสำนักจักรพรรดิใต้ที่ขาดการดูแล เป็นบริเวณรอบนอกของสำนักจักรพรรดิใต้ ถัดออกไปเป็นหมอกพิษหยกวารีที่มองเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตามที่อยู่ตรงหน้านั้น เป็นสถานที่ซึ่งนางหมดสติไป

หลังจากเงียบงันเป็นเวลานาน เย่หวูเฉินค่อยๆลุกขึ้นและพาทงซินเดินตรงไปยังสถานที่ในความทรงจำเงียบๆ ก่อนนี้ทงซินปลดปล่อยพลังทมิฬท่วมฟ้า หลังจากที่กริชเทพพิโรธปักอกฉุ่ยคนหนึ่ง.... นางก็พาเขาบินหนีด้วยความเร็วสูงสุด เวลานั้นขณะที่อยู่กลางอากาศ เขามองเห็นทุกแห่งและจดจำได้อย่างชัดเจน เขาจดจำตำแหน่งหนึ่งที่ไม่สะดุดตาไว้มั่น เวลานั้นขณะที่สำนักจักรพรรดิใต้ถูกทำลาย มีคนจำนวนน้อยนิดที่มาตรงนี้ ดังนั้นจึงสะดวกต่อพวกเขาที่จะไม่ถูกพบตัว

หลังจากเคลื่อนตัวไปได้ร้อยเมตร เบื้องหน้าก็เริ่มว่างเปล่า เย่หวูเฉินดึงทงซินหลบหลังกองไม้และกระซิบ “เซียงเซียง ไปตรงนั้น!”

ตำแหน่งตรงหน้าหลายสิบเมตรคือเป้าหมายของเขา เขามองเห็นตรงนั้นอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม เขาไม่อาจยืนยันได้ว่าระหว่างทางไปถึงตรงนั้นจะพบอันตรายใด ดังนั้นจึงเลือกใช้เซียงเซียงให้ตัดมิติระยะสั้น เซียงเซียงเพิ่งสูญเสียพลังไปมากจากการเคลื่อนย้ายระยะทางไกล ดังนั้นหากจะย้ายทางไกลอีกครั้งต้องใช้เวลารวบรวมพลัง ทว่าการเคลื่อนย้ายระยะสั้นยังสามารถทำได้ หลังจากเซียงเซียงปรากฎตัวออกมาและเปล่งแสง เย่หวูเฉินและทงซินก็ปรากฎตัวอีกครั้งในตำแหน่งที่เขาจดจำบนท้องฟ้า จากนั้นโดยไร้ความลังเล เย่หวูเฉินลากทงซินลงหลุมอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีใครสังเกตเห็น

นอกจากแสงสว่างที่อยู่เหนือศีรษะ ภาพตรงหน้าล้วนเป็นผืนดำมืด ทั้งยังมีกลิ่นฉุนรุนแรง โดยรอบมีแมลงหลากชนิดเกาะอยู่ หนูวิ่งแตกตื่นกันเป็นฝูง ทงซินยกฝ่ามือขึ้นอยากทำลายสถานที่นี้ให้สิ้นซาก อย่างไรก็ตาม เย่หวูเฉินจับมือนางไว้และเดินตรงไปข้างหน้า ขณะที่อีกมือหนึ่งโบกไปเบื้องหลัง สร้างปราการทางเดียวที่กั้นเสียงออกไป ทงซินชะงักมือและเดินตามเขา



<<<PREV    .    NEXT>>>