วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 157

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 157 มารเสน่ห์

“นี่มัน... นี่มัน...” ชายชราที่เรียกว่าประธานฉินอ้าปากกว้าง เผยซี่ฟันส่วนใหญ่ที่ถือได้ว่าพังผุ สมองหมุนจี๋ด้วยกำลังคิดว่าจะแสดงท่าทีอย่างไรกับสถานการณ์ ชายชราคนอื่นๆที่นั่งอยู่ต่างตัวแข็งราวกับศพ สิ่งเดียวที่เหมือนกันคือสายตาจ้องไปที่เย่หวูเฉินราวเป็นตัวประหลาด

“โอ้? น้องชายผู้นี้ร้ายกาจถึงเพียงนั้นเชียว? ข้าไม่เชื่อ”

เสียงสตรีลอยผ่านเข้ามาจากฝูงชน เย่หวูเฉินรู้สึกร่างอ่อนยวบฉับพลัน กระทั่งกระดูกยังปวกเปียกตาม อาการของผู้คนโดยรอบยิ่งหนักกว่า บางคนถึงกับตัวสั่นทั้งร่าง แม้ว่าเย่หวูเฉินไม่ได้อยู่ในทวีปเทียนเฉินนานนัก เขาก็ได้พบสตรีงดงามไร้ที่เปรียบมาหลายคน ทั้งน้ำเสียงและความงามของพวกนางเกินจินตนาการของผู้คน ฮั่วฉุ่ยโหรวอ่อนโยนและงดงาม เย่ฉุ่ยเหยาบริสุทธิ์และเย็นชา ฉุ่ยเมิ่งฉานยังไม่ได้เห็นนางมากนัก แต่ทว่าเสียงนี้... หากผู้ใดที่ได้ยิน พวกเขาจะรู้ว่าอ่อนยวบถึงกระดูกนั้นเป็นอย่างไร น้ำเสียงนี้สามารถพรากวิญญาณของผู้คน ราวกับว่ามีมนต์วิเศษ ทำให้ร่างกายชายอ่อนระทวย... รวมทั้งทำให้ตัณหาทะยาน

สตรีผู้เอ่ยเสียงดังกล่าวก้าวออกมาจากฝูงชน ทุกสายตาถูกดึงดูดติดอยู่ที่ร่างของนาง กระทั่งเย่หวูเฉินยังตื่นตะลึง

เยื้องย่างอย่างมีเสน่ห์และชดช้อยก้าวออกมา นางเผยรอยยิ้มเย้าแหย่มองเย่หวูเฉินที่อยู่บนเวที ทุกสายตาไม่ได้มองที่ใบหน้านางแต่จ้องติดที่เรือนกาย ไม่อาจเบี่ยงสายตาออกได้เป็นเวลานาน

น้ำเสียงเสน่ห์ราวกับมีอาคม เรือนร่างงามงดราวกับนางมาร สตรีทุกคนที่เย่หวูเฉินเคยพบเจอ ไม่มีใครมีร่างโค้งเว้าเร้าใจเท่ากับนาง เมื่อได้พบสตรีนางนี้ เขาถึงได้รู้จักว่าอกอิ่มอุดมกับสะโพกแน่นหนัดเป็นเช่นไร หน้าอกที่น่าอัศจรรย์จริงแท้ดันชุดหิมะขาวบนทรางอกให้ชูเชิด ทำให้ผู้คนกังวลว่าอกของนางจะโผล่ออกมาจากชุดได้ทุกเวลา สะโพกกลมกลึงขนาดใหญ่ทำให้คนคิดถึงความอ่อนนุ่มและนิ่มนวล เอวอ้อนแอ้นกลึงงามราวต้นหลิว ทุกส่วนประกอบรวมกันกลายเป็นร่างนางมารยั่วยวน

นางก้าวฝีเท้าสั้นๆนวยนาดเข้ามา ส่วนโค้งเว้าขยับกระเพื่อมตามฝีเท้า น่าหลงใหลอัศจรรย์ขณะสั่นไกว ส่วนนูนโค้งที่เดิมไร้ต้านตอนนี้ยิ่งน่าขนลุกกว่าเดิม สร้างนิยามที่เหมาะสุดกับร่างนี้คือนางมาร

เย่หวูเฉินดูคล้ายโง่งม ท่ามกลางผู้คนเต็มไปด้วยเสียงหอบหายใจฟืดฟาด เย่หวูเฉินเคลื่อนสายตาออกจากร่างของนางอย่างยากลำบาก แล้วมองที่ใบหน้าของนาง เป็นใบหน้าของหญิงสาวธรรมดาอายุราว 25 ปี ไม่ได้น่าดึงดูดเฉกเช่นร่างกาย เย่หวูเฉินถอนหายใจโล่งอก หากสตรีนางมีหน้าตาสมบูรณ์แบบ เขาคิดไม่ออกว่าจะมีใครต้านทานการยั่วยวนของนางได้

และสตรีนางนี้คือเจ้าของสายตาที่ทำให้เย่หวูเฉินตื่นตัว

นางก้าวขึ้นมาบนเวทีโดยไม่ทักทายใคร และไม่มีใครเอ่ยหยุดนาง

เมื่อเข้ามาใกล้ ส่วนโค้งเหล่านั้นน่าเย้ายวนยิ่งกว่าเดิม กดข่มทุกโฉมสะคราญ อกอัศจรรย์คู่นั้นแทบอยู่ต่อหน้าต่อตา เขาไม่อาจฝืนสายตาไม่ให้มองพวกมัน ดวงตาของนางราวกับปกคลุมด้วยม่านหมอก นางมองเขาด้วยรอยยิ้มที่น่าหลงใหลและเมามาย สายตาของเย่หวูเฉินมองลามขณะที่ถาม “พี่หญิงใหญ่ท่านนี้ มีอะไรให้ข้าช่วยหรือ?”

หญิงสาวโก่งคิ้วงอน หัวเราะอย่างน่าหลงใหล “ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่ น้องชายน้อย เรียกข้าว่าพี่หญิงก็พอ เรียกข้าว่าพี่หญิงใหญ่ไม่ดีเลย ส่วนไหนของพี่หญิงที่ใหญ่อย่างนั้นหรือ?”

เมื่อนางหัวเราะ ใบหน้าธรรมดากลายเป็นยิ่งมีเสน่ห์แต่ไม่ถึงกับน่าหลงใหล น้ำเสียงไม่ใช่ทั้งอ่อนโยนและน่ารักใคร่ของหญิงสาว เนื่องจากมันกลมกล่อมสมบูรณ์กระนั้นยังฟังดูเอื่อยคร้าน เสียงอ่อนหวานแฝงความหยิ่งและยั่วยวน ยามได้ยินสามารถเขย่าหัวใจ คล้ายวิญญาณจะหลุดออกจากร่างและตามเสียงนั้นไป

เย่หวูเฉินทั่วร่างอ่อนระทวย เขารีบรำงับจิตใจแล้วลอบถอนใจบาง

เย่หวูเฉินไม่ต้องการมีเรื่องยุ่งยากเพราะนาง แม้นางจะใหญ่ไม่ธรรมดา แต่ต่อให้เขาเป็นคนโง่ก็ดูออกว่าสตรีประหลาดนางนี้เจาะจงมาหาเขาโดยเฉพาะ

นางมาจากไหน...และเป็นพวกของใคร?

“ถ้าอย่างนั้น ข้าขอบังอาจถามชื่อของพี่หญิง”

“โอ้ น้องชายน้อยผู้นี้ไม่สุภาพเอาเสียเลย เจ้าจะถามชื่อของสตรีที่พึ่งพบหน้าได้อย่างไร?” หญิงสาวหัวเราะป้องปาก เย้าแหย่ขณะส่งสายตา

หากสตรีทั่วไปทำท่าทางรวมทั้งใช้น้ำเสียงและสีหน้าเช่นนี้ นางคงได้รับการตอบสนองด้วยการอาเจียน แต่เมื่อสตรีนางนี้กระทำ นางยิ่งดูมีเสน่ห์ยั่วยวน เสียงของนางยิ่งกระชากวิญญาณ ทำให้ผู้คนรู้สึกว่านางไม่ได้แกล้งทำหากแต่เป็นธรรมชาติของนาง

มารเสน่ห์... เย่หวูเฉินลอบตั้งชื่อชั่วคราวให้สตรีนางนี้ วาจาและท่าทางเข้ากับร่างที่เป็นดั่งมาร ดึงดูดใจไร้ที่เปรียบ หากมีดวงหน้างามสมบูรณ์ นางย่อมกลายเป็นมารเสน่ห์ที่งามล่มโลกา

ฉุ่ยหนานเหอสายตามองสำรวจสตรีผู้งดงามทุกสัดส่วนรายละเอียด เมื่อเขาสรุปรวมทุกอย่างด้วยสีหน้าจริงจัง เขาก็ลดเสียงลงแล้วกล่าว “สาวน้อย เราเคยพบกันมาก่อน เจ้ายังจำข้า ชายชราที่ถูกเจ้าทำร้ายเมื่อตอนนั้นได้หรือไม่?”

ทำร้ายฉุ่ยหนานเหอ? เย่หวูเฉินประหลาดใจ คิ้วของเขาขมวดและยิ่งตื่นตัวขณะเผชิญหน้ากับหญิงงามนางนี้ คนที่สามารถเอาชนะฉุ่ยหนานเหอแห่งสำนักจักรพรรดิใต้ได้ย่อมไม่ใช่คนธรรมดา

“เอ๋?” หญิงงามหันสายตาไปมองสำรวจดูฉุ่ยหนานเหอ จ้องมองชายชราที่อายุเกือบร้อยปีจนเขารู้สึกไม่สบายตัว “ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่ ท่านล้อข้าเล่นแล้ว ท่านคือตัวตนที่ทุกคนต่างนับถือ ท่านปู่เทพโอสถ ข้าโชคดียิ่งนักที่ได้เจอท่านด้วยตัวเองในวันนี้ ข้าเพียงรู้ทักษะแพทย์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไร้พลังขนาดจะเชือดไก่ แล้วข้าจะทำร้ายท่านปู่เทพโอสถได้อย่างไร?”

ฉุ่ยหนานเหอจ้องที่นางเป็นเวลานาน เขาดูไม่ผิดแน่ๆ จากนั้นส่ายศีรษะแล้วกล่าว “ฮ้า อภัยให้ชายชราผู้นี้ที่สายตาฝ้าฟางจนจำคนผิด โปรดอย่าได้ถือสาเลยสาวน้อย”

หญิงงามคนนี้กับสตรีลึกลับที่เอาชนะเขาเมื่อห้าปีก่อน แม้ว่าจะมีน้ำเสียงเหมือนกัน แต่หน้าตาและรูปร่างต่างกันโดยสิ้นเชิง เขาเพียงสัมผัสถึงความรู้สึกที่คุ้นเคยบางเบา และไม่อาจทนปล่อยผ่านมันได้ ดังนั้นเขาจึงถามเพื่อตรวจสอบ ครั้งนี้เขายอมรับว่าตนเองจำคนผิดจริงๆ

“ข้าจะโทษท่านได้อย่างไร ท่านปู่เทพโอสถ เพียงแต่ข้าได้ยินจากท่านว่าน้องชายน้อยคนนี้กลับมีทักษะแพทย์สูงส่งกว่าท่าน ข้าไม่เชื่อถืออย่างแท้จริง” นางกล่าวพร้อมรอยยิ้มขณะเบี่ยงสายตามองใบหน้าของเย่หวูเฉิน ดวงตาม่านหมอกมองด้วยความพึงพอใจ สายตาเปลือยเปล่าทำให้เขาต้องขยับออกห่างจากนาง

ไม่เพียงแค่ในทวีปเทียนเฉิน กระทั่งในอาณาจักรเก่าของตนก็เป็นพวกอนุรักษ์นิยม สตรีไม่ควรมองมองบุรุษเช่นนี้โดยเฉพาะนางที่เพิ่งพบหน้ากัน

“ถ้าอย่างนั้น แสดงว่าท่านต้องการประชันทักษะการรักษา?” เย่หวูเฉินกล่าวอย่างจนใจ การยั่วยุของนางเขียนชัดอยู่บนใบหน้า ต่อให้คนโง่ก็รู้ว่านางวางแผนทำอะไร

“น้องชายน้อยฉลาดยิ่งนัก เจ้าต้องการแข่งกับข้าหรือไม่? หากเจ้าชนะย่อมมีรางวัล” นางหันร่างชดช้อยไปทางประธานฉินแล้วกล่าว “ท่านปู่ชรา ข้าขอแข่งกับน้องชายน้อยผู้นี้ก่อนสักรอบหนึ่งได้หรือไม่? วันนี้ก็นับเป็นวันประชันการรักษาอยู่แล้ว”

“เรื่องนี้...” ชายชราฉินลังเลชั่วขณะ แต่เขากล่าวอย่างสุขุม “งานประชันการรักษายังไม่ได้เริ่มขึ้น หากเจ้ายังฝืนแข่งจะเท่ากับเป็นการทำลายกฎ...”

โดยไม่รอให้เขากล่าวจบ ฉุ่ยหนานเหอก็ชิงขัดจังหวะ “ประธานฉิน ในเมื่อสาวน้อยผู้นี้มีความตั้งใจ ท่านควรปล่อยให้พวกเขาแข่งขันกัน ข้าไม่ได้กล่าวเกินเลยเกี่ยวกับความสามารถของน้องชายผู้นี้ และสาวน้อยผู้นี้ก็ตั้งใจท้าเขาก่อน นางย่อมไม่ใช่ผู้มีสังกัดธรรมดา บางทีพวกเขาอาจทำสิ่งที่เหนือความคาดหมายของพวกเรา สาวน้อย,เจ้าพูดถูก วันนี้คือวันประชันการรักษา งั้นก็ให้พวกเจ้าแข่งเป็นคู่แรกเลย”

การที่ฉุ่ยหนานเหอตะโกนเรียกเย่หวูเฉินชัดเจนว่าเขาต้องการดูทักษะของเย่หวูเฉินไม่ว่าจะใช้วิธีใด หญิงงามผู้นี้ท้าทายเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อเห็นประธานฉินมีทีท่าอยากหยุดเรื่องนี้ลง ฉุ่ยหนานเหอจึงรีบพูดหยุดเขาทันที

เมื่อเทพโอสถออกปาก ประธานฉินจึงไม่กล้ากล่าวต่อ ดังนั้นเขาจึงรับคำทันที เขาเองก็อยากเห็นทักษะแพทย์ปาฏิหาริย์ของเย่หวูเฉินผู้ที่ถูกยกย่องอย่างมากจากฉุ่ยหนานเหอ



<<<PREV    .    NEXT>>>