วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2561

สวรรค์มวลดาว ตอนที่ 160

Font size: S , M , L , L+ , L++
ตอนที่ 160 เหลือเชื่อ

หญิงงามก้มศีรษะ มือยังคงลอยอยู่เหนือทรวงอกของฮูหยิน ทุกคนรู้สึกงงงวยและไม่เข้าใจว่านางกำลังทำสิ่งใด... คนจำนวนมากคิดว่านางแกล้งแสดง เย่หวูเฉินปิดตาหลับ คิ้วของเขาพลันขมวดมุ่น เพราะเขารู้สึกได้ว่าใต้ฝ่ามือของหญิงงาม อุณหภูมิในร่างของฮูหยินลดลงจนเย็นเยือกอย่างน่ากลัว อุณภูมิต่ำยิ่งแต่ไม่แผ่ออกมานอกร่างทำให้ผู้อื่นไม่สามารถตรวจจับ ราวกับว่ามีพลังประหลาดผนึกไว้อยู่

กลายเป็นว่าหญิงงามผู้นี้น่ากลัวอย่างแท้จริง

ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด หญิงงามก็ยืนขึ้น ยิ้มสวยสดและกล่าว “ให้เวลาข้าสามวันและนางจะหายเป็นปกติ”

“นี่เจ้า... สามารถคืนชีวิตให้นางได้จริงๆ?” ฉุ่ยหนานเหอถามยืนยันอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ไม่เชื่อ

“ท่านปู่เทพโอสถ ท่านไม่เชื่อข้าจริงๆเหรอ? เมื่อกี้ท่านบอกว่าสองคนนี้ไม่อาจมีชีวิตรอดได้เกิน 15 นาที หากพี่หญิงชราคนนี้สามารถมีชีวิตอยู่ได้เกิน 15 นาที แสดงว่าข้าไม่ได้โกหกใช่หรือไม่?” หญิงงามกล่าวโดยไม่รู้สึกกังวล

“คุณหนูท่านนี้... ท่านแน่ใจจริงๆนะ” คนรับใช้สีหน้าเปี่ยมไปด้วยอารมณ์อีกครั้ง ตราบเท่าที่นางสามารถรักษาพวกเขาได้ในเวลาสามวัน ต่อให้เป็นสามสัปดาห์ หรือสามเดือน เขาก็ยังรู้สึกปิติยินดี

“อย่ากังวลเลย หากนางกล่าวว่าสามารถรักษา เช่นนั้นก็วางใจได้” ฉุ่ยหนานเหอสีหน้าสงบอย่างคาดไม่ถึง เขาเหลือบมองหญิงงามเล็กน้อย หัวเราะแล้วกล่าว “วิธีพิเศษที่เจ้าใช้เมื่อครู่นี้ทำให้ข้ารู้สึกคุ้นเคย ต่อให้เจ้าไม่ใช่สตรีที่ข้าพบเมื่อห้าปีก่อน เจ้าก็ต้องมีความเกี่ยวข้องกับนาง บุคคลเหนือธรรมดาเช่นเจ้าย่อมไม่พูดจาส่งเดช เมื่อเทียบกับชายชราอย่างข้าที่ได้ชื่อว่า ‘เทพโอสถ’ ข้ารู้สึกละอายใจยิ่งนัก”

ผู้คนกลายเป็นเงียบงัน เหมือนทุกคนได้ยินคำกล่าวที่สื่อบอกนัย ทีละคนๆเริ่มเคลื่อนสายตาจ้องจับสตรีผู้กำลังจะคืนกลับจากความตาย คำพูดของฉุ่ยหนานเหอบ่งบอกชัดเจนว่าหญิงงามมีพรสวรรค์รักษาเหนือล้ำ

หญิงงามชายตามอง หัวเราะแล้วกล่าว “ท่านปู่เทพโอสถ ข้าไม่คู่ควรกับคำยกย่องของท่าน ข้าเพียงแข่งเล่นกับน้องชายน้อยเท่านั้น” นางเคลื่อนสายตามองที่เย่หวูเฉินแล้วเอ่ย “น้องชายน้อย เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าหลังจากนี้ 15 นาที เจ้าจะแพ้?”

“ไม่จำเป็นต้องรอนานถึงเพียงนั้น” เย่หวูเฉินทอดตามอง สองมือประสานอยู่ที่อก สีหน้าไม่แยแส เขาไม่กล่าวสิ่งใดแล้วเข้าไปหาเจ้าเมืองที่หมดสติอยู่  ย่อกายลงประคองร่างเจ้าเมืองให้นั่งในท่าลาดเอียง

ฉุ่ยหนานโบกมือทำท่าให้ผู้คนเงียบเสียง สายตาที่มองเย่หวูเฉินลุกโชน คาดหวังปาฏิหาริย์ที่ทำให้โลกตะลึง หญิงงามยิ้มบางบนใบหน้า นางไร้ความกังวล มั่นใจเต็มที่ว่าในโลกนี้มีเพียงนางเท่านั้น ที่สามารถรักษาผู้ที่มีอวัยวะภายในเสียหายร้ายแรงในระดับนั้นได้

เย่หวูเฉินประคองร่างของเจ้าเมืองตั้งตรง นำเม็ดยาไม่ทราบชนิดใส่เข้าไปในปาก ปิดคางเขากลับบังคับให้กลืนลงไป จากนั้นลูบหลังโดยใช้หนึ่งมือประคองร่าง มือข้างที่ลูบหลังค่อยๆเคลื่อนพลังหวูเฉินทะลวงผ่านหลัง รักษาอวัยวะภายในพร้อมทั้งขจัดพิษปีศาจราตรีอย่างรวดเร็ว พลังหวูเฉินสามารถลบล้างพิษได้ทุกชนิด รวมไปถึงสามารถผสมพิษได้ทุกชนิดเช่นกัน ดังนั้นเย่หวูเฉินจึงไม่เกรงกลัวพิษใดๆ เขาเท่านั้นที่เคลื่อนพลังได้โดยที่ไม่มีผู้ใดสังเกต ต่อให้เป็นยอดฝีมือขอบเขตเทวะก็ตาม ผู้คนไม่สามารถสัมผัสถึงการมีอยู่ของพลังนี้ได้

ผ่านไปหนึ่งนาทีเย่หวูเฉินก็ถอนมือกลับ จากนั้นกล่าวอย่างระวัง “ประธานฉิน โปรดส่งเข็มเงินให้ข้าสามเล่ม”

ประธานฉินผู้งงงันรีบส่งเข็มเงินสามเล่มให้อย่างรวดเร็ว ในงานประชันการรักษา เป็นไปไม่ได้ที่จะขาดเข็มเงิน

เย่หวูเฉินใช้เข็มเงินสามเล่มจิ้มบริเวณจุดสองนิ้วกลางแผ่นหลัง ขณะเดียวกันก็ส่งพลังเข้าไปในร่างผ่านเข็มเงิน

ร่างไร้สติของเจ้าเมืองสั่นอย่างหนัก จากนั้นฉับพลันเขาก็อ้าปาก กระอักโลหิตสีดำคำโตเลอะอกตัวเอง จากนั้นไออย่างรุนแรงสองสามครั้ง ทันใดนั้นเขาเงยศีรษะขึ้นแล้วมองผู้คนที่อยู่รอบๆด้วยความประหลาดใจ เขาถามด้วยน้ำเสียงไร้เรี่ยวแรง “ที่นี่ที่ไหน?”

ผู้คนรายรอบตกตะลึงพรึงเพริด

“พวกเจ้าเป็นใคร...” สมกับเป็นเจ้าเมือง เมื่อต้องตื่นขึ้นมาในสถานที่ไม่คุ้นตา ทั้งยังมีคนแปลกหน้าจำนวนมากรายล้อมอยู่รอบตัว เขาไม่ได้ตื่นตระหนกใดๆ เพียงกลับคืนความสุขุมอย่างรวดเร็วและถามอย่างอ่อนแรง

“นายท่าน...ฟื้นแล้ว ในที่สุดท่านก็ฟื้นแล้ว... ยอดเยี่ยมนัก... แพทย์ปาฏิหาริย์! ท่านคือแพทย์ปาฏิหาริย์อย่างแท้จริง!”

คนรับใช้ตื่นเต้นอย่างหนักจนพูดขาดจังหวะจะโคน ท่านกลางความเศร้าหมองตรม ในที่สุดเขาก็เห็นดวงตะวันหลังเมฆ หัวใจตระหนกได้คลายความกังวลจนแทบคุกเข่าร้องไห้สะอึกสะอื้น เจ้าเมืองกวาดตามองผู้คน มุ่นคิ้วแล้วถาม “อาฟู เกิดอะไรขึ้นที่นี่? จำได้ว่าเมื่อครู่นี้ข้ากำลังทานอาหารอยู่กับฮูหยิน จากนั้น...” เขาตบหน้าผากของตน ความทรงจำถัดจากนั้นว่างเปล่า เขาพบว่าภรรยานอนอยู่ข้างๆตน ใบหน้าเขาซีดขาวด้วยความตกใจ เขารีบขยับร่างเข้าหาแล้วตะโกน “ภรรยายอดรัก! เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ฮูหยินข้า!”

“นายท่าน ท่านและฮูหยินถูกยาพิษและเกือบต้องจบชีวิตลง แต่แพทย์ปาฏิหาริย์ท่านนี้ได้ช่วยชีวิตท่านไว้” อาฟูตะโกน ใบหน้านองไปด้วยน้ำตาขณะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น เขาไม่กล่าวว่าผู้ใดเป็นคนวางยาเนื่องจากนี่เป็นเรื่องในตระกูล ไม่สมควรกล่าวต่อหน้าผู้คน ในขณะเดียวกัน ผู้คนที่รายรอบเริ่มทยอยแนะนำตัวเอง

เมื่อได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้น เจ้าเมืองกังวลอย่างยิ่ง เขาไม่สนใจร่างที่อ่อนแอของตน รีบกล่าวขอบคุณพร้อมขอร้องเย่หวูเฉิน ผู้ที่กำลังนั่งอยู่ตรงนั้นสงบจิตใจ “ท่านหมอผู้ยิ่งใหญ่ ขอบพระคุณท่านมากที่ช่วยชีวิตข้า ข้าจะจดจำความเมตตาของท่านฝังไว้ในใจ ข้าอยากจะขอร้องท่านอีกครั้งโปรดเมตตารักษาชีวิตของภรรยาข้า ต่อให้ต้องสละชีวิตของข้าเพื่อตอบแทนข้าก็ยินดี”

 เย่หวูเฉินลืมตาขึ้นแล้วพยักหน้าช้าๆ เมื่อเขาใช้พลังหวูเฉินเพื่อรักษาผู้อื่น ทั้งความเร็ว , ความยาก , และการสิ้นเปลืองพลัง เทียบกับเมื่อใช้กับตัวเองแล้วจำต้องใช้เวลาฟื้นฟูอย่างมาก

ผู้คนที่ถูกทหารของเมืองกันไว้ต่างอุทานร่ำร้องถกเถียงกันกระหึ่ม ความตะลึงของพวกเขาไม่อาจเทียบได้กับประธานฉินและฉุ่ยหนานเหอ รวมไปถึง...หญิงงาม พวกเขาคือคนที่เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งถึงสภาพของเจ้าเมืองและภรรยา คราแรกก็นับว่าเหลือเชื่อยิ่งแล้วที่หญิงงามกล่าวว่าใช้เพียงเวลาสามวันเพื่อรักษาฮูหยิน แต่เย่หวูเฉินกลับปลุกเจ้าเมืองให้ตื่นขึ้นมาภายในเวลาเพียงแค่ 15 นาที พวกเขาสามารถเรียกสิ่งที่เกิดได้เพียงว่าเหลือเชื่อ แม้เจ้าเมืองยังดูอ่อนแรงแต่สีหน้าค่อยๆฝาดแดง นั่นคือใบหน้าของคนที่หายจากโรคเล็กน้อย ราวกับว่าเขาถูกรักษาจนหายดีแล้ว!

กระทั่งฉุ่ยหนานเหอยังคิดไม่ถึงอย่างยิ่ง เวลานี้สีหน้าของเขายิ่งกว่าดูเหลือเชื่อ ราวกับเห็นผีสางในยามกลางวัน ยิ่งกว่านั้น ตั้งแต่เริ่มจนจบ เขาไม่อาจรู้วิธีแท้จริงที่เย่หวูเฉินใช้รักษาได้เลย ประธานฉินถึงกับหมดคำพูดและลืมทักทายเจ้าเมือง เขาได้แต่พึมพำซ้ำซากซ้ำมา “ลึกลับยิ่งนัก... ลึกลับจริงๆ...”

รอยยิ้มของหญิงงามชะงักค้างอยู่นานเนิ่น เป็นครั้งแรกที่นางเผยสีหน้าตื่นตระหนก สายตานางจดจ้องที่เย่หวูเฉิน มองแล้วมองอีกไม่ละสายตาไปจากชายหนุ่ม

“ขอบคุณ ท่านแพทย์ปาฏิหาริย์ ขอบพระคุณยิ่งนัก” หลังจากเห็นเย่หวูเฉินผงกศีรษะ เจ้าเมืองก็กล่าวขอบคุณในทันที ด้วยความตระหนกเขาไม่คิดรักษาภาพลักษณ์เจ้าเมือง คำกล่าวของอาฟูที่ว่าเขาเกือบจบชีวิต แท้จริงยังต้องรวมด้วยว่ากระทั่งเทพโอสถยังไม่อาจทำสิ่งใดทั้งยังกล่าว ‘ต่อให้เป็นพระเจ้าก็ไม่อาจช่วย’ แต่กระนั้นเขาก็ยังถูกช่วยชีวิตไว้ได้ บุคคลที่ยอดเยี่ยมปานนี้ แม้วัยยังไม่ถึง 20 ปี แต่เขาก็ไม่เพิกเฉยช่วยชีวิตของตน

เย่หวูเฉินเคลื่อนร่างไปอยู่หลังหญิงมีอายุ ประคองนางขึ้นนั่งเหมือนก่อนหน้า เอาเม็ดยาให้นางกินและกดฝ่ามือบนหลัง จากนั้นใช้วิธีเดียวกันกับที่ใช้กับเจ้าเมืองและรักษานาง

ใช้พลังหวูเฉินลบล้างพิษและรักษาอาการบาดเจ็บ จากนั้นใช้เข็มเงินขับโลหิตเสีย เม็ดยาที่ให้พวกเขากลืนลงไปเพียงใช้ตบตาผู้คน พวกมันเป็นแค่ยาอมเล่นที่หวังเวิ่นชูเตรียมไว้ให้เขา

ฮูหยินเป็นเช่นเดียวกับเจ้าเมือง หลังจากกระอักโลหิตออกมา นางก็ฟื้นคืนสติขึ้น นอกเหนือจากร่างที่อ่อนแอเวลานี้นางไร้อันตรายใด เมื่อได้ฟังเรื่องที่เกิดขึ้นนางก็ขอบคุณลึกซึ้งต่อเย่หวูเฉินเช่นเดียวกัน

เมื่อเย่หวูเฉินยืนขึ้น ร่างของเขาโอนเอนเล็กน้อย จิตใจมึนงงแต่ใบหน้ายังสงบสุขุม และเขาไม่ปฏิเสธคำขอบคุณ เขาเหลือบมองไปที่หญิงงามเพียงพบว่านางกำลังจ้องเขาด้วยรอยยิ้มบาง นางกระพริบขนตาพยับ ราวกำลังเกี้ยวพาเขาด้วยสายตา

“ท่านทั้งสองโปรดอย่าสุภาพเกินไปเลย เรื่องนี้สำหรับข้าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ถึงแม้พวกท่านทั้งสองอาการดีขึ้นแล้วก็จริง แต่ก็ยังจำเป็นต้องกลับบ้านไปผักผ่อนก่อน รักษาสุขภาพอีกเพียงไม่กี่วัน พวกท่านก็จะหายเป็นปกติดี” เย่หวูเฉินกล่าว

“ไม่ ไม่ ข้าสบายดีแล้ว แพทย์ปาฏิหาริย์มีบุญคุณยิ่งใหญ่ที่ช่วยชีวิตพวกเรา ข้าจะจากไปเฉยๆได้อย่างไร? พวกเราอยากเชิญแพทย์ปาฏิหาริย์ไปเยี่ยมเยือนบ้านของพวกเราผู้ต่ำต้อย” เจ้าเมืองกล่าวด้วยความเคารพ

“นั่นไม่จำเป็น” เย่หวูเฉินปฏิเสธตัดบท

เมื่อเจ้าเมืองเห็นสีหน้าของเขา เขาจึงไม่เซ้าซี้ต่อและถามเรื่องอื่น “ในเมื่อท่านแพทย์ปาฏิหาริย์ยืนยัน เช่นนั้นข้าจะไม่ดึงดัน ขอข้าทราบนามของท่านได้หรือไม่?”

เย่หวูเฉินหรี่ตาลง มองตรงที่ดวงตาของเจ้าเมือง ราวกับว่าสามารถเห็นลึกถึงความคิดของเขา “ใต้เท้าอวี้ ท่านไม่ทราบจริงๆหรือว่าข้าคือใคร? ใต้เท้าอวี้และฮูหยินอวี้โปรดกลับบ้านไปก่อน สุขภาพของพวกท่านสำคัญที่สุด”

เขาทราบมาตลอดอย่างดีว่าขณะที่เจ้าเมืองอวี้มองมาที่ตน สายตาของเขาจะสั่นไหวอย่างรุนแรงอยู่สองสามครั้ง อีกทั้งยังเป็นเรื่องผิดปกติ ที่เจ้าเมืองผู้ทรงอำนาจมากอิทธิพลจะแสดงความเคารพต่อเขาถึงเพียงนั้น แม้ว่าเขาจะได้ช่วยชีวิตเจ้าเมืองเอาไว้ก็ตาม เห็นได้ชัดว่าเจ้าเมืองผู้นี้เคยพบและรู้สถานะของเขามาก่อน เป็นไปได้อย่างมากว่าเนื่องจากการประลองครั้งก่อน

จิตใจของใต้เท้าอวี้สั่นไหวด้วยความกลัว เขาคืนความสงบแล้วกล่าว “เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะกลับไปก่อน ข้าหวังว่าท่านหมอผู้ยิ่งใหญ่จะมีเวลาไปเยี่ยมเยือนตระกูลของพวกเรา ประธานฉินและแพทย์ผู้มีเกียรติทั้งหลาย ขออภัยที่ขัดจังหวะงานชุมนุมของพวกท่าน ข้าขอตัว”

หลังจากกล่าวจบเขาก็พยักหน้าให้ผู้คนทีละคน ก้าวขึ้นเกี้ยวของตนและจากไป

เมื่อเจ้าเมืองและผู้คุ้มกันจากไป ฉุ่ยหนานเหอผู้ตระหนกเข้ามาที่ด้านข้างของเย่หวูเฉิน ถามด้วยน้ำเสียงไม่อาจอดทน “น้องชาย น้องชาย เมื่อครู่เจ้าใช้วิธีใดในการรักษา? เหลือเชื่อยิ่งนัก หากผู้ชรานี้ไม่ได้เห็นกับตา...”

“อาวุโสเทพโอสถ การแข่งครั้งนี้ระหว่างข้ากับพี่หญิงท่านนี้ ใครคือผู้ชนะ?” เย่หวูเฉินกล่าวขัดจังหวะอย่างไร้ความเคารพ เขาถามด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

“แน่นอนว่าเจ้าชนะ เรื่องนี้นับว่าเปิดหูเปิดตาข้าอย่างแท้จริง เดิมทีข้าก็คิดว่าทักษะแพทย์ของเจ้าเหนือกว่าข้าอยู่ก่อน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะเหนือกว่าข้ามากถึงเพียงนี้ เจ้าต้องรีบบอกข้ามาเร็ว...”

“เอาละ ท่านมีอะไรจะพูดหรือไม่ พี่หญิง?” เย่หวูเฉินขัดจังหวะเขาอีกครั้ง มองที่หญิงงามด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์

หญิงงามเคลื่อนเอวสมบูรณ์แบบเข้ามา เพียงไม่กี่ก้าวและกล่าวอย่างขัดเคือง “ดูเจ้าสิ ข้าดีใจแท้ๆที่ตัวเองแพ้ ข้ายังจะพูดอะไรอะไรได้อีก? น้องชายน้อย ข้าจะยอมให้เจ้าจัดการข้าได้ตามที่เจ้าต้องการ”

“จริงรึ?” เย่หวูเฉินหัวเราะร้าย ดวงตาจ้องอย่างมั่นเหมาะที่ใบหน้าและลำคอ ก่อนที่เขาจะเคลื่อนสายตาออกไปทางอื่น

“ประธานฉิน ท่านมีปากกากับกระดาษบันทึกหรือไม่?” เย่หวูเฉินถาม

“อ่า? มี มี” ประธานฉินนับถือชายหนุ่มผู้โดดเด่นราวกับเทพสวรรค์โดยแท้ เห็นได้ชัดว่าเขาจะทำทุกสิ่งไม่ว่าเย่หวูเฉินจะร้องขอสิ่งใด เขารีบวิ่งไปบนเวทีเอาปากกากับกระดาษบันทึกแล้วกลับมา เย่หวูเฉินรับไว้แล้วลงมือเขียนโดยไม่ต้องคิด จากนั้นคืนกระดาษกับปากกาให้ประธานฉิน

เมื่อประธานฉินกวาดตาดูกระดาษ ก็พบว่ามันคือใบสั่งยา ตามที่เย่หวูเฉินได้กล่าวไว้ก่อนหน้า เขาจะเขียนให้พวกชายชราแต่ละคนไว้ใช้รักษาตัว



<<<PREV    .    NEXT>>>