วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 158

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 158 ใครจะเป็นเหยื่อ

เย่หวูเฉินกล่าวเย็นชา “พี่หญิงท่านนี้ หากท่านต้องการแข่งขันทักษะแพทย์ ในงานนี้มีผู้คนมากมายที่ท่านสามารถท้าแข่งได้ ทักษะแพทย์ของข้าต่ำต้อย ข้าจะไม่แข่ง”

ฉุ่ยหนานเหอกลายเป็นกังวลเมื่อได้ยิน ขณะที่กำลังจะเปิดปากพูดก็ได้ยินเสียงของหญิงงาม “เอ๋? น้องชายน้อย ทำไมเจ้าไม่อยากแข่งกับพี่หญิงละ ข้าน่ารำคาญเพียงนั้นเลยเหรอ?”

“แล้วทำไมข้าต้องแข่งกับท่านด้วย?” เย่หวูเฉินยกยิ้มมุมปากไม่แยแส “ข้าเพียงแค่ผ่านมา ไม่ได้ต้องการเข้าร่วมงานแข่ง ตกลงเป็นท่านที่อยากแข่งกับข้าหรือเป็นข้าที่เรียกร้องแข่งกับท่าน?”

หญิงงามป้องปากด้วยมือเบื้องหนึ่ง อีกเบื้องหนึ่งกุมเอวขณะหัวเราะร่วน บางส่วนของร่างกายสั่นสะเทือนตามการหัวเราะ กระเพื่อมไหวนุ่มนวลและงดงาม การไหวสั่นทำผู้คนมองตากว้าง น้ำลายแทบไหลย้อยออกมาจากมุมปาก “น้องชายน้อย คำพูดเจ้าทำข้าเสียใจ เมื่อครู่นี้ข้าบอกเจ้าแล้วว่า หากเจ้าชนะข้าจะให้รางววัล”

“โอ้? เป็นรางวัลแบบไหนเหรอ?” เย่หวูเฉินเผยทีท่าตื่นเต้นขณะถาม

“ข้าจะยอมรับหนึ่งเงื่อนไข... เป็นเงื่อนไขใดก็ได้” หญิงงามก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว ส่งสายตาทรงเสน่ห์ขณะเข้าใกล้ เย่หวูเฉินแทบได้กลิ่นลมหายใจนาง กลิ่นกายธรรมชาติหอมอ่อนๆในจมูก ชวนให้รู้สึกมัวเมา

เงื่อนไขใดๆ... ท่าทางน่าดึงดูด น้ำเสียงน่าหลงใหล ร่างกายที่งดงาม “เงื่อนๆไขใดๆ” ชวนให้ผู้คนคิดถึงฉากที่ทำให้เลือดลมสูบฉีด หากไม่ใช่เพราะข้อจำกัดของสถานการณ์ พวกชายชราที่ร่างทื่อราวกับศพบนเวทีคงแทบลุกออกมาบอกผู้คนให้รักษามารยาทอันดี ด้านล่างเวทีเวลานี้กำลังเกิดจลาจลย่อมๆ บ้างกลืนน้ำลาย บ้างถูกเผาด้วยเพลิงริษยา บ้างพูดจาเยาะเย้ย...

“แล้วถ้าข้าแพ้ล่ะ?” เย่หวูเฉินยังคงไม่เคลื่อนไหวและถามด้วยสีหน้าราบเรียบ

“หากเจ้าแพ้ เช่นนั้นน้องชายน้อยก็ต้องยอมรับเงื่อนไขของข้าหนึ่งข้อ แต่ท่านปู่เทพโอสถบอกว่าพรสวรรค์การแพทย์ของเจ้าบรรลุขั้นสมบูรณ์แบบ ข้ามีทักษะแพทย์อ่อนด้อยจะเอาชนะเจ้าได้อย่างไร?” หญิงงามกล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

“เห? ถ้างั้นพูดอีกอย่างก็คือ ท่านให้โอกาสข้าทำอะไรกับท่านก็ได้อย่างนั้นสิ? ท่านกับข้าเป็นคนแปลกหน้าที่บังเอิญพบกัน ข้าจะรับไว้ได้อย่างไร”

หญิงงามยิ้มอย่างมีเสน่ห์ ดวงตาราวปกคลุมด้วยหมอก “นี่! น้องชายน้อย ดีแล้วที่เจ้ารู้ แต่เหตุใดเจ้าต้องพูดออกมาเสียงดังด้วย? หนุ่มน้อยน่าหลงใหลและปราดเปรื่องเช่นเจ้า ชั่วขณะแรกที่ข้าพบเห็นจิตใจข้าก็ล่องลอยไปอยู่ที่เจ้า แต่ข้าอายเกินไปที่จะเข้าหา ดังนั้นข้าจะยอมให้เจ้าชนะ เจ้ายินดีหรือไม่น้องชายน้อย?”

หญิงงามเรียกเขาเต็มปากเต็มคำว่า “น้องชายน้อย” หัวใจเขาร้อนเร่าเมื่อถูกเรียกเช่นนั้น กระนั้นนางยังลอบกล่าว “น้องชายน้อย... เจ้าคือน้องชายน้อย ตระกูลของเจ้าทั้งหมดคือน้องชายน้อย”

ถ้อยคำนี้นุ่มนวลและเบาเกินไปที่ผู้คนด้านล่างเวทีจะได้ยินชัด แต่พวกชายชราที่อยู่บนเวทีล้วนได้ยินชัดเจน พวกเขาแต่ละคนมีสีหน้าประหลาด หากแต่พวกเขาทำได้เพียงระงับจิตใจ และทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งใด หากเป็นยามปกติพวกเขาจะต้องกระโดดขึ้นยืน แล้วใช้น้ำเสียงของผู้อาวุโสตะโกนด้วยความเกรี้ยวกราดว่า “กลางวันแสกๆ ใต้ฟ้าและปฐพี สตรีเช่นเจ้ากลับกล่าววาจาที่น่าละอาย ช่าง...”

เย่หวูเฉินยักไหล่ “บุรุษน่าหลงใหลมีอยู่ทุกที่ หากท่านต้องการบุรุษจริงๆ ท่านสามารสุ่มหยิบมาสักคนแล้วโยนตัวเองเข้าหามัน”

หญิงงามสะดุ้งเมื่อได้ยินคำ ขนตายาวพับลงเล็กน้อย สีหน้าคล้ายจะร้องไห้ “เจ้าพูดเช่นนี้ทำข้าเจ็บปวดนัก ข้าปรารถนาเจ้า,น้องชายน้อย,ด้วยหัวใจทั้งดวง ไม่มีใครแทนที่เจ้าได้ในหัวใจข้า” เพียงชั่วขณะถัดมา ดวงตานางดูพร่าไหวขณะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานเลี่ยน “น้องชายน้อย ข้าต้องทำอย่างไรเจ้าถึงจะยอมแข่งกับข้า? ถือเสียว่าข้าขอร้องเจ้าได้ไหม?”

ฉุ่ยหนานเหออยู่มาจนเกือบครบร้อยปี ทั้งยังมีสถานะสูงส่งในสำนักจักรพรรดิใต้ ทำให้เขามีโอกาสพบเจอผู้คนมากมาย เขาจึงมากประสบการณ์รับมือ เขาคือผู้เชี่ยวชาญเรื่องมองคน หญิงงามนางนี้เผยร่างลักษณะน่าดึงดูด แต่ลึกลงไปในแววตาไร้อารมณ์ ตาคู่นั้นทั้งกระจ่างและเย็นชา เขาแน่ใจว่านางมุ่งเป้าที่เย่หวูเฉิน ดังนั้นนางจึงใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างเงื่อนไข ฉุ่ยหนานเหอพึ่งกล่าวต่อหน้าธารกำนัลว่าเย่หวูเฉินมีทักษะแพทย์เหนือล้ำกว่าตน แต่สตรีนางนี้กลับมั่นใจว่าสามารถเอาชนะเย่หวูเฉิน... หรือว่าสตรีผู้นี้จะเป็นผู้มหัศจรรย์อีกคน? หรือบางที นางอาจเป็นคนที่เอาชนะเขาได้ราบคาบเมื่อห้าปีก่อน แต่ครั้งนี้รูปร่างภายนอกแตกต่างออกไป

เมื่อมีความคิดเช่นนี้ในใจ ฉุ่ยหนานเหอจะปล่อยให้สองผู้ยอดเยี่ยมแห่งการแพทย์จากไปเฉยๆได้อย่างไร สำหรับวิธีที่หญิงงามจะใช้กับเย่หวูเฉิน เขาไม่สนใจมากนัก เขารีบก้าวออกมาแล้วใช้จิตวิทยายอดแย่ร่วมกับหนังหน้าหนากระตุ้นให้พวกเขาประลอง “น้องชาย ในเมื่อสาวน้อยผู้นี้ยืนกราน เหตุใดเจ้าถึงไม่แข่งกับนางจะได้จบปัญหา? อย่าบอกข้านะว่าเจ้ากลัวผู้หญิง”

พูดถึงความสามารถมองสิ่งที่แฝงอยู่ในใจ ฉุ่ยหนานเหอไม่มีสิ่งใดที่เทียบได้กับเย่หวูเฉิน ฉุ่ยหนานเหอรู้ดีว่าเย่หวูเฉินเห็นแผนการของสตรีตั้งแต่ประโยคแรกที่เขากล่าวกับนาง เรื่องนี้ฉุ่ยหนานเหอต้องยอมรับอย่างแท้จริง การรับมือกับผู้ที่มุ่งวางแผน วิธีที่สมบูรณ์แบบคืออย่าให้แผนของอีกฝ่ายเสียเปล่า ปล่อยให้แผนนั้นดำเนินไปแล้วฉวยโอกาสคว้าไว้ กุมความได้เปรียบแล้วสวนกลับคืนฝ่ายตรงข้าม

ตั้งแต่เริ่มเดิมที เย่หวูเฉินก็ไม่คิดปฏิเสธคำท้าของหญิงงามอยู่แล้ว

“ในเมื่ออาวุโสเทพโอสถเอ่ยขอ เช่นนั้นข้าจะทุ่มความพยายามแข่งกับท่านสักครั้ง แต่ว่าพวกเราต้องทบทวนเงื่อนไขกันใหม่ หากข้าชนะ ท่านต้องยอมรับเงื่อนไขของข้าสองข้อ และหากท่านชนะ ข้าจะยอมรับเงื่อนไขของท่านหนึ่งข้อ ท่านเป็นคนเริ่มท้าข้าก่อน หากใช้เงื่อนไขเดียวกันก็จะเป็นการไม่ยุติธรรมต่อข้า” เย่หวูเฉินกล่าว สีหน้าคับข้องไม่เต็มใจ

เย่หวูเฉินเชื่อว่าหญิงงามต้องตกลงแน่ เพราะการที่นางสร้างเงื่อนไขก่อนหน้าโดยไม่ลังเลแปลว่านางมั่นใจอย่างยิ่ง กระทั่งเทพโอสถฉุ่ยหนานเหอได้พูดออกมา นางยังมั่นใจว่าจะชนะแน่นอน ไม่เพียงแค่สอง แต่ต่อให้เป็นสิบเงื่อนไขนางก็ย่อมตกลง

หญิงงามโก่งคิ้วด้วยดวงหน้าเสน่ห์ นางกล่าว “น้องชายน้อย เจ้านี่ร้ายนัก แต่ข้ากลับยิ่งชอบเจ้าขึ้น ในเมื่อน้องชายน้อยโลภขนาดนี้ ในฐานะที่เป็นพี่สาว ข้า...ต้องยอมรับอย่างแน่นอน”

“ดีมาก ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มกันได้” เย่หวูเฉินหันไปทางชายชราฉินแล้วถาม “ประธานฉิน ปกติการแข่งนี้ต้องเริ่มยังไง?”

เขาไม่กังวลว่าตนจะแพ้ ทักษะแพทย์ของเขาเหนือล้ำกว่าโลกใบนี้ห่างไกลหลายปี สิ่งที่สำคัญกว่าในตอนนี้คือ พลังที่สามารถฝืนธรรมชาติ สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าทักษะการรักษาทุกชนิด...พลังหวูเฉิน

เมื่อได้ยินเขาตกลง ฉุ่ยหนานเหอถอนหายใจโล่งอก สีหน้าปิติยินดีราวกับพบทองก้อนโต ดวงตาชราสองข้างเจิดจ้าด้วยกลัวว่าจะพลาดรายละเอียดของฉากที่กำลังจะเกิดขึ้นตามมา

ประธานฉินกระแอมไอสองครั้ง หายใจออกแล้วกล่าว “เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะคุมการแข่งให้พวกเจ้าเอง หนุ่มสาว พวกเจ้าต้องการแข่งกันในหมวดไหน? ภายใน , ภายนอก , เข็มเงิน , ยา , ชีพจร...”

“อะไรก็ได้” คนทั้งสองตอบแทบจะพร้อมกันในทันที

“...ดีมาก อย่างนั้นเชิญนั่งลงก่อน” ประธานฉินชี้ไปที่ม้านั่งว่าง

เย่หวูเฉินและหญิงงามไม่เอ่ยสิ่งใดอีก พวกเขาตรงไปและนั่งลง หญิงงามมีรอยยิ้มบนใบหน้า ดวงตาเสน่ห์ส่งสายตาเล่นหูเล่นตา เย่หวูเฉินจ้องตรงไปไม่สนใจนาง ในใจคิดวิธีที่จะใช้ในการแข่งขัน

ผู้คนด้านล่างเวทีกลายเป็นเงียบเชียบ แต่ละคนจ้องมองด้วยตากว้าง ชายที่เทพโอสถยกย่องว่ามีทักษะแพทย์บรรลุขั้นสมบูรณ์ กับมารเสน่ห์ที่เสนอตัวขึ้นบนเวที การแสดงน่าตื่นตากระตุ้นความสนใจทุกผู้คน ทีละคนเริ่มคาดหวังกับผลลัพธ์ในอีกไม่ช้า คนทั่วทิศที่มาร่วมงานต่างไร้กังวล พวกเขาขยับเข้าใกล้เวที ไม่มีใครไม่พอใจหรือคัดค้าน

“เขาชำนาญทักษะแพทย์ด้วยเหรอ?” ไกลจากฝูงชน เมิ่งจื่อมองเย่หวูเฉินผู้ไร้อารมณ์ นางอดไม่ได้และพึมพำกับตัวเอง เห็นได้ชัดว่านางรู้จักชื่อเสียงของฉุ่ยหนานเหอ ยิ่งกว่านั้นนางยังรู้จักดีกว่าผู้ใด เมื่อได้ยินเขากล่าวว่าเย่หวูเฉินมีทักษะแพทย์เหนือกว่าตนจึงสร้างความตกตะลึงอย่างหนักแก่นาง

หนิงเสวี่ยได้ยินที่นางพูดจึงพยักหน้าทันที เงยหน้าน้อยๆขึ้นแล้วกล่าว “ใช่แล้ว! ท่านพี่เก่งที่สุดในโลก ท่านพี่ทำได้ทุกอย่าง... เขาทำทุกสิ่งได้อย่างยอดเยี่ยม”

เมิ่งจื่อ “........”

ประธานฉินนำหนังสือมือสองเล่มเล็กๆออกมาแล้วกล่าว “ก่อนอื่น พวกเจ้าสองคนช่วยตอบคำถามบางข้อของข้า ใครตอบได้ก่อนชนะ เอาละ ฟังให้ดี”

แม้ว่าน้ำเสียงของประธานฉินจะชราและฟังดูไม่ชัดเจน แต่พลังชีวิตของเขาก็เต็มเปี่ยมเต็มที่ เย่หวูเฉินขมวดคิ้ว... ตอบคำถาม? นี่คือส่วนหนึ่งของการแข่งด้วยหรือเนี่ย?

ประธานฉินพลิกหนังสือเล่มเล็กในมือ ยืนขึ้นตั้งกายตรง จากนั้นอ่านเสียงดัง “คำถามแรก <ตำราพื้นฐานชีพจร> ตำราแพทย์เล่มนี้ แพทย์ยิ่งใหญ่ท่านใดที่เป็นผู้เขียน และเขียนในปีไหน”

เย่หวูเฉินพูดไม่ออก นี่คือครั้งแรกที่เขาได้ยินชื่อนี้

ที่เขาคาดไม่ถึงก็คือ หญิงงามก็ไม่เอ่ยปากตอบคำถามเช่นกัน

ในโลกการแพทย์ คำถามนี้คือความรู้พื้นฐานที่สุด ประธานฉินลองใช้คำถามพวกนี้เพื่อทดสอบพวกเขา แต่ผ่านไปนานเขาไม่ได้ยินคำตอบใด เขาวางหนังสือลงแล้วถามด้วยความสงสัย “พวกเจ้าสองคนไม่ได้ยินคำถามชัดเจนหรือ?”

“ข้าได้ยินชัดเจนดี แต่ข้าไม่รู้คำตอบ” เย่หวูเฉินส่ายศีรษะ

หญิงงามยิ่งกล่าวตามซื่อ ใช้น้ำเสียงนุ่มนวลถามช้าๆ “ตำราพื้นฐานชีพจร มันคือสิ่งใด?”

เกิดเสียงกระซิบพึมพำด้านล่างเวที เห็นได้ชัดว่าถกเถียงกันเรื่องใด ชายชราบนเวทีเหลียวมองหน้ากัน ผู้ที่ได้ชื่อว่า “ยอดพรสวรรค์การแพทย์” กลับไม่รู้กระทั่งตำราพื้นฐานที่แม้แต่เด็กห้าขวบยังรู้ นี่มันช่าง...

“ช่างมันเถอะ” หลังจากตกใจ ชายชราฉินก็รำงับสีหน้าแล้วกล่าวต่อ “คำถามที่สอง ‘เคล็ดเข็มอ่อน’ ของเทียนหลงเราถูกใช้มาเกือบ 700 ปี พวกเจ้าทราบหรือไม่ว่า ใครเป็นผู้คิดค้น ‘เคล็ดเข็มอ่อน’ และโรคภัยประเภทใดที่ใช้เคล็ดนี้ในการรักษา?”

เย่หวูเฉิน “.......”

มารเสน่ห์ “.......”

“ถ้าอย่างนั้น.... คำถามที่สาม....”

“ช้าก่อน” เย่หวูเฉินยืนขึ้นแล้วถามอย่างเสียมารยาท “ข้าขอบังอาจถามประธานฉิน จุดประสงค์ของงานชุมนุมครั้งนี้คือเพื่ออะไร?”

“แน่นอนว่าเพื่อทักษะแพทย์” ชายชราฉินตอบ

“ถ้าอย่างนั้นทักษะแพทย์คืออะไร?”

“ทักษะแทพย์... แน่นอนว่าคือความสามารถในการรักษาผู้คน” ชายชราฉินไม่คิดเลยว่าคำถามเช่นนี้จะทำให้เขาชะงักได้

เย่หวูเฉินพยักหน้าแล้วกล่าว “ท่านกล่าวได้ถูกต้องประธานฉิน ทักษะแทพย์คือความสามารถในการรักษาผู้คน คือวิธีเยียวยา ไม่ใช่ถ้อยคำที่ออกมาจากปากคน ในเมื่อนี่คืองานประชันรักษา สิ่งที่ต้องแข่งกันคือทักษะแพทย์ ไม่ใช่ตอบคำถามเล็กน้อยพวกนี้”

“ฮึ่ม! เจ้าไม่รู้แม้กระทั่งความรู้พื้นฐานในโลกการแพทย์ แล้วเจ้าจะเอาอะไรมาคุยเรื่องทักษะการรักษา?” ท่ามกลางชายชราห้าคนที่นั่งอยู่ตรงมุม คนหนึ่งที่นั่งตรงกลางแค่นเสียงเย็นชา



<<<PREV    .    NEXT>>>