วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 171

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 171 ละเมิดล่วงล้ำ

มือขาวหิมะคว้าจับแขนเขาจากเบื้องหลัง เสวี่ยเฟยเยี่ยนกล่าวด้วยน้ำเสียงเสน่หาน่าใคร่ “พี่หญิงจะพาเจ้าไปดูบางสิ่งที่เจ้าต้องชอบแน่ๆ”

เย่หวูเฉินไม่มีเวลาทันได้ขัดขืน ร่างของเขาเบาหวิวในฉับพลัน สายลมเย็นแผ่วพัดผ่านใบหู เมื่อเขารู้ตัวอีกที ก็พบว่าตัวเองอยู่กลางอากาศเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว

ด้วยพลังที่ผุดขึ้นและสงบลง ทงซินที่หลับอยู่พลันลืมตาขึ้น แต่เมื่อนางรู้สึกว่าไม่มีอันตรายใดๆ นางหาวอย่างเกียจคร้าน กุมมือน้อยๆของหนิงเสวี่ยแล้วหลับต่อ

“ท่านจะพาข้าไปที่ไหน?”

ตอนนี้เองที่เย่หวูเฉินตระหนักว่าเสวี่ยเฟยเยี่ยนสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ แม้ว่านางจะพาเขาบินไปพร้อมกัน ความเร็วของนางก็ยังเหนือล้ำไม่เปลี่ยนแปลง สายลมเย็นยามราตรีพัดโบกผ่านใบหู ด้วยความสามารถเช่นนี้ เขาจำต้องประเมินสถานะของนางใหม่อีกครั้ง

“เจ้าออกจะฉลาด นี่เดาไม่ได้เลยหรือ?” เสวี่ยเฟยเยี่ยนยิ้มอย่างมีความสุข นางบิดเอวบางพริ้วร่างลงบนกิ่งไม้ใหญ่ เงียบงันไร้เสียงราวกับเกล็ดหิมะสองชิ้น

เย่หวูเฉินกำลังจะเอ่ยปากพูดก็ถูกมืออุ่นหยกงามปิดปากเอาไว้ “ชู่วว... เจ้าต้องไม่ส่งเสียงดัง หากใครบางคนพบตัวเจ้า พี่หญิงสามารถหนีได้ แต่เจ้า...”

นางยิ้มยั่วยวน ใช้นิ้วชี้มือซ้ายวาดเป็นวงเบาๆ ด้านข้างพวกเขากิ่งใบหนาแน่นของต้นไม้ถูกแยกออก มันค่อยๆร่วงลงไปบนพื้นทีละชิ้นเบาเงียบราวกับขนนก

ผ่านรอยแยกเล็กๆของกิ่งก้าน เป็นสระกระจ่างสะท้อนแสงจันทร์ราวกับผลึก บนริมสระ มีร่างขาวงดงามราวกับนางเซียนยืนอยู่ แขนหยกเรียวงามแกะผ้าขาวที่คาดเอวออก นางถอดชุดหิมะขาวและกระโปรงไหมสีชมพู เผยเรียวขาขาวและแขนงดงาม เหลือเพียงชุดชั้นในสีชมพูที่ปกปิดร่างของนางเอาไว้ แต่มันไม่อาจปิดบังหน้าอกของนางได้มิดหมด สร้างฉากที่ชวนมึนเมา เย่หวูเฉินย้ายมือของเสวี่ยเฟยเยี่ยนออกไป เบือนหน้าหนีไปในใจก็คิด “ว่าแล้วต้องเป็นเช่นนี้”

“โอ้ ถึงแม้น้องหญิงผู้นี้จะนิสัยแย่ แต่เรือนร่างของนางงดงามเกินผู้ใดจะคาดคิด กระทั่งข้าเองยังหลงใหลในความงามของนาง”

ตำแหน่งที่พวกเขาอยู่นั้นใกล้กับเมิ่งจื่อมาก สำหรับสตรีที่ถือความบริสุทธิ์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดยิ่งกว่าชีวิตตน นางย่อมเพิ่มความระมัดระวังอยู่ในระดับสูงสุด จนแม้กระทั่งเสียงเล็กน้อยก็ไม่หลุดรอดสัมผัสนาง เสียงของเสวี่ยเฟยเยี่ยนได้ยินเบาบาง แม้ว่าปากนางขยับเล็กน้อย แต่เสียงของนางราวกับว่าได้ยินตรงเข้าสู่หัวใจ ความสามารถเช่นนี้ทำให้เย่หวูเฉินประเมินนางสูงขึ้นอีก แต่ตอนนี้เขาไม่อาจเอ่ยคำพูดได้ เขาไม่กล้าขยับร่างกายด้วยเช่นกัน ไม่เช่นนั้น เมิ่งจื่อที่มีระดับพลังใกล้เคียงกันย่อมสัมผัสได้ยิน และจากนิสัยของมารเสน่ห์ นางย่อมหายตัววับไป หากเป็นเช่นนั้นเขาย่อมไม่อาจอธิบายแก้ตัว

“ร่างกายงดงามอะไรเช่นนี้ ชายชาตรีอย่างเจ้าต้องชมชอบเป็นแน่ ดูสิว่าข้าดีกับเจ้าแค่ไหน”

สองมือลูบใบหน้าของเย่หวูเฉิน จากนั้นค่อยๆหันใบหน้าของเขาไป เสวี่ยเฟยเยี่ยนเคลื่อนริมฝีปากไปที่ใบหูของเขา แล้วเป่าลมหายใจหอมหวาน นางกล่าวคลุมเครือ “อิสตรีมักขี้อิจฉา เพื่อให้เจ้ามีความสุข ข้าเพิกเฉยความอิจฉาของตัวเอง...”

เย่หวูเฉินร่างระทวย เขาลืมตาขึ้นเล็กน้อย แต่หลังจากนั้น เขาไม่อาจหลับตาลงได้อีกเลย

เมิ่งจื่อไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครบางคนกำลังถ้ำมองนางอยู่บนต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ นางก้มลงไปในน้ำ หันด้านข้างให้พวกเขา ด้วยสายตาของเย่หวูเฉิน เวลากลางคืนไม่มีผลใดๆ และยิ่งอยู่ในระยะใกล้เช่นนี้ เขาสามารถมองเห็นทุกสิ่งได้อย่างชัดเจน ผิวขาวหิมะบนเรือนร่างเมิ่งจื่อนั้นไร้ตำหนิ สะอาดและเรียบลื่น ขาเรียวยาวงดงามน่าดึงดูดใจ สลักเสลาเกลี้ยงเกลาราวหยกใส ได้สัดส่วนสวยงาม สะโพกองค์เอวโค้งเว้าได้รูป ทำให้ผู้คนรู้สึกต้องการลูบไล้เลื่อนลงจนถึงข้อเท้า

ผิวพรรณทุกตารางนิ้วปลุกเพลิงให้ลุกโหม โดยเฉพาะหน้าอกหอมฉุยคู่นั้น เติบโตได้ขนาดสมบูรณ์ ปราณีตบรรจงและกระชับได้ทรง พวกมันดุนดันชุดชั้นในแน่น นางเอื้อมมือแกะสายผ้าดำที่ผูกกันอยู่เบื้องหลังลำคอ ผิวขาวหิมะตราตรึง เผยออกมาพร้อมยอดมุกสีชมพู มันกระเพื่อมไหวเล็กน้อยตามการขยับ สายตาของเย่หวูเฉินสั่นไหว

“ยอดเยี่ยมใช่มั้ย?” ดวงตางดงามของเสวี่ยเฟยเยี่ยนหรี่ลงเล็กน้อย  ร่างของนางเบียดชิดกับเขาแน่น เมื่อเห็นเย่หวูเฉินสับสนและไม่ตอบสนองต่อนาง นางยิ้มน่าหลงใหลแล้วขยับริมฝีปากหอมหวานเข้าใกล้ จากนั้นยื่นลิ้นเลียขอบใบหูของเขาอย่างนุ่มนวล

เย่หวูเฉินมึนตึงไปทั้งร่าง เขาเคลื่อนสายตามามองและพบมารเสน่ห์อยู่เบื้องหน้า เขาไม่อาจเข้าใจได้ว่า แท้จริงแล้วนางต้องการสิ่งใด ต้องใช้วิธีแบบไหนเพื่อรับมือกับ ‘ศัตรู’ เช่นนี้?

“หากงดงามก็ควรมองต่อ ข้าจะไม่รู้สึกอิจฉา ไม่อิจฉาจริงๆ...”

เสียงของนางอ้อยอิ่งวนเวียนอยู่ในจิตใจของเขา น้ำเสียงนุ่มนวลราวกับมีพลังมนต์ ทำให้เย่หวูเฉินไม่อาจห้ามตนและมองไปยังสระ ชุดชั้นในของเมิ่งจื่อถูกถอดออกช้าๆจากร่างนุ่มเนียน อกคู่นุ่มสะอาดขาวมันวาว ราวกับคู่บัวตูมน่าหลงใหล กระเพื่อมไหวอยู่ท่ามกลางผิวพรรณหิมะขาว พวกมันมีขนาดกระชับเหมาะมือ เอวเรียวบางสวยงามน่ามอง ร่างสลักน้ำแข็งราวกับแก้วใส ไร้ตะเข็บชายเสื้อใดๆ นางยืนเปลือยเปล่าอยู่ในน้ำ รัศมีเอิบอาบทำให้ทั่วทุกบริเวณต้องหยุดหายใจ แสงจันทราต้องร่างงาม สร้างฉากนางเซียนชำระกาย

พริกขี้หนูที่ชูขยับ หน้าอกทรนง เต็มเหมาะในหนึ่งมือ เอวบางที่อ้อนแอ้น ผิวหิมะที่เรียบลื่น หอมละมุนด้วยสะโพกกลมกลึง แผ่นหน้าท้องราบเรียบน่าสัมผัส เรียวขางามสมควร สอดรับกับเรือนร่างไร้บรรยาย ลักยิ้มงดงามราวเซียนฟ้า ลักษณะเหนือฝันทั้งพิสุทธิ์สะอาดไร้มนทิล พรากวิญญาณอย่างแท้จริง

ร่างของนางค่อยๆจุ่มจมลงในน้ำ ด้วยอุณหภูมิของน้ำที่เย็นอยู่บ้าง ร่างของนางผงะเล็กน้อย แต่นางก็เดินหน้าจุ่มร่างลงไปต่อ รื่นรมณ์กับสัมผัสน้ำผ่านทั่วร่างกาย แก้มนางเป็นสีชมพูราวกับหมอกเมฆ เส้นผมราวน้ำตกสลายผ่านบ่าและลำคอ ลงไปถึงอกอันน่าหลงใหลที่ชันและตั้งตรง เรือนร่างงดงามนุ่มนวลปราณีตหยดย้อยถึงขีดสุด สว่างและสะอาด ผิวท้องขาวเรียบนุ่มละมุน ด้านล่างเป็นกอขนนุ่มที่จุ่มอยู่ในน้ำ

เย่หวูเฉินเลือดอุ่นพุ่งพล่าน แต่ร่างของเขาแข็งทื่อไม่อาจขยับหรือปิดตาได้ เสวี่ยเฟยเยี่ยนยังคงมีรอยยิ้ม สายตานางมองไปมาระหว่างร่างเปลือยเปล่าของเมิ่งจื่อและใบหน้าของเย่หวูเฉิน รอยยิ้มของนางยิ่งมายิ่งน่าหลงใหล

เมิ่งจื่อก้มเอวบาง ใช้นิ้วลูบไล้ทำความสะอาดขา ก้อนเนื้อกลมสองลูกเบียดกันเป็นทรงสวย น้ำไหลหยดลงตรงจุดปลายของอกกลม จากนั้น คล้ายกับว่านางเหยียบหินลื่นใต้ฝ่าเท้า ร่างของนางไหวเซ นางรีบขยับเท้าอีกข้างยันไว้ ขาทั้งสองจึงอ้าออกในขณะเดียวกัน ด้วยภาพเช่นนั้นแทบจะทำให้ภาชนะโลหิตของเย่หวูเฉินขยายทะยาน

“น้องชายน้อย ร่างกายเจ้าตอบสนองแล้ว”

เสียงมนต์มารดังขึ้นอีกครั้งในใจของเย่หวูเฉิน ดวงตายิ้มของเสวี่ยเฟยเยี่ยนมองบางสิ่งที่อยู่ระหว่างขาของเขา ขณะเดียวกันนางก็คว้าจับมันไว้ในกำมือแล้วบีบมันเบาๆ ความรู้สึกอุ่นแข็งในมือทำให้นางหน้าฝาดแดง นางยังคงเผยรอยยิ้มน่าหลงใหล

เย่หวูเฉินร่างกายแข็งค้างไม่อาจควบคุมความร้อนรุ่มที่พุ่งแผ่ไปทั่วร่าง แสงปีศาจสีแดงแปลกประหลาดวาบออกจากดวงตาในขณะนั้น แสงประหลาดนี้ทำให้เสวี่ยเฟยเยี่ยนตกใจ จิตใจของนางที่ควบคุมเย่หวูเฉินไว้ถูกตัดสะบั้นในพริบตา... คล้ายหายสลายไปในอากาศว่าง

เมื่อได้อิสระคืนมา เย่หวูเฉินเผยสีหน้าน่าเกลียด เขายื่นมือออกคว้าปกเสื้อขณะที่นางไม่ทันตั้งตัว สองมือฉีกชุดหิมะและเสื้อชั้นใน หน้าอกขนาดใหญ่สองข้างทะลักออกมา ก้อนอกหิมะขาวยามนี้ไร้สิ่งปิดบัง ชั่วขณะที่มันเผยออกมา อกมหึมานั้นไม่ห้อยหย่อน แต่มันกลมตึงสมบูรณ์ ขาวหิมะนุ่มนวล ราวพระจันทร์เต็มดวงสว่างไร้ราคีเกาะอยู่บนอก รูปทรงงดงามไร้สิ่งเปรียบเทียบเกินจินตนา 

ขณะที่เขาฉีกชุดของเสวี่ยเฟยเยี่ยน เมิ่งจื่อกำลังวักน้ำในสระอาบร่าง ชำระผิวพรรณงดงามมันวาว เสียงน้ำกระฉอกกลบเสียงชุดขาด ทำให้นางไม่ทันสังเกตสิ่งใด บนหลังมือซ้ายของเย่หวูเฉิน รอยจางสามรอยที่เขาไม่เคยสนใจ ตอนนี้มันเปล่งแสงสีแดงอยู่อย่างเงียบงัน

พลังจิตใจถูกหยุดโดยไม่ทันตั้งตัว เสวี่ยเฟยเยี่ยนจึงรู้สึกมึนงงไร้สภาพการปกป้อง อกมหึมาถูกเย่หวูเฉินใช้มือบีบเค้นอย่างรุนแรง โนมเนื้อดันออกระหว่างซอกนิ้วมือ หนึ่งฝ่ามือไม่อาจชื่นชมกับอกหิมะได้เต็มที่ เขาจึงใช้นิ้วทั้งสิบบีบจับและเค้นคลึง รื่นรมณ์กับอกงามน่าอัศจรรย์

จุดยอดหิมะนั้นอ่อนไหวเป็นที่สุด เขาก้าวร้าวราวกับพายุคลั่ง ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดในการบีบเค้น นางกัดฟันทนแรงกดบนอกตน เขาหอบหายใจหนักขณะที่ขย้ำบีบ ทันใดนั้นเขาประกบปากติดกับนาง กดระงับเสียงที่เกือบหลุดออกมา นางเงยหน้าเชิดคอหงส์หยก นางตบขาของเขาจนตัวสั่นแต่ไร้ผล เย่หวูเฉินดึงสองจุดปลายพร้อมกันด้วยสองมือ

“อย่า... อย่าทำแบบนี้... อ๊า...” ร่างของเสวี่ยเฟยเยี่ยนอ่อนไหวต่อสัมผัส นางหดเกร็งในขณะเดียวกัน นางไม่อาจทนรับความเจ็บปวด ขาทั้งคู่เบียดชิดติดกัน มือไม้ของนางดิ้นรนแต่ไม่อาจต้านทาน ในเวลานี้เอง มีน้ำเสียงน่าหวาดหวั่นดังขึ้นมา

“นั่นใคร!”

เย่หวูเฉินหยุดอาการบ้าคลั่ง เพราะเสียงของเสวี่ยเฟยเยี่ยน ในที่สุดเมิ่งจื่อก็รู้ตัวว่ามีใครบางคนแอบอยู่ เสียงของนางทำให้เย่หวูเฉินและเสวี่ยเฟยเยี่ยนรู้สึกตัวขึ้นพร้อมกัน เขามองอกมหึมาที่สั่นไหวด้วยรอยจ้ำ ชั่วขณะนั้นเขาไม่ทราบทำสีหน้าอย่างไร เขาใช้ความเร็วสูงสุดพุ่งไปด้านตรงข้าม  ในพริบตานั้น เขาได้หายไปในความมืด

เสวี่ยเฟยเยี่ยนหอบหายใจ นางยังไม่ฟื้นคืนสติสมบูรณ์จากสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปกะทันหัน ความรู้สึกเจ็บบนหน้าอกทำให้นางไร้เรี่ยวแรง นางไม่อยากขยับร่างแม้แต่นิ้วเดียว



<<<PREV    .    NEXT>>>