วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 376

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 376 พลังไร้ต้าน

ไม่มีเวลาให้พวกเขาสั่นกลัวมากนัก หอกยาวในมือและทั่วร่างของเจวี๋ยเทียนกลายเป็นสีม่วง ทุกแห่งปะทุไปด้วยสายฟ้าหายนะ เสียงเลือนลั่นของสายฟ้าบดบังปฐพี ท่วมทับหัวใจทุกผู้คน

ทุกธาตุในห้วงมิติเริ่มบิดเบี้ยว ราวกับว่าพวกมันกำลังสั่นกลัว เหนือผืนนภาอันกว้างไกล ปรากฎสายฟ้ามหาศาลกำลังแตกลาม ในพริบตาเกิดเป็นวังวนสีม่วงขนาดใหญ่ บดบังท้องฟ้าสุดสายตา

เปรี้ยง!!

ในความเงียบงันดุจความตาย สายฟ้าสีม่วงจำนวนมหาศาลฟาดออกจากวังวนสีม่วง มันฟาดใส่ทุกสิ่งที่อยู่เบื้องล่าง.... สายฟ้าสีม่วงครอบคลุมอาณาบริเวณกว้าง ทั้งสำนักจักรพรรดิใต้ถูกบดบังจนสิ้น ตอนนี้มันกลายเป็นขุมนรกสายฟ้าสีม่วง

เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!

สายฟ้าจำนวนมหาศาลฟาดในสถานที่เดียวกัน เสียงสายฟ้ากลบเสียงอื่นจนหมด สายฟ้าสีม่วงปกคลุมสำนักจักรพรรดิใต้ ปิดโอกาสทุกผู้คนไม่ให้หลบหนี จากนั้นในคราเดียว เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นเป็นผืนหนึ่ง ราวพิธีชำระบาปจากหายนะสายฟ้า

เย่หวูเฉินห่อคู้ร่าง กอดทงซินไว้มั่นในอ้อมอก ปกป้องนางจากสายฟ้าที่ฟาดลงมา เขาไม่กลัวธาตุธรรมชาติทั้งห้าและความตาย ปล่อยให้สายฟ้าเกรี้ยวกราดฟาดใส่ร่าง เขารู้สึกเพียงแรงกระแทกเท่านั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย ไร้ความรู้สึกชาเป็นอัมพาตใดๆ ไม่ไกลจากเขา ฉุ่ยหยุนเทียนมุ่นหัวคิ้วแน่น สองมือผลักขึ้น สร้างปราการหยกวารีโปร่งใสขึ้นบังเหนือศีรษะ เมื่อถูกสายฟ้ารุนแรงฟาดลงมาไม่กี่ครั้งมันก็แตกออก ทว่าทันใดปราการหยกวารีอันใหม่ก็ปรากฎขึ้น ป้องกันสายฟ้าที่โถมกระหน่ำลงมาได้อย่างสมบูรณ์

เขาถูกพันธนาการไว้ 23 ปีด้วยโซ่ตรวนผนึกปีศาจ ไม่อาจใช้พลังใดๆได้ใน 23 ปีนี้.... ทว่าหากมียอดฝีมือสำนักจักรพรรดิใต้คนใดมาเห็นตัวเขาในเวลานี้ พวกเขาจะต้องตกตะลึงกับภาพตรงหน้า เพราะวิชาหยกวารีของฉุ่ยหยุนเทียนบรรลุขอบเขตเทวะอย่างคาดไม่ถึง.... ทั้งๆที่เมื่อ 23 ปีก่อนตอนที่เขาถูกผนึกไว้ พลังหยกวารีของเขายังอยู่ในขอบเขตสวรรค์ชั้นกลางเท่านั้น เขาอาศัยสิ่งใดจึงบรรลุพลังระดับนี้ได้! กระทั่งฉุ่ยหยุนหลันที่พรสวรรค์เหนือล้ำกว่าเขาทุกด้าน ยังบรรลุขอบเขตเทวะหลังรับพลังมาจากประมุขสำนักรุ่นก่อน และตอนนี้อยู่ในขอบเขตพลังเทวะขั้นกลาง

ฉุ่ยหยุนหลันและฉุ่ยเสวียนฟงต้านรับสายฟ้าด้วยวิธีการเดียวกัน พวกเขากัดฟัน มองหน้าส่งความหมายด้วยสายตา.... สายฟ้าสีม่วงนี้เต็มไปด้วยพลังน่าหวาดหวั่น ทว่าไม่ได้รุนแรงถึงขั้นที่พวกเขาไม่อาจต่อต้าน เมื่อรัศมีการโจมตีแผ่ขยาย พลังย่อมถูกกระจายเช่นเดียวกัน รวมทั้งเจวี๋ยเทียนที่บาดเจ็บหนัก พลังของมันยามนี้คงเหลือเพียงหนึ่งในห้าเท่านั้น

สัมผัสถึงสายฟ้าที่ท่วมกระหน่ำโดยรอบ หัวใจของทั้งสองแทบจะแตกออก ไม่อาจอดทนได้อีก ทั้งสองเริ่มทะยานร่างออกไป ฝ่าสายฟ้าพุ่งเข้าใส่เจวี๋ยเทียนกลางอากาศ สายฟ้าเหล่านี้บดบังสำนักจักรพรรดิใต้ทั้งหมด ท่วมทับผู้คนทั้งหมดในสำนักจักรพรรดิใต้ สายฟ้าสังหารผู้คนลงมากมาย ทุกวินาทีมีคนตกตายลง ไหนเลยพวกเขาจะอดทนได้ ตอนนี้พวกเขาได้แต่หวังว่าเจวี๋ยเทียนที่บาดเจ็บหนักมาสองครั้ง สูญเสียแขนซ้ายไปข้างหนึ่ง หลังจากปลดปล่อยสายฟ้านรกลงมา พลังของมันย่อมอ่อนโทรมจนถึงระดับที่พวกเขาสามารถร่วมมือกันเอาชนะได้

ขณะที่พวกเขาทะยานร่างเข้าใกล้ สายฟ้าก็หยุดลงฉับพลัน เจวี๋ยเทียนลืมดวงตาแดงก่ำขึ้น มือขวาที่เหลืออยู่เหวี่ยงหอกยาวต้อนรับสองร่างที่พุ่งเข้ามา

หายนะสายฟ้าหยุดลงในที่สุด เหนือแผ่นดินเต็มไปด้วยซากศพ บางคนถูกสายฟ้าจนกลายเป็นถ่านดำ การโจมตีเพียงชั่วสั้นๆทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ในสำนักจักรพรรดิใต้ตกตายลง ที่เหลือต่างบาดเจ็บมากน้อยตามระดับพลังตัวเอง ส่วนใหญ่ร่างกายชาเป็นอัมพาตและขยับตัวได้ลำบากยิ่ง

ฉุ่ยเสวียนฟงและฉุ่ยหยุนหลันลอยร่างแลกการโจมตีกับเจวี๋ยเทียนกลางอากาศ แม้ว่าร่างกายไม่ได้ปะทะกันโดยตรง แต่ฉุ่ยเสวียนฟงและฉุ่ยหยุนหลันต่างรู้สึกหนักทึบที่อกราวกับถูกค้อนฟาด ทว่าการทดสอบนี้ทำให้พวกเขาเกิดความหวังเลือนรางขึ้นในหัวใจ เนื่องจากการปะทะนี้ พวกเขารับมือเจวี๋ยเทียนได้ลำบากน้อยลงกว่าครั้งก่อนๆ แรงกดดันของเจวี๋ยเทียนยังลดลงมากจากครั้งแรกไปห่างไกล

“ลุยเลย” สองคำบางเบาออกจากปากฉุ่ยหยุนหลัน แม้ไม่ได้หันมองไปโดยรอบ แต่เขารู้ว่าแผ่นดินรอบตัวที่เคยคุ้นตอนนี้เปลี่ยนไปมากเกินกว่าจะจดจำ มันปกคลุมไปด้วยซากศพ ร่างของแต่ละคนไหลนองด้วยโลหิตแห่งจักรพรรดิใต้ ในหมู่พวกเขามีทั้งบุรุษและสตรี มีทั้งอาวุโสและรุ่นเยาว์ รวมถึงเด็กเล็กที่ชอบละเล่น.... มากเกินไป มากเกินไป เขาหลับตาลงอย่างเจ็บปวดและลืมตาขึ้นฉับพลัน.... ต้องสู้เท่านั้น กล่าวอีกอย่างก็คือ พวกเขามีทางเลือกอื่นให้ก้าวเดินด้วยหรือ?

หรือว่าสำนักจักรพรรดิใต้จะจบลงเพียงเท่านี้จริงๆ?

ตั้งแต่วันวานจนถึงวันนี้ เพียงในวันเดียว เหตุใดโลกถึงกลับตาลปัตรได้ถึงเพียงนี้....

เขาเกลียด ทว่าเจวี๋ยเทียนเองก็เกลียดเช่นกัน ตั้งแต่ที่เสียแขนซ้ายไป ก็กลายเป็นความอัปยศสูงสุดในชีวิตมัน เจตนาสังหารพวยพุ่งขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็น ในขณะเดียวกัน ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ สภาพของมันไม่เคยอ่อนแอและอับอายถึงเพียงนี้มาก่อน

สองยอดฝีมือเทวะแห่งสำนักจักรพรรดิใต้เข้าโรมรันกับเจวี๋ยเทียนอีกครั้ง สองกลุ่มพลังสีฟ้าและสีม่วงปะทะกัน สองร่างพัวพันเจวี๋ยเทียนกลางอากาศ ขณะเดียวกัน ยอดฝีมือสำนักจักรพรรดิใต้ที่อยู่เบื้องล่างก็พากันยิงพลังขึ้นฟ้า ปล่อยพลังใส่เจวี๋ยเทียนชนิดยอมตายไม่ยอมเลิกรา พวกเขาโจมตีเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ดังนั้น นี่จึงเป็นการปล่อยพลังที่ไม่มีการยับยั้งของพวกเขา!

อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้น ฉุ่ยเสวียนฟงและฉุ่ยหยุนหลันก็พลันตระหนักได้ว่าตนเองประเมินความน่ากลัวของเจวี๋ยเทียนต่ำเกินไป

ทั้งสองประมือกับเจวี๋ยเทียนไม่ทันถึงสิบกระบวนท่า แรงกดดันหนักหน่วงก็ท่วมทับทรวงอกราวกับโลหะ ทำให้พวกเขาหายใจได้อย่างยากลำบาก เมื่อพวกเขาเบี่ยงร่างหลบหอกสายฟ้า แม้มันไม่ได้สัมผัสร่างแต่ก็ทำให้ร่างกายเย็นยะเยือกคล้ายถูกฉีกเป็นชิ้น เผชิญหน้ากับศัตรูปานนี้ พวกเขาต่างรู้สึกราวกับมีมือหนึ่งคอยบีบลำคอไว้

ตูม!!

เสียงสนั่นดังขึ้น ไหล่ซ้ายของฉุ่ยหยุนหลันถูกฟาดจนกระดูกแตก ร่างพุ่งกระแทกลงผืนดิน ในขณะเดียวกัน ฝ่ามือหลายคู่ก็ส่งพลังหยกวารีเข้ากระแทกเบื้องหลังของเจวี๋ยเทียน พลังสีฟ้าระเบิดออกเป็นกลุ่มใหญ่ ทว่าเจวี๋ยเทียนกลับไม่ขยับเขยื้อน มันไม่หันศีรษะมามองด้วยซ้ำ ร่างกายมันสั่นรุนแรง ฉับพลันพลังแกร่งกล้าก็ระเบิดออกจากแผ่นหลัง แผ่กระแทกยอดฝีมือขอบเขตสวรรค์แห่งสำนักจักรพรรดิใต้หลายคนจนร่างปลิว อวัยวะแตกทำลายและกระจายด้วยหมอกเลือด

เจวี๋ยเทียนไม่หยุดแค่นั้น สีหน้ามันทะมึนลงและเย็นเยียบ ก่อนที่จะชี้หอกยาวแล้วพุ่งเป็นแสงม่วงตรงไปที่ฉุ่ยหยุนหลันอย่างรวดเร็ว หมายปักหอกทะลุร่างกาย ฉุ่ยเสวียนฟงแตกตื่นตะโกนลั่น “ระวัง!”

ฉึก!

เจวี๋ยเทียนหยุดร่างลง หอกม่วงปรากฎตรงหน้า พร้อมกับฉุ่ยเสวียนฟงที่เอาร่างเข้าขวาง ปลายหอกแทงอกขวาทะลุออกด้านหลังยาวกว่าหนึ่งเมตร ฉุ่ยเสวียนฟงจับหอกยาวด้วยสองมือมั่น สีหน้ามืดทะมึน ทันใดนั้นเขาปล่อยมือทั้งสองข้าง กู่ร้องเสียงต่ำและฟาดใส่อกเจวี๋ยเทียนอย่างหนักหน่วง

หน้าอกของเจวี๋ยเทียนเกิดรอยยุบขึ้นสองรอย ร่างกายยังถอยไปสองช่วงตัว เวลานี้มันไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์แล้ว ทำได้เพียงอดกลั้นความเจ็บปวดและหยุดร่างตัวเอง

โลหิตไหลซึมออกมาระหว่างซี่ฟัน เจวี๋ยเทียนโจมตีกลับในฉับพลัน มันปล่อยมือออกจากหอกยาว กำหมัดแล้วเหวี่ยงใส่ด้วยพลังเทพ อัดเข้าตรงอกของฉุ่ยเสวียนฟง.... เกิดรอยยุบที่ใหญ่กว่าบนอกของฉุ่ยเสวียนฟง ชั่วขณะที่หมัดสัมผัส สายฟ้าสีม่วงก็ระเบิดออก

ไม่เพียงแค่เมฆสายฟ้าเท่านั้นที่ทรงพลัง กระทั่งร่างกายก็เต็มไปด้วยพลังสายฟ้า

สมองของฉุ่ยเสวียนฟงกลายเป็นขาวโพลน สติหายไปไร้ร่องรอย สติสุดท้ายที่รู้สึกคืออวัยวะภายในถูกทำลาย กระดูกในร่างแตกเป็นส่วนๆ.... ร่างของฉุ่ยเสวียนฟงปลิวหลุดจากหอกด้วยแรงกระแทก ร่วงปะทะพื้นเกิดหลุมลึกอย่างน่ากลัว

ฉุ่ยหยุนหลันที่ร่วงปะทะพื้นก่อนหน้า ตอนนี้ยังคงไม่เคลื่อนไหว

“พวกเจ้า.... ทุกคน.... จง.... ตาย....!”

ราวเสียงร้องทะมึนต่ำจากขุมนรก สองบุคคลสุดท้ายที่สามารถต้านรับเจวี๋ยเทียนได้พ่ายลงแล้ว เจวี๋ยเทียนชูหอกสายฟ้าในมือขึ้นพร้อมร่างที่เปล่งแสงสีม่วง ท้องฟ้าห่างไกลที่เริ่มกระจ่างยามนี้หม่นมัวลงอีกครั้ง ยิ่งกว่านั้น มันยังมืดลงฉับพลันเหมือนก่อนหน้า

วังวนสีม่วงไม่ได้ปกคลุมทั่วท้องฟ้า ทว่าตอนนี้ขอบเขตของมันปกคลุมสำนักจักรพรรดิใต้ทั้งหมด

“ฮ่าห์!”

เจวี๋ยเทียนลดมือลง พร้อมกับสายฟ้าขนาดใหญ่ไร้ที่เปรียบฟาดลงสู่ผิวโลก

เปรี้ยง!!

หากกล่าวว่าก่อนหน้านี้สายฟ้าของเจวี๋ยเทียนกินวงกว้างหลายสาย สายฟ้าครั้งนี้ก็โจมตีแบบวงแคบ เป็นสายเดียวขยายจากศูนย์กลางคือเจวี๋ยเทียน เห็นได้ชัดว่าการโจมตีแบบรวมศูนย์นี้ ส่งสายฟ้าที่มีพลังทำลายล้างมากกว่าเดิม

เจวี๋ยเทียนบาดเจ็บหนักจึงต้องลดการใช้พลังให้มากที่สุด มันลดรัศมีการโจมตีลงเหลือเพียงเป็นวงแคบ เนื่องจากยอดฝีมือสำนักจักรพรรดิใต้มารวมอยู่ในบริเวณเดียวกัน เพื่อหวังประสานพลังโจมตีตน เมื่อเผชิญกับศัตรูแกร่งกล้าจนสำนักจักรพรรดิใต้ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก ผู้ใดจะทนอยู่รอบนอกและเพิกเฉยได้ ทันใดนั้น สายฟ้าสีม่วงลำใหญ่ได้ร่วงลงจากฟ้า หลังจากปะทะผืนดิน แสงม่วงก็บดบังท่วมสำนักจักรพรรดิใต้  โลกทั้งใบกลายเป็นสีม่วง พลังสายฟ้าเกรี้ยวกราดทำลายทุกอย่างลงจนสิ้น

หากมองมาจากที่ห่างไกล จะเห็นวงสายฟ้าปรากฎเหนือโลก ตำแหน่งที่เป็นสำนักจักรพรรดิใต้ถูกบดบังจนสิ้น ทุกสิ่งสลายไปในวงสายฟ้าสีม่วงขนาดใหญ่จนไม่เหลือสิ่งใด



<<<PREV    .    NEXT>>>